“เว้นวรรคการเมือง ๗ ปีทหารเกษียณ ย้ำ ลดนายพล ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย ตัดสิทธิพิเศษนายพล คืนที่ดินกองทัพให้ประชาชน คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล” อีกข้อ “ยุบ กอ.รมน. ยกเลิกกฎอัยการศึกชายแดนใต้”
ชวนให้คิดสาระตะ อ๊ะเธอว์ ทำตัวเป็นสื่อใช้ได้ไม่เอียง หรือเพียงบอกเล่าเก้าสิบให้พวกเดียวกันระไว ไม่เช่นนั้นก็ ‘เสี้ยม’ ทั้งในแง่แจ้งความเหล่าตะหาน ว่านั่นพวกก้าวเขาไม่เพียงคิด แต่เริ่มบั่นทอนพวกเราแล้วละ หรือว่าเข้าข่ายอีกอย่าง
เสี้ยมฝั่งตรงข้ามรัฐประหารที่กำลังจะฟัดกันเองในยุทธการช่วงชิงการนำ มันออกมาพร้อมกับท่าที ‘ผู้ไม่รู้’ ได้เปลี่ยนมาเป็น ‘รู้ลึก’ จากการที่หัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ในความเห็นเกี่ยวกับ ‘เดี่ยว ๑๓’ ของ ‘โน้ต’ อุดม แต้พานิช
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “ผมได้ติดตามดูเดี่ยวของโน้ส อุดม มาตลอด ชื่นชอบในความสามารถของเขา ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลก็มีพูดมาทุกการแสดงเดี่ยว รัฐบาลที่ผ่านมาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์
ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าเขาพูดเพื่อความบันเทิงในการแสดงทอล์กโชว์ เชื่อว่าคนดูก็มีวิจารณญาณในการรับฟังเนื้อหาต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ควรนำมาเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร” นี่ถ้าคิดคำนึงตามจิตสำนึกร่วมสมัย วัย ‘สามกีบ’ ละก็ต้องว่าเฮียป้อมจีบคนรุ่นใหม่
แต่จะเลยไปถึงประเด็นที่ อรรถชัย อียู อนันตเมฆ ฟาดว่า “กปปส. กรุเปลี่ยนเป็นส้ม แนวร่วมมุมกลับของ ๓ ปอ” ด้วยหรือไม่ ต้องรอ ‘คนแดนไกล’ ออกมายก ‘นายโบก’ เหมือนกับที่ยอ ‘นางแบก’ อีกไหม ในเมื่อครั้งนี้ ‘โด่ง’ ออกตัวแรงซัดก้าวไกล
“นโยบายก้าวไกล ไม่มีอันไหนจะไปดึงดูดคนตรงกลาง ที่อาจจะไปเลือกไอ้ตู่ได้เลย” เขาว่า “มุ่งเน้นที่จะจูงใจคนเสื้อแดง ฐานเสียงเพื่อไทยเท่านั้น” อันนี้น่าจะเป็นวิธีพิเศษ ป้องกันฐานเสียงเดิมนอกใจ บอกให้ยึดมั่นแต่งแล้วแต่งเลยชั่วชีวิต แต่การเมืองมันไม่ใช่แค่สมสู่
ที่ต้องอยู่ใน ‘ม่านประเพณี’ วันทองต้องไปร่วมหอกับขุนช้างก็อย่างหนึ่ง พวกงูเห่าเพื่อไทยและอนาคตใหม่ที่ไปเข้าคอกพลังประชารัฐกับภูมิใจไทย ก็ฉันนั้น ถ้าจะมีพวกกลางๆ ที่เคยหนุนเสื้อแดงคิดจะก้าวไกล น่าจะเพราะวิจารณญานของพวกเขามากกว่า
คำอธิบายนี้ใช้ได้เช่นเดียวกับ ถ้าเสียงซุบซิบนินทาเกิดเป็นจริง เพื่อไทยมีฮั้วพรรคป้อม-แป้ง เพื่อเป้าหมายแลนด์สไล้ด์ ปฏิกิริยาของ สุทิน คลังแสง ต่อนโยบายแก้ไข กม.อาญา ม.๑๑๒ ของก้าวไกล ยังฟังรื่นหูกว่า “อยู่ที่ ปชช.(ผู้ออกเสียง) ตัดสิน”
“คนตรงกลาง” เขาก็คงฟัง Atukkit Sawangsuk ติ่งก้าวไกลด้วยเหมือนกัน ที่ว่า “นโยบายก้าวไกลที่แปลกใหม่เท่ทึ่งโดนใจ...แต่เป็น พระมีสิทธิเลือกตั้ง” ซึ่งเขาเชื่อว่า “เพื่อไทยไม่สามารถเสนอได้” เพราะเน้นหนักเศรษฐกิจอย่าง ‘สุทิน’ ว่า
ส.ส.เพื่อไทยจึงได้เห็นพ้องให้ชูนักธุรกิจใหญ่ เศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีอันดับ ๑ แล้วจึงตามด้วยลูกสาวทักษิณอันดับ ๒ แต่ก้าวไกลคงจะมีนโยบายเศรษฐกิจในภาคส่วนฐานเสียง ‘คนชั้นกลางในเมือง’ ของเขาเหมือนกัน
ดังที่อธึกกิตแนะว่า ในเมื่อเพื่อไทย “เปรี้ยงปร้างกว่า ในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม...ขณะที่คนชนบทต้องพึ่งรัฐ คนชั้่นกลางอยากให้รัฐมายุ่งน้อยที่สุด ต้องการแค่รัฐสวัสดิการกับบริการที่มีคุณภาพ” ซึ่งก้าวไกลคงต้องน้อมรับ ว่ากันไม่ได้
(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/pfbid0pNYMD, https://www.voicetv.co.th/read/qPP6FqbjZ, https://www.facebook.com/permalink.=100016177231391 และ https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/pfbid02g8ds)
