
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
9 hours ago
·
อัยการสั่งฟ้อง “พึ่งบุญ” เหตุเขียน “ประเทศทวย” บนป้ายจราจร คดีที่ 2 แม้พยายามขอเลื่อน ก่อนสามารถเดินทางไปเป็นศิลปินในพำนัก
.
.
28 ต.ค. 2568 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งฟ้องคดีของ พึ่งบุญ ใจเย็น ศิลปินช่างสัก ในข้อกล่าวหา “ทำให้เสียทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 จากการเขียนข้อความ “ประเทศทวย” ลงบนป้ายจราจรและตู้ไฟฟ้า บริเวณถนนห้วยแก้วช่วงปี 2563
.
คดีนี้นับเป็นคดีเขียนป้ายจราจร “ประเทศทวย” คดีที่สอง ของพึ่งบุญ ที่มีลักษณะคล้ายกับคดีก่อนหน้าที่เคยต่อสู้ถึงชั้นศาลฎีกาและคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว เพียงแต่เกิดขึ้นในคนละพื้นที่เขตอำนาจ
.
ก่อนหน้านี้ พึ่งบุญถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ขณะกำลังเตรียมเดินทางไปเข้าร่วมโครงการศิลปินในพำนักที่ประเทศไต้หวัน โดยหมายจับที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ไปร้องขอศาลออกไว้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564 แต่ไม่เคยจับกุมมาก่อนหน้านี้ แม้เขาจะเดินทางไปพบตำรวจในคดีอื่น ๆ เรื่อยมา
.
.
หลังจากถูกจับกุม และได้ประกันตัวในชั้นตำรวจ พนักงานสอบสวนนัดหมายให้พึ่งบุญมารายงานตัวทุก 15 วัน ทำให้เขายังไม่สามารถเดินทางไปร่วมโครงการที่ประเทศไต้หวันได้ตามกำหนดการ.
จนเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2568 พนักงานสอบสวนได้นัดหมายส่งสำนวนคดีให้กับอัยการจังหวัดเชียงใหม่ และต้องประกันตัวในชั้นอัยการอีกครั้ง พร้อมกับอัยการนัดให้มารายงานในวันที่ 28 ต.ค. โดยในตอนแรก คาดว่าอัยการจะใช้เวลาพิจารณาสำนวนอีกระยะหนึ่ง พึ่งบุญจึงเตรียมจะเดินทางไปร่วมโครงการที่เหลือทุนอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน หลังจากรายงานตัวแล้ว
.
ในวันดังกล่าว ยังได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ขอให้พิจารณาสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมในคดี ได้แก่ นักวิชาการด้านสื่อศิลปะ และนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ เพื่อประกอบข้อต่อสู้ของผู้ต้องหา แต่อัยการยังไม่ได้มีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมตามคำร้องดังกล่าว
.
เวลา 10.00 น. พึ่งบุญเดินทางมารายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการแจ้งว่า พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีแล้ว ให้เขาเดินทางไปรับทราบฟ้องและประกันตัวที่ศาล
.
พึ่งบุญจึงได้ยื่นหนังสือคำร้องขอความเป็นธรรม และขอเลื่อนนัด ชะลอการฟ้องคดี เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าร่วมโครงการศิลปินในพำนักได้ อีกทั้งคดีนี้ยังอยู่ในข่ายที่อาจได้รับการนิรโทษกรรมตามร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสันติสุข พ.ศ. …. ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสามวาระแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา
.
อย่างไรก็ตาม พนักงานอัยการไม่อนุญาตให้เลื่อนหรือชะลอการฟ้อง และได้นัดให้นายพึ่งบุญเดินทางไปยังศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อฟ้องคดีในเวลา 13.30 น.
.
ต่อมา พึ่งบุญถูกควบคุมตัวไว้ในห้องขังของศาลตั้งแต่เวลา 13.40 น. จนกระทั่งเวลา 17.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยให้วางหลักประกัน 50,000 บาท ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ วงเงินเดียวกับที่ใช้ในการประกันตัวในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการก่อนหน้านี้
.
หลังจากได้ประกันตัว พึ่งบุญสามารถเดินทางไปเข้าร่วม โครงการศิลปินพำนัก (Artist Residency Program) ที่ประเทศไต้หวันได้แล้ว ช้ากว่ากำหนด 1 เดือนเต็มพอดี โดยออกเดินทางเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2568 มีกำหนดจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้
.
ในส่วนคดี ศาลจังหวัดเชียงใหม่กำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิในวันที่ 14 พ.ย. 2568 และนัดพร้อมคดีวันที่ 1 ธ.ค. 2568 เวลา 9.00 น. ซึ่งเตรียมจะดำเนินการขอเลื่อนนัดต่อไป
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1231368975500237&set=a.656922399611567
.....
ประเทศทวยกำลังบอกอะไรในสังคมไทย

21 กันยายน 2563
ประชาไท
ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
21 พ.ค. 63 พึ่งบุญ ใจเย็น หรือช่างหมุน ช่างสักจากเชียงใหม่ถูกจับกุมข้อหา "ทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับจากกรณีที่เขาเขียนข้อความว่า "ประเทศทวย" บนป้ายสัญญาณจราจรในตัวเมืองเชียงใหม่ เขายืนยันปฏิเสธเพื่อต่อสู้คดี ให้เหตุผลว่าผลงาน "ประเทศทวย" ของเขาเป็นศิลปะประเภท "กราฟฟิตี้" ไม่ได้ทำให้ป้ายจราจรเสียหาย ปัจจุบันคดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์ประจำภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ (Media Art and Design) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกทางด้านมานุษยวิทยาสื่อและทัศนศิลป์ (Doctoral researcher in visual and media anthropology, Free university of Berlin) ที่ Free University of Berlin, Germany ได้ให้ความเห็นทางวิชาการไว้ตามบทความนี้
ประเทศทวยคือกราฟฟิตี้ (Graffiti) ประเภทหนึ่งตามนิยามความหมายของการวาดภาพและเขียนบนพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเทคนิคของการขูดขีด การสร้างร่องรอย การพ่นสี ตลอดจนการวาด กราฟฟิตี้เป็นที่รู้จักในสังคมไทยโดยทั่วไปในนามของสตรีทอาร์ต (street art) ซึ่งเป็นงานศิลปะที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมเพื่อการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ. ทว่า แท้จริงแล้ว จุดกำเนิดของกราฟฟิตี้คือเจตจำนงในการแสดงออกซึ่งเสรีภาพ จินตนาการต่อชีวิตที่ดำรงอยู่ และความใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ปรารถนา สามสิ่งนี้เองจึงกลายเป็นสดมภ์หลักในการแสดงออกซึ่งความเป็นมนุษย์ นักวิชาการพิจารณาว่าจุดกำเนิดของกราฟฟิตี้มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีโบราณในถ้ำก็ล้วนแสดงออกซึ่งหัวใจสำคัญของความเป็นมนุษย์
กราฟฟิตี้ในโลกสมัยใหม่มีบทบาทสำคัญยิ่งโดยเฉพาะการเป็นทั้งการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองที่ถูกเก็บกดและปิดกั้น ทั้งยังเป็นตัวแทนของการดำรงอยู่อย่างไร้ตัวตนของบรรดาชนชายขอบของสังคม
กล่าวอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ในสังคมที่ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม กราฟฟิตี้จะยิ่งมีบทบาทและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในฐานะปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากการถูกกดให้ไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง
ในทางกลับกัน ประเทศซึ่งระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับและมีการเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชน กราฟฟิตี้ จะได้รับการยอมรับและถูกยกย่องในฐานะงานศิลปะ ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทางภูมิปัญญาของสังคม
ปรากฏการณ์กราฟฟิตี้ในรูปแบบ “ประเทศทวย” ในจังหวัดเชียงใหม่สะท้อนอุณหภูมิที่อึดอัดและบรรยากาศทางการเมืองที่ควบคุมความคิดเห็นอันแตกต่างได้เป็นอย่างดีของสังคมไทย โดยเฉพาะการควบคุมพื้นที่ในการรับรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในสื่อกระแสหลัก ตลอดจนการควบคุมและตรวจตราการใช้พื้นที่ออนไลน์ในการแสดงความคิดเห็น ประเทศทวยจึงเกิดขึ้นเพื่อตั้งคำถามในความสัมพันธ์ของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนที่ควรเป็นมากกว่าการควบคุมให้ประชนชนตกอยู่ในระบอบที่ไม่เป็นธรรม
กราฟฟิตี้ประเภทนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่รกหูรกตา ทว่า มันคือ สัญญาณของประชาชนที่ส่งต่อรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเทศทวยจึงเป็นสัญญาณทางสังคม เป็นจินตนาการของประชาชนที่อยากเห็นสังคมไทยมีความก้าวหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง
ความน่าสนใจของกราฟฟิตี้ประเทศทวยคือ การใช้พื้นที่ในการดูแลของรัฐ เช่นป้ายจราจรและป้ายบอกทาง ซึ่งอยู่ริมถนนและข้างตลาดในการแสดงผลงาน พื้นที่เหล่านี้สาธารณชนเห็นได้ง่ายและปรากฏอยู่ทั่วไปในที่ชุมนุมชน คำถามสำคัญคือ เหตุใดสาธารณชนจึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านและรู้สึกขัดตาต่อการปรากฏของประเทศทวย ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจคือ สาธารณชนไม่ได้รู้สึกว่าพื้นที่ในการดูแลของรัฐเป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของประชาชน ความรู้สึกร่วมเช่นนี้เกิดขึ้นมาจากกระบวนการแยกพื้นที่สาธารณะให้ตกอยู่ในการดูแลของรัฐและกีดกันประชาชนออกจากกระบวนการตัดสินใจและมีส่วนร่วมมาอย่างยาวนาน ในแง่มุมนี้ แม้กราฟฟิตี้ประเทศทวยจะเกิดขึ้นจากศิลปินในฐานะบุคคลหรือกลุ่มก็ตาม ทว่า ประเทศทวยที่เขารังสรรค์ขึ้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสำนึกร่วมที่สาธารณชนมีต่อรัฐและการใช้พื้นที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นตัวแทนการใช้อำนาจต่างหากที่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าคำร้องต่อความไม่เป็นธรรมสามารถเกิดขึ้นได้นอกสำนักงานหรือสถานีตำรวจ แต่เป็นพื้นที่ซึ่งประชาชนใช้ชีวิตอยู่จริง
สุดท้าย กราฟฟิตี้ประเทศทวยคือตัวแทนของสิ่งที่เรียกว่า “สิทธิที่จะมีสิทธิ” (The right to have rights) ในการแสดงออกทางความคิดภายในสังคมที่มีข้อจำกัดในวิธีคิดเรื่องเสรีภาพทั้งที่ปรากฏในแง่มุมของกฎหมายและจินตนาการถึงสังคมที่เป็นธรรม ประเทศทวยจึงไม่ใช่แค่รอยขีดข่วนหรือการวาด แต่คือคำถามต่อสังคมไทยว่าเราจะอดทนอยู่ในสังคมที่ปิดกั้นสิทธิของประชาชนไปอีกนานเท่าไหร่ สังคมที่เสรีภาพเป็นทั้งภาพฝันและกรงขังที่สร้างขึ้นโดยชนชั้นนำ สิทธิที่จะมีสิทธิในความหมายนี้จึงเป็นการสร้างกรอบจินตนาการว่าด้วยเสรีภาพขึ้นมาใหม่จากกลุ่มชนต่างๆ ที่ไร้พื้นที่ในการแสดงออกและความคิดเห็น สังคมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะเห็นคุณค่าและย้อนกลับมาพิจารณาเพื่อรับฟังการเปล่งเสียงในรูปแบบต่างๆ ของประชาชน
เกี่ยวกับผู้เขียน: ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่/Doctoral researcher in visual and media anthropology, Free university of Berlin
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ศิลปินช่างสักเชียงใหม่ถูกจับกุม-แจ้งข้อหา เหตุเขียนข้อความ ‘ประเทศทวย’ บนป้ายจราจร
https://prachatai.com/journal/2020/09/89620
ประเทศทวยกำลังบอกอะไรในสังคมไทย

21 กันยายน 2563
ประชาไท
ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
21 พ.ค. 63 พึ่งบุญ ใจเย็น หรือช่างหมุน ช่างสักจากเชียงใหม่ถูกจับกุมข้อหา "ทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับจากกรณีที่เขาเขียนข้อความว่า "ประเทศทวย" บนป้ายสัญญาณจราจรในตัวเมืองเชียงใหม่ เขายืนยันปฏิเสธเพื่อต่อสู้คดี ให้เหตุผลว่าผลงาน "ประเทศทวย" ของเขาเป็นศิลปะประเภท "กราฟฟิตี้" ไม่ได้ทำให้ป้ายจราจรเสียหาย ปัจจุบันคดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์ประจำภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ (Media Art and Design) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกทางด้านมานุษยวิทยาสื่อและทัศนศิลป์ (Doctoral researcher in visual and media anthropology, Free university of Berlin) ที่ Free University of Berlin, Germany ได้ให้ความเห็นทางวิชาการไว้ตามบทความนี้
ประเทศทวยคือกราฟฟิตี้ (Graffiti) ประเภทหนึ่งตามนิยามความหมายของการวาดภาพและเขียนบนพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเทคนิคของการขูดขีด การสร้างร่องรอย การพ่นสี ตลอดจนการวาด กราฟฟิตี้เป็นที่รู้จักในสังคมไทยโดยทั่วไปในนามของสตรีทอาร์ต (street art) ซึ่งเป็นงานศิลปะที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมเพื่อการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ. ทว่า แท้จริงแล้ว จุดกำเนิดของกราฟฟิตี้คือเจตจำนงในการแสดงออกซึ่งเสรีภาพ จินตนาการต่อชีวิตที่ดำรงอยู่ และความใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ปรารถนา สามสิ่งนี้เองจึงกลายเป็นสดมภ์หลักในการแสดงออกซึ่งความเป็นมนุษย์ นักวิชาการพิจารณาว่าจุดกำเนิดของกราฟฟิตี้มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีโบราณในถ้ำก็ล้วนแสดงออกซึ่งหัวใจสำคัญของความเป็นมนุษย์
กราฟฟิตี้ในโลกสมัยใหม่มีบทบาทสำคัญยิ่งโดยเฉพาะการเป็นทั้งการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองที่ถูกเก็บกดและปิดกั้น ทั้งยังเป็นตัวแทนของการดำรงอยู่อย่างไร้ตัวตนของบรรดาชนชายขอบของสังคม
กล่าวอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ในสังคมที่ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม กราฟฟิตี้จะยิ่งมีบทบาทและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในฐานะปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากการถูกกดให้ไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง
ในทางกลับกัน ประเทศซึ่งระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับและมีการเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชน กราฟฟิตี้ จะได้รับการยอมรับและถูกยกย่องในฐานะงานศิลปะ ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทางภูมิปัญญาของสังคม
ปรากฏการณ์กราฟฟิตี้ในรูปแบบ “ประเทศทวย” ในจังหวัดเชียงใหม่สะท้อนอุณหภูมิที่อึดอัดและบรรยากาศทางการเมืองที่ควบคุมความคิดเห็นอันแตกต่างได้เป็นอย่างดีของสังคมไทย โดยเฉพาะการควบคุมพื้นที่ในการรับรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในสื่อกระแสหลัก ตลอดจนการควบคุมและตรวจตราการใช้พื้นที่ออนไลน์ในการแสดงความคิดเห็น ประเทศทวยจึงเกิดขึ้นเพื่อตั้งคำถามในความสัมพันธ์ของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนที่ควรเป็นมากกว่าการควบคุมให้ประชนชนตกอยู่ในระบอบที่ไม่เป็นธรรม
กราฟฟิตี้ประเภทนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่รกหูรกตา ทว่า มันคือ สัญญาณของประชาชนที่ส่งต่อรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเทศทวยจึงเป็นสัญญาณทางสังคม เป็นจินตนาการของประชาชนที่อยากเห็นสังคมไทยมีความก้าวหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง
ความน่าสนใจของกราฟฟิตี้ประเทศทวยคือ การใช้พื้นที่ในการดูแลของรัฐ เช่นป้ายจราจรและป้ายบอกทาง ซึ่งอยู่ริมถนนและข้างตลาดในการแสดงผลงาน พื้นที่เหล่านี้สาธารณชนเห็นได้ง่ายและปรากฏอยู่ทั่วไปในที่ชุมนุมชน คำถามสำคัญคือ เหตุใดสาธารณชนจึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านและรู้สึกขัดตาต่อการปรากฏของประเทศทวย ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจคือ สาธารณชนไม่ได้รู้สึกว่าพื้นที่ในการดูแลของรัฐเป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของประชาชน ความรู้สึกร่วมเช่นนี้เกิดขึ้นมาจากกระบวนการแยกพื้นที่สาธารณะให้ตกอยู่ในการดูแลของรัฐและกีดกันประชาชนออกจากกระบวนการตัดสินใจและมีส่วนร่วมมาอย่างยาวนาน ในแง่มุมนี้ แม้กราฟฟิตี้ประเทศทวยจะเกิดขึ้นจากศิลปินในฐานะบุคคลหรือกลุ่มก็ตาม ทว่า ประเทศทวยที่เขารังสรรค์ขึ้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสำนึกร่วมที่สาธารณชนมีต่อรัฐและการใช้พื้นที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นตัวแทนการใช้อำนาจต่างหากที่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าคำร้องต่อความไม่เป็นธรรมสามารถเกิดขึ้นได้นอกสำนักงานหรือสถานีตำรวจ แต่เป็นพื้นที่ซึ่งประชาชนใช้ชีวิตอยู่จริง
สุดท้าย กราฟฟิตี้ประเทศทวยคือตัวแทนของสิ่งที่เรียกว่า “สิทธิที่จะมีสิทธิ” (The right to have rights) ในการแสดงออกทางความคิดภายในสังคมที่มีข้อจำกัดในวิธีคิดเรื่องเสรีภาพทั้งที่ปรากฏในแง่มุมของกฎหมายและจินตนาการถึงสังคมที่เป็นธรรม ประเทศทวยจึงไม่ใช่แค่รอยขีดข่วนหรือการวาด แต่คือคำถามต่อสังคมไทยว่าเราจะอดทนอยู่ในสังคมที่ปิดกั้นสิทธิของประชาชนไปอีกนานเท่าไหร่ สังคมที่เสรีภาพเป็นทั้งภาพฝันและกรงขังที่สร้างขึ้นโดยชนชั้นนำ สิทธิที่จะมีสิทธิในความหมายนี้จึงเป็นการสร้างกรอบจินตนาการว่าด้วยเสรีภาพขึ้นมาใหม่จากกลุ่มชนต่างๆ ที่ไร้พื้นที่ในการแสดงออกและความคิดเห็น สังคมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะเห็นคุณค่าและย้อนกลับมาพิจารณาเพื่อรับฟังการเปล่งเสียงในรูปแบบต่างๆ ของประชาชน
เกี่ยวกับผู้เขียน: ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่/Doctoral researcher in visual and media anthropology, Free university of Berlin
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ศิลปินช่างสักเชียงใหม่ถูกจับกุม-แจ้งข้อหา เหตุเขียนข้อความ ‘ประเทศทวย’ บนป้ายจราจร
https://prachatai.com/journal/2020/09/89620