วันพุธ, ตุลาคม 19, 2565

สถาบันไรวะมีแต่เรื่องฉ้อฉล

https://www.facebook.com/sorrayuth9115/videos/801728857727977
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
14h

ผู้ประกอบการ-สามีทหาร ร้อง ยธ. ถ้าใช่ก็เจ็บปวด …

ผู้ประกอบการสร้างบ้านสวัสดิการ ทบ. ร้องกระทรวงยุติธรรม ขอเข้าโครงการคุ้มครองพยาน พร้อมเปิดปม กู้สวัสดิการฯซื้อบ้าน ชนวนเหตุ "จ่าคลั่งกราดยิงโคราช" พร้อมมอบหลักฐาน คลิปเสียง - คลิปวงจรปิดส่วสสามีของผู้ประกอบรายนี้ เป็นนทหารระดับ ‘นายพัน’ ยืนยันครอบครัวเดือดร้อน ต้องมาร้อง ยธ.

วานนี้ (วันที่ 17 ต.ค.) นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.ก้อย และน.ส.เบิร์ด (นามสมมติ) เข้าพบว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นขอเข้าคุ้มครองพยาน หลังระบุว่า ถูกทหารนายหนึ่งของกองทัพบกข่มขู่คุกคาม

น.ส.ก้อย เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลของกองทัพบก โดยกำลังพลที่จะซื้อบ้านกับตัวเองจะต้องทำเรื่องกู้เงิน ผ่านกรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งทางกรมฯ อ้างว่า จะต้องหักค่าธรรมเนียมกองทัพบก 5% เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท กำลังพลจะต้องกู้สวัสดิการวงเงิน 1,500,000 บาทและจะถูกหัก 5% คือ 75,000 บาทเป็นค่าธรรมเนียมกองทัพบก โดยที่กำลังพล (ผู้กู้) ไม่ทราบว่า มีการหักเงินตรงนี้ไว้

นอกจากการหักเงิน 5% ยังมี ‘เงินทอนส่วนต่าง’ ที่กำลังพลจะต้องได้เงินทอนประมาณ 4 แสนบาทไป เพื่อตกแต่งบ้าน ซึ่งประเด็นนี้ กรณีของ ‘จ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช” จึงไปตามทวงถามเงินกับผู้ประกอบการ ก็คือ ป้านงค์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต เพราะไม่พอใจที่ป้านงค์ เก็บเงินส่วนต่างสำหรับตกแต่งรวมถึง 5% ตรงนี้ไว้ ประกอบกับบ้านที่จ่าคลั่งซื้อ ยังสร้างไม่เสร็จ ระบบน้ำไฟต่างๆ ก็ยังไม่เสร็จ จึงไม่พอใจและก่อเหตุดังกล่าว

กรณีของ น.ส.ก้อย ระบุว่า เป็นผู้ประกอบการที่ทอนเงินส่วนต่างให้กับกำลังพลผู้กู้ แต่ว่ายังขาด 5% เพราะถูกกรมสวัสดิการ เก็บไว้ อ้างเป็นค่าธรรมเนียมของกองทัพบก สุดท้ายแล้ว น.ส.ก้อย อ้างว่าได้ไปสืบสาวราวเรื่อง จนทราบว่า 5% ตรงนี้กองทัพบกไม่มีระเบียบในการจัดเก็บ แต่เป็นการเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเองของนายทหารคนหนึ่งของกรมสวัสดิการทหารบก

หลังจากนางสาวก้อยไปขุดคุ้ยจนพบว่าเป็นการเก็บเงินส่วนต่าง 5% เข้ากระเป๋าตัวเอง จึงร้องเรียนไปที่กองทัพบก ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

แต่ปรากฏว่า หลังการประชุม มีนายทหารคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย ออกมาพยายามขโมยเอกสารลับ หลักฐานที่นางสาวก้อยไปตรวจพบว่ามีการเก็บเงิน 5% ไว้เอง โดยอ้างกองทัพบก

นอกจากเอกสารลับและวงจรปิดหลักฐาน ที่นายไพศาล ทนายความ และผู้ประกอบการผู้เสียหาย มายื่นขอคุ้มครองพยาน ข้อร้องเรียนระบุว่า นอกจากนางสาวก้อยแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ อีก เช่น น.ส.เบิร์ด เป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านจัดสรรขาย ให้กับกำลังพลกองทัพบกเหมือนกัน และพอเกิดปัญหา กำลังพลมาทวงถามเงินทอนส่วนต่างและเงิน 5% ทางน.ส.เบิร์ด ยอมจ่ายเงินทั้งหมด 3 หลัง ราคากว่าล้านบาทให้กับกำลังพลที่มาซื้อบ้าน เพราะไม่อยากมีปัญหากับกองทัพบก แล้วจะถูกตัดสิทธิ์เข้าโครงการ บ้านอีกกว่า 100 หลังจะขายไม่ได้

หลักฐานที่นำมายื่น เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าลิฟต์ ซึ่งบันทึกภาพผู้เสียหายที่ถือเอกสารที่จะนำไปร้องเรียน แต่จู่ๆ มีชายแต่งกายคล้ายทหารเข้ามาพยายามจะแย่งเอกสารที่อยู่กับผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่า จะนำไปสู่ทำร้าย เพื่อไม่ให้เรื่องถูกเปิดเผย

นอกจากนี้ ยังมีการส่งหลักฐาน ให้กระทรวงยุติธรรม เป็นคลิปเสียงที่นางสาวก้อย ระบุว่า ทหารนายหนึ่งของกองทัพบกโทรมาข่มขู่นางสาวก้อย ใจความว่า

“ไม่ใช่อยู่ๆพี่มาต่อว่าหนูแบบนี้ หนูเป็นประชาชนนะพี่ พี่เป็นข้าราชการ พี่กินภาษีของหนูอยู่ อย่ามาต่อว่าหนูอย่างนี้” // โดยนายทหารคนดังกล่าวตอบกลับมาว่า “ผมไม่เล่นงานคุณก็บุญแล้ว”

ขณะที่สามีของนางสาวก้อย ที่เป็นข้าราชการทหาร ยศระดับ ‘นายพัน’ กล่าวว่า วันนี้ตนออกมาวันนี้ให้ฐานะผู้นำครอบครัว ตอนนี้ครอบครัวตนโดนข่มขู่ ทั้งทางโทรศัพท์และทางการกระทำ ตนที่เป็นผู้นำครอบครัว จะออกมาร้องขอกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือครอบครัวของตน ซึ่งตอนนี้ตนแค่ถูกข่มขู่ แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ อาจจะถึงชีวิตของตนและครอบครัว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก จ่าเอก (นามสมมติ) พยานปากสำคัญ ที่เป็นเจ้าหน้าที่เสมียนธุรการของกรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งจ่าเอกรายนี้ระบุว่า เป็นคนโอนเงิน 5% เข้าบัญชี ‘หัวหน้า’ ตัวเอง แต่สุดท้ายถูกหัวหน้าหักหลัง โยนบาปให้ว่า จ่าเอก เป็นคนฉ้อฉลทำธุรกรรมอำพราง เก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งตอนนี้จ่าเอกถูกผู้ประกอบการสร้างบ้านขาย ฟ้องร้องด้วย

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คดีนี้จะต้องสืบเสาะเส้นทางการเงินแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 5% คือ 75,000 บาท เงินไปถึงใครบ้าง และส่วนที่สอง เคื่อง ‘เงินทอน’ ส่วนต่างค่าตกแต่งบ้านอีกประมาณหลังละ 4 แสนบาท อยู่ที่ใครเก็บไว้ จะต้องดำเนินการเอาผิดทั้งหมด
นายไพศาล ทรายความ กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ได้เตรียมข้อมูลหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงมานานกว่า 1 เดือน แต่ก็ถูกโทรศัพท์มาข่มขู่ และบอกให้ยุติการทำเรื่องดังกล่าว
.....
ภัควดี วีระภาสพงษ์
10h
สถาบันไรวะมีแต่เรื่องฉ้อฉล
.....
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
13h
นายกฯ ปฏิเสธตอบคำถาม …
หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน รวมทั้งกรณีผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กำลังพลกองทัพบก ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรม ระบุนายทหารระดับสูงถูกข่มขู่ หลังออกมาแฉกรณีกำลังพลถูกหักส่วนต่าง ‘สวัสดิการบ้านพัก ทบ.’ กระทั่งผู้ประกอบการเชื่อว่านำไปสู่เหตุกราดยิงที่โคราช เมื่อปี 63 โดยพลเอกประยุทธ์ เพียงแต่สวัสดีทักทายสื่อมวลชน พร้อมกล่าวเพียงว่า ขอให้ฟังโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด