
เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak
19 hours ago
·
ผมได้ทราบข่าวจากเมืองไทยว่าราชินีสิริกิติ์ได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเมื่อคืนวาน เวลาประมาณสามทุ่มตามเวลาไทย โดยทางสำนักพระราชวังได้ประกาศให้มีการไว้ทุกข์เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ผมเชื่อว่านับจากนี้ไปก็คงจะมีคนออกมาไว้อาลัยให้แก่ราชินีสิริกิติ์ตามประกาศของรัฐบาลอยู่บ้าง และคงจะมีคนออกมากล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของราชินีสิริกิติ์พอควร
ผมถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่ผู้ชื่นชอบราชินีสิริกิติ์จะจดจำเขาในด้านที่ตัวเองอยากจำ อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าหากจะมองโลกตามความเป็นจริง ก็ควรที่จะจดจำไว้ด้วยว่าราชินีสิริกิติ์นั้นเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงและความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยมาไม่น้อย เช่น
1) ในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ราชินีสิริกิติ์ (พร้อมทั้งสามีและลูก ๆ) ได้มีส่วนจัดตั้งและปลุกระดมกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มมวลชนฝ่ายขวาจัดที่เข้าสังหารหมู่นักศึกษาและประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะถึงวันสังหารหมู่ ราชินีสิริกิติ์ให้การสนับสนุนกลุ่มลูกเสือชาวบ้านอย่างเปิดเผย ทั้งได้ให้มีการอบรมลูกเสือชาวบ้านที่ค่ายฝึกตำรวจตระเวนชายแดนตรงข้ามวังไกลกังวล และยังได้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มลูกเสือชาวบ้านด้วยตัวเอง
ถึงที่สุด ยังได้ช่วยให้จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตทรราชที่ถูกประชาชนขับไล่จนต้องหนีออกนอกประเทศกลับเข้าเมืองไทยได้โดยการรับเป็นเจ้าภาพอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศ ฯ และยังได้พูดป้ายสีกลุ่มนักศึกษาว่าพวกนักศึกษาเป็น “คนใจร้าย” ที่จะบุกเข้ามาทำลายวัด จนเป็นชนวนเหตุนำมาสู่เหตุนองเลือดในเวลาต่อมา
2) ในช่วงความขัดแย้งเสื้อเหลือง – เสื้อแดงในช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้ ราชินีสิริกิติ์ยังได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเข้าข้างกลุ่มพันธมิตร ฯ (เสื้อเหลือง) โดยการไปร่วมงานฌาปนกิจของนางสาวอังคนา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ฯ จากอุบัติเหตุระเบิดในที่ชุมนุมซึ่งยังเป็นปริศนา แต่กลับไม่เคยไปเยี่ยมเยียนหรือร่วมงานศพของผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าถูกรัฐบาลสังหารอย่างโหดเหี้ยมไปเกือบร้อยศพ
นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่าราชินีสิริกิติ์ได้มอบ “ผ้าพันคอ” เพื่อแสดงการสนับสนุนการประท้วงล้มล้างระบอบประชาธิปไตยของกลุ่มพันธมิตร ฯ ดังที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ฯ ได้กล่าวอ้าง เรื่องนี้ ทางวังก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธเลย
ตัวอย่างสองตัวอย่างนี้เป็นเรื่องที่มีหลักฐานปรากฏชัดเป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นที่รับรู้ของผู้ที่ติดตามสถานการณ์ ยังไม่ได้นับอีกว่าในการรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นกลุ่มทหารเสือพระราชินี (บูรพาพยัคฆ์) ซึ่งมีความใกล้ชิดกับราชินีสิริกิติ์เป็นผู้ลงมือ (กลุ่มทหารเสือพระราชินีนี้เดิมทีก่อตั้งโดย พันโทณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช อดีตนายทหารคนสนิทของราชินีสิริกิติ์เอง) ก็น่าคิดอยู่ว่าตัวราชินีสิริกิติ์จะมีความเกี่ยวข้อง รวมถึงต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่ระบอบเผด็จการประยุทธ์ได้ก่อไว้มากเพียงใด
เพียงแค่ตัวอย่างที่ยกมานี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าราชินีสิริกิติ์ไม่ได้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองตามที่บุคคลในสถาบันกษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยพึงกระทำ
ชีวิตของราชินีสิริกิติ์ยังมีคำถามอีกมากที่ยังไม่มีคำตอบ แต่แน่นอนว่าทั้งคำถามและคำตอบพวกนี้ล้วนแล้วแต่ข้องเกี่ยวกับชะตากรรมชีวิตของประชาชนและประชาธิปไตยทั้งสิ้น แม้วันนี้ ราชินีสิริกิติ์จะสิ้นชีวิตไปแล้วแต่ผลกระทบจากการกระทำของราชินีสิริกิติ์ก็ยังคงอยู่ต่อไป
ท้ายที่สุด ผมเชื่อว่าคนเรามีทั้งดีและชั่วปะปนกันทุกคน และท้ายที่สุด คนเราทุกคน เมื่อคืนสู่ธรรมชาติจากโลกไปแล้วก็ยังคงแต่ความดีและความชั่วที่จะปรากฏไว้ในโลก จึงขอยกคำกลอนจาก “กฤษณาสอนน้องคำฉันท์” ว่า
"พฤษภกาสร
อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง
สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย
มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี
ประดับไว้ในโลกา"
ขอบคุณรูปภาพจากเพจอาคม ซิดนีย์ และหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/1436829444471303
·
ผมได้ทราบข่าวจากเมืองไทยว่าราชินีสิริกิติ์ได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเมื่อคืนวาน เวลาประมาณสามทุ่มตามเวลาไทย โดยทางสำนักพระราชวังได้ประกาศให้มีการไว้ทุกข์เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ผมเชื่อว่านับจากนี้ไปก็คงจะมีคนออกมาไว้อาลัยให้แก่ราชินีสิริกิติ์ตามประกาศของรัฐบาลอยู่บ้าง และคงจะมีคนออกมากล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของราชินีสิริกิติ์พอควร
ผมถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่ผู้ชื่นชอบราชินีสิริกิติ์จะจดจำเขาในด้านที่ตัวเองอยากจำ อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าหากจะมองโลกตามความเป็นจริง ก็ควรที่จะจดจำไว้ด้วยว่าราชินีสิริกิติ์นั้นเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงและความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยมาไม่น้อย เช่น
1) ในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ราชินีสิริกิติ์ (พร้อมทั้งสามีและลูก ๆ) ได้มีส่วนจัดตั้งและปลุกระดมกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มมวลชนฝ่ายขวาจัดที่เข้าสังหารหมู่นักศึกษาและประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะถึงวันสังหารหมู่ ราชินีสิริกิติ์ให้การสนับสนุนกลุ่มลูกเสือชาวบ้านอย่างเปิดเผย ทั้งได้ให้มีการอบรมลูกเสือชาวบ้านที่ค่ายฝึกตำรวจตระเวนชายแดนตรงข้ามวังไกลกังวล และยังได้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มลูกเสือชาวบ้านด้วยตัวเอง
ถึงที่สุด ยังได้ช่วยให้จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตทรราชที่ถูกประชาชนขับไล่จนต้องหนีออกนอกประเทศกลับเข้าเมืองไทยได้โดยการรับเป็นเจ้าภาพอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศ ฯ และยังได้พูดป้ายสีกลุ่มนักศึกษาว่าพวกนักศึกษาเป็น “คนใจร้าย” ที่จะบุกเข้ามาทำลายวัด จนเป็นชนวนเหตุนำมาสู่เหตุนองเลือดในเวลาต่อมา
2) ในช่วงความขัดแย้งเสื้อเหลือง – เสื้อแดงในช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้ ราชินีสิริกิติ์ยังได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเข้าข้างกลุ่มพันธมิตร ฯ (เสื้อเหลือง) โดยการไปร่วมงานฌาปนกิจของนางสาวอังคนา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ฯ จากอุบัติเหตุระเบิดในที่ชุมนุมซึ่งยังเป็นปริศนา แต่กลับไม่เคยไปเยี่ยมเยียนหรือร่วมงานศพของผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าถูกรัฐบาลสังหารอย่างโหดเหี้ยมไปเกือบร้อยศพ
นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่าราชินีสิริกิติ์ได้มอบ “ผ้าพันคอ” เพื่อแสดงการสนับสนุนการประท้วงล้มล้างระบอบประชาธิปไตยของกลุ่มพันธมิตร ฯ ดังที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ฯ ได้กล่าวอ้าง เรื่องนี้ ทางวังก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธเลย
ตัวอย่างสองตัวอย่างนี้เป็นเรื่องที่มีหลักฐานปรากฏชัดเป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นที่รับรู้ของผู้ที่ติดตามสถานการณ์ ยังไม่ได้นับอีกว่าในการรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นกลุ่มทหารเสือพระราชินี (บูรพาพยัคฆ์) ซึ่งมีความใกล้ชิดกับราชินีสิริกิติ์เป็นผู้ลงมือ (กลุ่มทหารเสือพระราชินีนี้เดิมทีก่อตั้งโดย พันโทณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช อดีตนายทหารคนสนิทของราชินีสิริกิติ์เอง) ก็น่าคิดอยู่ว่าตัวราชินีสิริกิติ์จะมีความเกี่ยวข้อง รวมถึงต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่ระบอบเผด็จการประยุทธ์ได้ก่อไว้มากเพียงใด
เพียงแค่ตัวอย่างที่ยกมานี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าราชินีสิริกิติ์ไม่ได้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองตามที่บุคคลในสถาบันกษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยพึงกระทำ
ชีวิตของราชินีสิริกิติ์ยังมีคำถามอีกมากที่ยังไม่มีคำตอบ แต่แน่นอนว่าทั้งคำถามและคำตอบพวกนี้ล้วนแล้วแต่ข้องเกี่ยวกับชะตากรรมชีวิตของประชาชนและประชาธิปไตยทั้งสิ้น แม้วันนี้ ราชินีสิริกิติ์จะสิ้นชีวิตไปแล้วแต่ผลกระทบจากการกระทำของราชินีสิริกิติ์ก็ยังคงอยู่ต่อไป
ท้ายที่สุด ผมเชื่อว่าคนเรามีทั้งดีและชั่วปะปนกันทุกคน และท้ายที่สุด คนเราทุกคน เมื่อคืนสู่ธรรมชาติจากโลกไปแล้วก็ยังคงแต่ความดีและความชั่วที่จะปรากฏไว้ในโลก จึงขอยกคำกลอนจาก “กฤษณาสอนน้องคำฉันท์” ว่า
"พฤษภกาสร
อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง
สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย
มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี
ประดับไว้ในโลกา"
ขอบคุณรูปภาพจากเพจอาคม ซิดนีย์ และหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/1436829444471303