https://www.facebook.com/lanner2022/posts/843762751741803
Lanner
9 hours ago
·
นักกิจกรรมเชียงใหม่จัด Run2Free ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ’ ร้องหยุดจองจำผู้เห็นต่าง ไม่ลืมเพื่อนในเรือนจำ
25 ตุลาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ X ยืนหยุดขัง Run2Free’ และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอย่างน้อย 56 คน ที่ยังไม่ได้รับอิสรภาพ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กิจกรรม ‘Run2Free’ เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม เดือนที่สังคมไทยยังต้องทบทวนความหมายของคำว่า ‘เสรีภาพ’ ใหม่อยู่เสมอ
กิจกรรมเริ่มต้นที่ ลานควายยิ้ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสิ้นสุดที่ อ่างแก้ว โดยผู้เข้าร่วมพร้อมใจกันสวมเสื้อสีดำตาม Dress Code ‘All Black’ เพื่อสื่อถึงการไว้อาลัยต่อเสรีภาพที่ถูกพรากไป โดยเริ่มรวมตัวตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก่อนเริ่มวิ่งจริงในเวลา 17.00 น.
สุปรียา โฉมเรือง หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวถึงมุมมองต่อประเด็น นิรโทษกรรมว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมควรมีการผ่อนผันและผ่อนเบาความเข้มงวดในบางเรื่อง อาจยังไม่ถึงขั้นยกเลิกทั้งหมด แต่ควรมีการผ่อนปรนได้แล้ว
“คิดว่าน่าจะมีการผ่อนผัน ผ่อนเบาบ้างนะคะ มันถึงเวลาที่ควรจะผ่อนคลายได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้มงวดเหมือนเดิม ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่ายกเลิกได้ไหม แต่คิดว่าควรมีการผ่อนปรนได้แล้ว”
ส่วนในประเด็น กฎหมายมาตรา 112 เธอได้ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดกฎหมายดังกล่าวจึงมักถูกนำมาใช้กับความคิดเห็นของประชาชนและการเมือง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แม้สังคมจะตั้งคำถามเรื่องนี้บ่อยครั้ง กลับยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมาจนถึงปัจจุบัน
ด้าน คุณอัพ หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม มองว่า กฎหมายนิรโทษกรรมควรครอบคลุมถึงนักโทษมาตรา 112 เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและทำให้หลายคนไม่ได้รับความยุติธรรม พร้อมย้ำว่าควรครอบคลุมนักโทษทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ต้องคดีทางการเมือง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริง
“คิดว่าการนิรโทษกรรมควรครอบคลุมนักโทษมาตรา 112 ด้วย เพราะกฎหมายนี้ถูกใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง และทำให้หลายคนไม่ได้รับความยุติธรรม”
ตลอดเส้นทางผู้เข้าร่วมต่างส่งเสียง ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ’ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและการปล่อยตัวเพื่อนที่ยังถูกคุมขัง ก่อนปิดท้ายด้วยการ ยืนสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงผู้สูญหายและผู้ที่ยังถูกคุมขังจากเหตุผลทางการเมือง
ในช่วงท้าย ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้อ่านแถลงการณ์ โดยกล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติคว่ำ มาตรา 3 ของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งว่าด้วยการนิรโทษเยาวชนในคดีมาตรา 112 ทำให้ไม่มีการนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองในคดีดังกล่าวแม้แต่รายเดียว
แถลงการณ์ระบุว่า พระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุขที่กำลังจะออกมานี้จึง “นิรโทษเฉพาะผู้กระทำผิดที่อยู่ฝั่งอำนาจ” ขณะที่ประชาชนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพกลับถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ต่อมา ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันตะโกนเสียงดัง “ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ยกเลิก 112” ก่อนจะร่วมกันอ่านรายชื่อผู้ต้องขังคดีการเมืองทั้ง 56 คน เพื่อส่งสารถึงสังคมว่า การเรียกร้องเสรีภาพไม่ควรถูกลงโทษ
อ่านในรูปแบบเว็บไซต์ที่
https://www.lannernews.com/25102568-01/