10 hours ago
·
ไม่ได้อยากจะพูดอะไรไม่ดี แต่ก็ควรจะต้องพูดว่าประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่สั่งให้โรงเรียนงดงานรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปีนั้น เป็นประกาศที่โง่และชั่ว
.
ที่ว่าโง่นั้นก็คือ แทนที่กระทรวงศึกษาธิการจะใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งทั้งหลายที่สมเด็จพระพันปีหลวงได้ใช้ทั้งชีวิตของท่านสร้างไว้ แต่กลับมางดกิจกรรมด้วยคำสั่งไร้สติ
เรื่องที่ท่านทำมาตลอดชีวิต และเป็นคุณค่าสากลที่โลกยกย่อง รวมถึงเป็นทักษะสำคัญของพลเมืองไทยและพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 คือเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (เช่น ป่ารักน้ำ) สิทธิมนุษยชน (เช่น พันธกิจของสภากาชาด การสังคมสงเคราะห์ และการเห็นคุณค่าของฝีมือชาวบ้าน) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เช่น งานศิลปาชีพ) และทุนทางวัฒนธรรม (เช่น โขนและประณีตศิลป์) เด็กควรจะได้รู้จักกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่แค่จะได้รู้จักพระองค์ท่าน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้เข้าใจคุณค่าของสิ่งที่ท่านสร้างไว้และเอาไปทำต่อในแบบของตัวเอง
และผมจะบอกอะไรให้ว่า พระพันปีหลวงทรงสร้างความสนุกไว้ให้เราเอาไปใช้มากมาย ลองคิดถึงกีฬาสีที่ใส่ผ้าไทยแบบจัดเต็ม ใช้ดนตรีไทยบรรเลงประกอบกับวงดุริยางค์ แค่นี้ก็สนุกแล้ว หรืองานกีฬาสี Theme สิ่งแวดล้อม ป่ารักน้ำ ฯลฯ ก็ทำได้ ยังไม่รวมงานปีใหม่ งานปลายภาค มี Theme เยอะแยะให้เราเอาไปใช้ได้ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องความยั่งยืน เรื่องนี้ต้องอยู่ในหัวใจของเด็กทุกคน
แทนที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุกและสร้างสรรค์ กลับมาถูกห้ามเพราะความตื้นเขินของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ
ผมเป็นเด็กกิจกรรมมาทั้งชีวิต ลองคิดว่าถ้าได้โจทย์ให้ทำละครเวทีเกี่ยวกับเรื่องศิลปาชีพ หรือสิ่งแวดล้อม หรืออะไรในขอบข่ายนี้ ผมคงจะสนุกมาก และคงไปหาอ่านอะไรต่อมิอะไรมากมาย ดีไม่ดีจะหาเวลาว่างลงพื้นที่ไปคุยกับผู้คนถ้าเป็นไปได้ ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กกิจกรรม และแน่นอนว่าผมได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านสิ่งที่ผมทำ
แต่เพราะเรามีคนไร้สติปัญญาขึ้นมาบริหารการศึกษา คำสั่งที่ออกมาจึงไร้สติปัญญา และทำให้ผู้เรียนไร้สติปัญญาตามไปด้วย
.
.
ถามว่าคำสั่งนี้ชั่วอย่างไร คำตอบก็คือ เด็กส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยชื่ออะไร อยู่พรรคไหน แต่การออกคำสั่งแบบนี้ทำให้เด็กหมดสนุก แล้วทำให้เด็กเกลียด
ไม่แน่ใจว่ากระทรวงศึกษาธิการอยากจะวางยาใครหรือเปล่า โดยอาศัยการที่เด็กจำตัวเองไม่ได้ แต่เด็กอาจจะเข้าใจไปว่าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจอื่น เป็นการ 'ตัดคะแนน' ในการเลือกตั้งครั้งนี้และครั้งหน้าที่จะมาถึง
.
ตอนแรกผมคิดว่าผมจะเขียนถึงเรื่องนี้ด้วยสำนวนเชิงบวกกว่านี้ แต่คิดว่าสำนวนเหล่านั้นไม่สามารถสะท้อนความรู้สึกและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อมต่อเด็กได้
ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสสำคัญของชีวิต
ฉะนั้นจึงโกรธและเสียใจที่เห็นผู้บริหารการศึกษาในบ้านเมือง เหยียบย่ำสิ่งที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงทำมาทั้งชีวิต เพราะทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก
ถ้ายังมีสำนึกอยู่บ้าง และยังมีสมอง คิดและไตร่ตรองใหม่ ยังไม่สาย
https://www.facebook.com/photo?fbid=10231864940991191&set=a.4057702525681
·
ไม่ได้อยากจะพูดอะไรไม่ดี แต่ก็ควรจะต้องพูดว่าประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่สั่งให้โรงเรียนงดงานรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปีนั้น เป็นประกาศที่โง่และชั่ว
.
ที่ว่าโง่นั้นก็คือ แทนที่กระทรวงศึกษาธิการจะใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งทั้งหลายที่สมเด็จพระพันปีหลวงได้ใช้ทั้งชีวิตของท่านสร้างไว้ แต่กลับมางดกิจกรรมด้วยคำสั่งไร้สติ
เรื่องที่ท่านทำมาตลอดชีวิต และเป็นคุณค่าสากลที่โลกยกย่อง รวมถึงเป็นทักษะสำคัญของพลเมืองไทยและพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 คือเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (เช่น ป่ารักน้ำ) สิทธิมนุษยชน (เช่น พันธกิจของสภากาชาด การสังคมสงเคราะห์ และการเห็นคุณค่าของฝีมือชาวบ้าน) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เช่น งานศิลปาชีพ) และทุนทางวัฒนธรรม (เช่น โขนและประณีตศิลป์) เด็กควรจะได้รู้จักกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่แค่จะได้รู้จักพระองค์ท่าน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้เข้าใจคุณค่าของสิ่งที่ท่านสร้างไว้และเอาไปทำต่อในแบบของตัวเอง
และผมจะบอกอะไรให้ว่า พระพันปีหลวงทรงสร้างความสนุกไว้ให้เราเอาไปใช้มากมาย ลองคิดถึงกีฬาสีที่ใส่ผ้าไทยแบบจัดเต็ม ใช้ดนตรีไทยบรรเลงประกอบกับวงดุริยางค์ แค่นี้ก็สนุกแล้ว หรืองานกีฬาสี Theme สิ่งแวดล้อม ป่ารักน้ำ ฯลฯ ก็ทำได้ ยังไม่รวมงานปีใหม่ งานปลายภาค มี Theme เยอะแยะให้เราเอาไปใช้ได้ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องความยั่งยืน เรื่องนี้ต้องอยู่ในหัวใจของเด็กทุกคน
แทนที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุกและสร้างสรรค์ กลับมาถูกห้ามเพราะความตื้นเขินของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ
ผมเป็นเด็กกิจกรรมมาทั้งชีวิต ลองคิดว่าถ้าได้โจทย์ให้ทำละครเวทีเกี่ยวกับเรื่องศิลปาชีพ หรือสิ่งแวดล้อม หรืออะไรในขอบข่ายนี้ ผมคงจะสนุกมาก และคงไปหาอ่านอะไรต่อมิอะไรมากมาย ดีไม่ดีจะหาเวลาว่างลงพื้นที่ไปคุยกับผู้คนถ้าเป็นไปได้ ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กกิจกรรม และแน่นอนว่าผมได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านสิ่งที่ผมทำ
แต่เพราะเรามีคนไร้สติปัญญาขึ้นมาบริหารการศึกษา คำสั่งที่ออกมาจึงไร้สติปัญญา และทำให้ผู้เรียนไร้สติปัญญาตามไปด้วย
.
.
ถามว่าคำสั่งนี้ชั่วอย่างไร คำตอบก็คือ เด็กส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยชื่ออะไร อยู่พรรคไหน แต่การออกคำสั่งแบบนี้ทำให้เด็กหมดสนุก แล้วทำให้เด็กเกลียด
ไม่แน่ใจว่ากระทรวงศึกษาธิการอยากจะวางยาใครหรือเปล่า โดยอาศัยการที่เด็กจำตัวเองไม่ได้ แต่เด็กอาจจะเข้าใจไปว่าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจอื่น เป็นการ 'ตัดคะแนน' ในการเลือกตั้งครั้งนี้และครั้งหน้าที่จะมาถึง
.
ตอนแรกผมคิดว่าผมจะเขียนถึงเรื่องนี้ด้วยสำนวนเชิงบวกกว่านี้ แต่คิดว่าสำนวนเหล่านั้นไม่สามารถสะท้อนความรู้สึกและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อมต่อเด็กได้
ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสสำคัญของชีวิต
ฉะนั้นจึงโกรธและเสียใจที่เห็นผู้บริหารการศึกษาในบ้านเมือง เหยียบย่ำสิ่งที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงทำมาทั้งชีวิต เพราะทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก
ถ้ายังมีสำนึกอยู่บ้าง และยังมีสมอง คิดและไตร่ตรองใหม่ ยังไม่สาย
https://www.facebook.com/photo?fbid=10231864940991191&set=a.4057702525681
.....
Athapol Anunthavorasakul
10 hours ago
·
เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้กำหนดนโยบาย
เรื่อง ขอให้พิจารณาทบทวนนโยบายงดกิจกรรมที่มีบรรยากาศรื่นเริงในสถานศึกษา 1 ปี
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีหนังสือสั่งการ ระบุให้สถานศึกษางดกิจกรรมที่มีบรรยากาศรื่นเริงในสถานศึกษา 1 ปี
การพัฒนาเด็กและเยาวชนนั้นจำเป็นต้องคำนึงพัฒนาทางด้านอารมณ์-สังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสติปัญญาและร่างกาย การเรียนรู้อย่างเป็นทางการในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนในด้านปัญญาและร่างกาย ขณะเดียวกันกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมนอกหลักสูตร และการเรียนรู้ในวิถีชีวิตล้วนมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาผู้เรียนในด้านอารมณ์และสังคม
กิจกรรมกีฬาสี วันปีใหม่ ค่าย กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมชมรม/ชุมนุม และกิจกรรมพิเศษจำนวนมากที่ถูกมองอย่างผิวเผินว่าเป็นไปเพื่อบรรยากาศรื่นเริง และเด็ก ๆ ได้สนุกสนานร่วมกันทำงาน แต่แท้จริงแล้วกิจกรรมดังกล่าวล้วนมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในมิติอารมณ์และสังคม ในด้านความเชื่อมั่นในตนเอง การรู้จักร่วมทุกข์ร่วมสุข การทำงานเป็นทีม การเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี การตระหนักรู้ในตน การรู้คิด การสื่อสารและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น การพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ฯลฯ
หากข้อความในหนังสือสั่งการดังกล่าว จะถูกตีความอย่างคับแคบ ไม่ยืดหยุ่น เหมารวมถึงกิจกรรมเหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบและผลสืบเนื่องต่อการพัฒนาผู้เรียนอย่างน่ากังวลยิ่ง
ทั้งนี้ หากกระทรวงฯ กังวลว่ากิจกรรมดังกล่าวจะปิดกั้นโอกาสทำให้เด็กและเยาวชนไม่ได้มีส่วนร่วมทางสังคมต่อบรรยากาศโศกเศร้าอาลัย โรงเรียนสามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ โดยมิต้องลดทอนหรืองดเว้นการจัดกิจกรรมดังกล่าว เช่น การถวายความอาลัยก่อนเริ่มกิจกรรม การปรับเปลี่ยนแนวทางบางส่วนของกิจกรรม การกำหนดโจทย์ใหม่ของกิจกรรมให้ยึดโยงกับบรรยากาศทางสังคม ฯลฯ โปรดเชื่อมั่นในดุลยพินิจของคุณครูผู้ดูแลกิจกรรมดังกล่าวเถิดครับ
นอกจากนี้โรงเรียนไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน การงดหรือให้ระงับกิจกรรมที่หลากหลายดังกล่าวล้วนยึดโยงกับหน่วยธุรกิจรายย่อยของชุมชน ซึ่งคือปากท้องของชาวบ้าน/ผู้ปกครองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอให้ท่านพึงเชื่อมั่นเถิดว่า เด็ก ๆ มีความสามารถในการรู้คิด และรู้กาละเทศะมากพอ พวกเขาสามารถร่วมทุกข์ ร่วมอาลัยไปกับผู้ใหญ่ในสังคมได้โดยยังคงมีห้วงเวลาของความสุข สนุกสนานที่เหมาะสมกับวัยของพวกเขา
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทบทวน และกำหนดขอบเขต แนวปฏิบัติที่เหมาะสม ชัดเจน เพื่อให้โรงเรียน ครูและผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวลถึงการถูกกำกับ ติดตาม ตรวจสอบของต้นสังกัด จนต้องละเลยหน้าที่สำคัญที่สุดของโรงเรียน อันได้แก่ การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์รอบด้าน ควบคู่ไปกับการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และการเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาน
ด้วยความเคารพยิ่ง
อรรถพล อนันตวรสกุล
ครู และครูผู้สอนครู (นักครุศึกษา)
.....
·
เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้กำหนดนโยบาย
เรื่อง ขอให้พิจารณาทบทวนนโยบายงดกิจกรรมที่มีบรรยากาศรื่นเริงในสถานศึกษา 1 ปี
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีหนังสือสั่งการ ระบุให้สถานศึกษางดกิจกรรมที่มีบรรยากาศรื่นเริงในสถานศึกษา 1 ปี
การพัฒนาเด็กและเยาวชนนั้นจำเป็นต้องคำนึงพัฒนาทางด้านอารมณ์-สังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสติปัญญาและร่างกาย การเรียนรู้อย่างเป็นทางการในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนในด้านปัญญาและร่างกาย ขณะเดียวกันกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมนอกหลักสูตร และการเรียนรู้ในวิถีชีวิตล้วนมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาผู้เรียนในด้านอารมณ์และสังคม
กิจกรรมกีฬาสี วันปีใหม่ ค่าย กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมชมรม/ชุมนุม และกิจกรรมพิเศษจำนวนมากที่ถูกมองอย่างผิวเผินว่าเป็นไปเพื่อบรรยากาศรื่นเริง และเด็ก ๆ ได้สนุกสนานร่วมกันทำงาน แต่แท้จริงแล้วกิจกรรมดังกล่าวล้วนมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในมิติอารมณ์และสังคม ในด้านความเชื่อมั่นในตนเอง การรู้จักร่วมทุกข์ร่วมสุข การทำงานเป็นทีม การเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี การตระหนักรู้ในตน การรู้คิด การสื่อสารและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น การพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ฯลฯ
หากข้อความในหนังสือสั่งการดังกล่าว จะถูกตีความอย่างคับแคบ ไม่ยืดหยุ่น เหมารวมถึงกิจกรรมเหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบและผลสืบเนื่องต่อการพัฒนาผู้เรียนอย่างน่ากังวลยิ่ง
ทั้งนี้ หากกระทรวงฯ กังวลว่ากิจกรรมดังกล่าวจะปิดกั้นโอกาสทำให้เด็กและเยาวชนไม่ได้มีส่วนร่วมทางสังคมต่อบรรยากาศโศกเศร้าอาลัย โรงเรียนสามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ โดยมิต้องลดทอนหรืองดเว้นการจัดกิจกรรมดังกล่าว เช่น การถวายความอาลัยก่อนเริ่มกิจกรรม การปรับเปลี่ยนแนวทางบางส่วนของกิจกรรม การกำหนดโจทย์ใหม่ของกิจกรรมให้ยึดโยงกับบรรยากาศทางสังคม ฯลฯ โปรดเชื่อมั่นในดุลยพินิจของคุณครูผู้ดูแลกิจกรรมดังกล่าวเถิดครับ
นอกจากนี้โรงเรียนไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน การงดหรือให้ระงับกิจกรรมที่หลากหลายดังกล่าวล้วนยึดโยงกับหน่วยธุรกิจรายย่อยของชุมชน ซึ่งคือปากท้องของชาวบ้าน/ผู้ปกครองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอให้ท่านพึงเชื่อมั่นเถิดว่า เด็ก ๆ มีความสามารถในการรู้คิด และรู้กาละเทศะมากพอ พวกเขาสามารถร่วมทุกข์ ร่วมอาลัยไปกับผู้ใหญ่ในสังคมได้โดยยังคงมีห้วงเวลาของความสุข สนุกสนานที่เหมาะสมกับวัยของพวกเขา
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทบทวน และกำหนดขอบเขต แนวปฏิบัติที่เหมาะสม ชัดเจน เพื่อให้โรงเรียน ครูและผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวลถึงการถูกกำกับ ติดตาม ตรวจสอบของต้นสังกัด จนต้องละเลยหน้าที่สำคัญที่สุดของโรงเรียน อันได้แก่ การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์รอบด้าน ควบคู่ไปกับการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และการเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาน
ด้วยความเคารพยิ่ง
อรรถพล อนันตวรสกุล
ครู และครูผู้สอนครู (นักครุศึกษา)
.....
ต่อมา

