วันอาทิตย์, ตุลาคม 26, 2568

เสียงคนทำมาหากินดังกว่ารอบก่อนเยอะมาก…. ไม่กี่ชั่วโมง คนไม่รอ ด่ารัฐบาลเลย ตั้งคำถามเลย ส่งจดหมายเปิดผนึกเลย อินฟลูต่างๆ กล้าชนมากขึ้น ไม่หวั่นการโดนแปะป้ายชังชาติ


คอนเสิร์ต BLACKPINK ยังจัดต่อ ขอความร่วมมือแต่งกายสีขาว-ดำ เข้าร่วมชมการแสดง

Atukkit Sawangsuk 
9 hours ago
·
เสียงคนทำมาหากินดังกว่ารอบก่อนเยอะมาก….
ไม่กี่ชั่วโมง คนไม่รอ ด่ารัฐบาลเลย ตั้งคำถามเลย ส่งจดหมายเปิดผนึกเลย อินฟลูต่างๆ กล้าชนมากขึ้น ไม่หวั่นการโดนแปะป้ายชังชาติ

Pipat Wattanapanit 
13 hours ago
·
คือเราเป็นสังคมประชาธิปไตย ถ้ารัฐบาลแม่งสั่งออกกฎ ออกคำสั่ง มาโช๊ะ ๆ มันไม่ได้ นี่ไม่ใช่เคอร์ฟิวทั้งประเทศ มันต้องเผื่อพื้นที่ให้ไปตีความ ความเหมาะสมกันเอง แต่รัฐบาล ต้องกำหนดกรอบนี้ให้ชัด และเอกชนก็จะหาเส้นทำตาม
เช่น BlackPink คืนนี้ ซึ่งต้องถือเป็นไบเบิ้ลงานแรก ให้งานอื่น ๆ หลังจากนี้ คือ คอนเสิร์ตวางมาเป็นปีแล้ว และเกิดเหตุกลางคอนเสิร์ตเลย เพราะงั้นงดไม่ได้ แต่ต้องปรับลด แล้วศิลปินก็ไปในทางรื่นเริงขั้นสุด ชุดวาบหวิว ท่าเต้นต่าง ๆ เป็นระดับสากล คือเบอร์สุดกรอบ ภาคเอกชนจะปรับลดยังไง งานอื่น ๆ ก็น่าจะลอกคอนเสิร์ตนี้ตามมา
ส่วนตัวคิดว่าเสียงคนรื่นเริง ทำมาหากิน เสียงดังกว่ารอบก่อนเยอะมาก ๆ อาจจะเพราะรอบก่อน คสช. เป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ แต่รอบนี้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่กี่ชั่วโมง คนไม่รอ ด่ารัฐบาลเลย ตั้งคำถามเลย ส่งจดหมายเปิดผนึกเลย อินฟลูต่าง ๆ กล้าชนมากขึ้น ไม่หวั่นการโดนแปะป้ายชังชาติ แค่จะติดเรื่องกรอบกำหนด ไม่กล้าตีความเอง
เพราะงั้นรัฐบาลต้องระวังเรื่อง 112 ให้มาก เพราะในเมื่อคุณให้เอกชนประชาชนตีความเอง ก็ต้องเผื่อให้ผิดพลาดได้ด้วย วิจารณญาณมันเท่ากันยาก ไม่ใช่ใครไม่ตรงไม้บรรทัดคุณ จับยัดข้อหาเลย อันนี้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องคุยประสานกันไป
นี่เห็นทิศทางข่าวและกระแส ก็ค่อนข้างอยู่ในบรรยากาศปกตินะ ยังไม่ถึงกับบีบให้ต้องตีอะไรกัน
...

Sirasak Ittipholpanich 
12 hours ago
·
แม้รัฐจะประกาศว่าตามความเหมาะสม แต่หลายคนก็ไม่กล้าเสี่ยงกับความคลุมเครือหรอกครับ คนไม่รู้ก็ไม่รู้ต่อไป คนล่าแม่มดก็ล่าต่อไป คนโดนก็ยังคงโดนต่อไป
นั่งดูเพื่อนๆ นักดนตรี ถูกแคนเซิลงาน บางคนโดนไปเกือบสิบงานแล้ว เพื่อนๆ ออแกไนซ์และผู้จัดหลายคนก็มียกเลิกงาน บางคนกำลังประชุมหาวันลงงานใหม่อยู่ หลายคนเขาไม่กล้าเสี่ยงกับคำว่าตามความเหมาะสมเพราะมันมีบทเรียนเก่าๆ ที่ผ่านมาน่ะ บางทีก็อย่าไปว่าที่เขาบ่นเลย ลองเปลี่ยนเป็นเราดูสิ สมมุติว่าเป็นนักดนตรีฟรีแลนซ์ที่มีลูก สมมุติว่าเป็นผู้จัดที่พึ่งจ่ายมัดจำสถานที่กับเครื่องเสียงไปสักสิบล้าน เจ็บอยู่เด้อ ไม่ใช่ว่าคนบ่นจะเป็นคนอคติคนโง่คนชังชาติไปเสียทั้งหมดหรอก(ตัวผมก็ไม่ได้สบายหรอก แต่ยังพออยู่ไหว ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวก็จะเห็นผมประกาศขายกีตาร์เองแหละ 555)
แต่อย่างน้อยที่สุด เหตุการณ์รอบนี้ก็ดูแบ่งรับแบ่งสู้มากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมานะ จริงอยู่ว่าอาจจะยากหน่อยถ้าเราจะรอรัฐชี้แจงถึงกรอบของความเหมาะสม แต่ถ้าคนในวงการบันเทิงและวงการคนกลางคืนสามารถรวมตัวกันแล้วแสดงออกชัดเจนว่าเราจะทำกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบไหนตามที่ได้ตีความเรื่องความเหมาะสม ก็อาจจะพอที่จะช่วยเป็นเกราะกำบังจากคนที่จะอาศัยช่องโหว่ของคำว่าตามความเหมาะสมเอามาหาประโยชนหรือสกัดประโยชน์คนอื่นได้นะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนละกันนะครับ