วันพุธ, ตุลาคม 29, 2568

สว.นันทนา คือคนที่ร่วมต่อสู้ เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลกระบวนการฮั้วสว. วันนี้กลับถูกเล่นงานด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรม จากกลุ่มที่หลายคนยังพัวพันกับข้อกล่าวหาฮั้วสว. ทำตัวกันแบบนี้ สังคมถึงตั้งคำถามเย้ยหยันว่า มีสว.ไว้ทำไม








 




พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu
4 hours ago
·
[ มติเสียงข้างมากวุฒิสภาเรื่อง สว. นันทนา สุ่มเสี่ยงจะถูกมองว่าเป็นการใช้ “ดุลพินิจตามอำเภอใจ” เพื่อนำเอากลไกเรื่องจริยธรรมมาตอบสนองประโยชน์ส่วนตนทางการเมือง ]
.
มติเสียงข้างมากของสมาชิกวุฒิสภาวันนี้ ที่ลงความเห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของ สว. นันทนา นันทวโรภาส เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมส่งเรื่องต่อให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อทางกฎหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความน่ากังวลของการใช้ “ดุลพินิจตามอำเภอใจ” เพื่อนำเอากลไกเรื่องจริยธรรมมาสกัดกั้นคู่แข่งทางการเมือง
.
แม้เราย่อมมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ ว่าคำให้สัมภาษณ์ของ สว. นันทนา ที่ถูกร้องเรียน เป็นข้อความที่มีความเหมาะสมหรือไม่ หรือสมควรจะมีการแสดงความรับผิดชอบโดยการกล่าวคำขอโทษต่อคู่กรณีหรือไม่ ( https://www.youtube.com/watch?v=ePwqmXvZP6o ) แต่การตีความว่าคำพูดดังกล่าว เข้าข่ายการ “ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง” เป็นอะไรที่สังคมตั้งคำถามว่าอาจ “ไม่ได้สัดส่วน” กับการกระทำที่เกิดขึ้น
.
พอมาพิจารณาประกอบกับการทำงานและสถิติการลงมติของ สว. 200 คนชุดปัจจุบัน ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ที่ดูเหมือนมีการแบ่งกลุ่มก้อนทางความคิดกันค่อนข้างชัดเจนระหว่างเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย (ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ตำแหน่ง) สังคมจึงอดคิดไม่ได้ว่าการลงมติในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการใช้อำนาจเสียงข้างมากโดยมิชอบ เพื่อตอบสนองประโยชน์ส่วนตนทางการเมือง
.
เราต้องยอมรับว่าในเชิงระบบ การออกแบบกลไกเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน เพราะจริยธรรมเป็นสิ่งที่ต่างคนต่างนิยามไม่เหมือนกันได้
.
ทางออกที่ดีที่สุด (แต่เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก) คือการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งกระทำการใดๆที่สังคมมองว่าขัดจริยธรรม แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยตนเอง แม้ยังไม่ได้ถูกลงโทษผ่านกลไกใดๆทางกฎหมาย
.
แต่แม้ในบรรดากลุ่มคนที่มองว่ามาตรการทางกฎหมายอาจมีความจำเป็น หลายคนมักมองว่าทางออกหนึ่งคือการพยายามไม่ผูกขาดอำนาจในการนิยามและวินิจฉัยเรื่องจริยธรรมไว้กับแค่บางองค์กร แต่คือการออกแบบให้แต่ละองค์กรมีหน้าที่ในการกำกับดูแลจริยธรรมของสมาชิกในองค์กรหรือวิชาชีพตนเอง (เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกันกำกับเรื่องจริยธรรมของแพทย์ / สื่อมวลชน ร่วมกันกำกับเรื่องจริยธรรมของสื่อ / สมาชิกรัฐสภาร่วมกันกำกับเรื่องจริยธรรมของนักการเมือง)
.
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะทำให้ข้อเสนอดังกล่าวเป็นทางออกได้จริงในการกำกับจริยธรรมนักการเมือง คือการที่เรามี “นักการเมืองที่กล้าลงโทษฝ่ายเดียวกันเอง” ไม่ใช่การที่เรามี “นักการเมืองที่มุ่งรวมเสียงฝ่ายเดียวกันเอง เพื่อลงโทษเฉพาะแต่ฝ่ายตรงข้าม”
.
มติของวุฒิสภาวันนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล และจะยิ่งทำให้คนมองว่าข้อเสนอในการออกแบบให้นักการเมืองกำกับจริยธรรมกันเองนั้น เสี่ยงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายล้างกันตามอำเภอใจ มากกว่าการร่วมกันรักษาไว้ซึ่งความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่ออาชีพตนเอง
.
ท้ายสุดนี้ แม้ว่าข้อกล่าวหาต่อ สว. นันทนา จะต้องมีการไต่ส่วนต่อไปโดย ป.ป.ช. แต่อย่าลืมว่ากลุ่มคนที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการชี้ขาดว่าใครจะไปเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ก็คือ กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาที่มีมติต่อ สว. นันทนา ในวันนี้ ซึ่งได้มีการรับรองกรรมการ ป.ป.ช. แทนตำแหน่งที่ว่างไปแล้ว 2 ตำแหน่ง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีอีก 2 ตำแหน่ง ที่ สว. ยังคงเดินหน้าพิจารณา..
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1369272274567554&set=a.477705887057535


สว.นันทนา เสียงสะอื้น ลั่นสว.เสียงข้างมาก ลงมติอัปยศ ประกาศลุยสู้สีน้ำเงินทำประเทศส่อหายนะ

มติชนสุดสัปดาห์ - MatichonWeekly

Oct 28, 2025

สว.นันทนา เสียงสะอื้น
ลั่นสว.เสียงข้างมาก ลงมติอัปยศ
ประกาศขอลุยสู้สีน้ำเงิน ที่กดปุ่มสั่งได้ ประเทศส่อหายนะ เผยจะไม่ยอมแตกสลาย

https://www.youtube.com/watch?v=bCNoN8YVbDE