คงเขินที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์บอกว่า “อะไรคะ ผัวเมียกันเหรอ” ก็เลยมีการจะจัดเปลี่ยนชื่อ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าจะใช้ชื่ออะไรแทน แม้นว่าจะยกเลิกการมอบเงินให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ไปแล้ว มีหลายความเห็นสาธารณะกล่าวถึงกัน
โดยเฉพาะเกี่ยวกับการที่ไม่มีชื่อของกัน เป็นประธานหรือกรรมการมูลนิธิ Nattharavut Kunishe Muangsuk บอกนี่เป็นอันตราย “เพราะเท่ากับว่ากัน จอมพลังอยู่นอกเหนือความรับผิดทางกฎหมายกรณีบริหารผิดพลาด ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์”
ด้าน Chiranuch Premchaiporn ว่ากรณีอย่างนี้มีใครทำกันมั้ย “ก็เป็นไปได้ แต่ส่วนมากจะเกิดกับมูลนิธิตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ล่วงลับ” ผอ.ประชาไทชี้ว่าแต่จะเป็นปัญหา เนื่องเพราะหากมีอะไรมิดีมิร้าย “คุณกัน ซึ่งเป็นเพียงที่ปรึกษาก็ลอยตัวพ้นผิด”
ขยายความ “ทำให้การใช้เงินบริจาคไม่อยู่ภายใต้ระบบตรวจสอบของคณะกรรมการมูลนิธิ การเบิกจ่ายจึงอาจกลายเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่าภารกิจสาธารณะ” นี่ตามความเห็นของ ‘ปวิน’ ซึ่งเน้นว่าจนป่านนี้ “ยังไม่เห็นการเปิดเผยตัวเลขเงินบริจาค”
อีกประเด็นเรื่องการจะเปลี่ยนชื่อผู้รับมรดกไปจากมูลนิธิธรรมนัส นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ให้ข้อคิดในข้อกฎหมายว่า “อำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ เป็นอำนาจของที่ประชุมคณะกรรมการเท่านั้น” แต่ถ้ามั่นใจว่าทำได้ก็ไม่ต้องเปลี่ยนข้อบังคับ
สุดท้ายมาลงในประเด็นที่ว่า ต้องตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธิกัน จอมพลัง กันแล้ว และ “ต้องลงลึกที่งานบัญชี ทั้งสเตทเม้นท์ยอดเงินเข้า-ออกแต่ละยอด งานเอกสารเบิก-จ่าย ทำอย่างถูกต้องไหม” ณรรธราวุธ เพิ่มเติม
“เงื่อนไขเหล่านี้มีขึ้นเพื่อกำกับความโปร่งใส ฉะนั้นหากตรวจสอบต้องใช้เวลาและลงลึกในงานบัญชี ไม่สามารถอ้างเรื่องจ่ายภาษี ความเป็นคนดี หรือเจตนาบริสุทธิ์ได้ครับ
เพราะสังคมเราผ่านบทพิสูจน์เรื่องคนดี ความดีมามากพอจนควรขยาดกับฮีโร่ หรือคนที่อ้างตัวเป็นคนดีกันเสียที”
(https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/5s5xRCmSrN6, https://www.facebook.com/=a.267110153382320, https://www.facebook.com/chiranuch/posts/381oZYfR1 และ https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/r5tM26MfT1)
