#SHORTs - เปิดโปงกระบวนการเก็บเบอร์รี่สวีเดน - ฟินแลนด์เสี่ยงค้ามนุษย์
.
กลุ่มคนงานที่เดินทางไปเก็บเบอร์รี่และผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์และสวีเดน ปี 2565 เข้ายื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร และเดินทางไปยื่นหนังสือต่อให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สุชาติ ชมกลิ่น ที่หน้ากระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพมหานคร ขอความช่วยเหลือเร่งด่วนกับคนงานที่ได้รับความเสียหายจากการไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์และสวีเดน
.
ทุกปีกระทรวงแรงงานจะจัดโควต้าให้คนไทยจำนวนหนึ่งเดินทางไปรับจ้างเก็บเบอร์รี่ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ ผ่านบริษัทนายหน้า ซึ่งกลุ่มคนงานระบุว่า “หลายกรณีคนงานถูกหลอกให้หลงเชื่ออย่างผิดๆ ว่าจะได้เงินแสนหรือหลายแสนกลับบ้าน จนทำให้คนหลงเชื่อและพากันเดินทางไปเก็บเบอร์รี่ฟาร์มและเบอร์รี่ป่า” แต่เมื่อไปถึงคนงานกลับเผชิญกับการ “สูญเสียเงินจำนวนมาก และเสียรายได้ในช่วงเวลา 3 เดือนตลอดทั้งฤดูกาล”
.
อย่างไรก็ดี จากการที่โครงการนี้เป็นความร่วมมือของกระทรวงแรงงานทำให้หลายรายเกิดความสบายใจและตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ มีการเกลี้ยกล่อมว่าเบอร์รี่ปีนี้มีเยอะ และไปเพราะความเชื่อว่ามีกระทรวงแรงงานส่งเวริมและยังมีกองทุนช่วยเหลือ ซึ่งตัวเลขคนงานไทยที่เดินทางไปทำงานดังกล่าวในฤดูกาลนี้พุ่งถึงกว่า 10,000 ราย บางรายเดินทางไปเป็นครอบครัว
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
...
Jom Petchpradab
1d
ผมว่า ปัญหาหลอกคนงานไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ กรเทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน ควรจะอธิบายเรื่องนี้กับสังคมว่า ไปให้การรับรอง รับประกัน กับบริษัทที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ได้อย่างไร รมต. กระทรวงแรงงาน คนปัจจุบันจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้
.....
Junya Yimprasert
October 14
นี่เป็นข้อความที่จรรยา ส่งเข้ากลุ่มคนงานเบอร์รี่กลุ่มต่างๆ อาจจะไม่ได้ทั่วถึง ถ้าใครมีเพื่อนพี่น้องไปเก็บเบอร์รี่ที่เสียหาย ก็ฝากแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้ทุกคนด้วยนะ ช่วยคนที่ถูกหลอกลวงพาไปทำงานแล้วไม่ได้ค่าแรง หรือได้ค่าแรงแบบไม่พอใช้หนี้
---------------
สวัสดีทุกคน และก็ขอบคุณแอดมินที่รับเข้ากลุ่ม
ขอแนะนำตัวว่าชื่อ จรรยา ยิ้มประเสริฐ เป็นนักสิทธิแรงงาน ที่ช่วยเหลือคนงานเก็บเบอร์รี่และผลักดันให้มีการออกมาตรการคุ้มครองและรับประกันว่าคนทำงานจะต้องได้เงินและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานของทั้งสวีเดนและฟินแลนด์มาตั้งแต่ปี 2552
โพสต์นี้จึงขอนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจพื้นฐานการทำงานเก็บเบอร์รี่ได้รับรู้ร่วมกัน ดังนี้
1. งานเก็บเบอร์รี่ไม่ใช่การเล่นพนัน - ได้หรือเสีย - เพราะมันเป็นการทำงานจริง งานที่เหนื่อยมาก วันละ 14-15 ชม. ตลอดฤดูกาล 2 เดือนครึ่งถึง 3 เดือน ดังนั้น คนทำงานทุกคน จึงอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางกฎหมาย ทั้งกฎหมายแรงงาน และกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ ว่าจะต้องได้รับค่าจ้างและได้รับการดูแลในเรื่อง สุขอนามัย การพักผ่อน และเวลาที่ทำงาน และทุกคนต้องได้ค่าแรง ไม่ใช่ต้องไปทำงานฟรี ดังเช่นที่บริษัทและนายหน้ามักจะอ้างเวลาที่คนงานไม่ได้เงินว่า ก็บอกแล้วว่ามันเป็นงานเสี่ยงที่จะได้หรือไม่ได้เงิน - ข้ออ้างของบริษัทและสายเป็นข้ออ้างที่ไม่ได้รับการรับรองทางกฎหมาย และถือว่าเป็นการหลอกลวงและไม่ยอมชี้แจงให้ลูกจ้างรับทราบเรื่องการคุ้มครองทางกฎหมาย - ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงไม่ยอมให้ลูกจ้างเห็นสัญญาจ้าง เพราะกลัวว่าลูกจ้างจะรู้สิทธิและลุกขึ้นทวงสิทธิ
2. การทำงานทุกคนจะต้องได้รับสำเนาเอกสารที่เซ็นต์ และมีการชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย แต่คนงานทุกคนที่ไปเก็บเบอร์รี่ที่สวีเดนและฟินแลนด์ ไม่มีใครได้อ่านอย่างละเอียด และไม่ได้รับสำเนาเอกสารที่เซ็นในวันอบรมที่ประเทศไทย (ซึ่งตรงนี้เป็นหลักการพื้นฐานที่บริษัทควรจะต้องให้กับลูกจ้างทุกคน) เอกสารที่เห็นมาจากการที่ลูกจ้างที่ถ่ายภาพเก็บไว้ได้ - นี่เป็นการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล นักโทษก่อนถูกจับกุมยังได้รับการแจ้งสิทธิ แต่คนงานเก็บเบอร์รี่ที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายฤดูกาลละ 140,000 - 160,000 บาท กลับไม่ได้รับสำเนาสัญญาจ้างและเอกสารต่างๆ เพื่อใช้คุ้มครองสิทธิตัวเองเลย
3. ในกรณีฟินแลนด์ แม้ยังไม่มีสัญญาจ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องผลักดันให้มีระบบสัญญาจ้างและคนงานอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายแรงงานฟินแลนด์ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีกฎหมายคุ้มครองเลย ที่ฟินแลนด์ มีการคุ้มครองทั้งพรบ.ที่ออกโดยรัฐบาลฟินแลนด์เมื่อปี 2564 และกระทรวงแรงงานไทยก็ได้ให้บริษัทที่พามาฟินแลนด์ จะต้องวางเงินประกันรายได้ไว้กับกระทรวงแรงงาน ในกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้เงินหรือได้ต่ำกว่า 30,000 บาท โดยคนที่เสียหายไม่ได้เงิน หรือได้เงินไม่ถึง 30,000 บาท สามารถไปร้องเรียนกระทรวงแรงงานเพื่อขอให้กระทรวงนำเงินประกันที่บริษัทวางไว้ มาจ่ายชดเชยให้ลูกจ้างได้เลย โดยคนที่เสียหายจากฟินแลนด์ สามารถไปยื่นเรื่องขอการชดเชยได้ที่สำนักงานแรงงานทุกจังหวัด นอกจากนี้ที่ฟินแลนด์ มีการจับตาพฤติกรรมของการพาคนมาเก็บเบอร์รี่จากฐานกฎหมายเรื่องการค้ามนุษย์ และปีนี้ก็ได้มีการดำเนินการสอบสวนและจับกุมทั้งเจ้าของบริษัทฟินแลนด์ และนายหน้าใหญ่ชาวไทยเข้าคุกไปแล้ว
4. ในกรณีฟินแลนด์ ลักษณะการพาคนมาเกือบทุกบริษัทเข้าข่ายการค้ามนุษย์ได้ ดังนั้นคนที่ควรจะกลัวไม่ใช้คนเก็บเบอร์รี่จะกลัวบริษัทฟ้อง แต่ทุกบริษัทตอนนี้ก็กำลังกลัวว่าจะถูกคนงานที่ถูกหลอก ฟ้องร้องค่าเสียหายด้วยเช่นกัน
5. ในกรณีสวีเดน กระทรวงแรงงานไทยบอกว่า สหภาพแรงงานที่สวีเดน ออกกฎให้มีการประกันรายได้ 24,000 โครน หรือ 80,000 บาท ดังนั้นลูกจ้างที่ไม่ได้เงินหรือได้เงินนิดเดียว สามารถไปดำเนินเรื่องยังสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อขอให้กรมการจัดหางานติดตามเงินส่วนประกันรายได้นี้มาจ่ายให้เช่นกัน
6. การข่มขู่ของบริษัท ของสาย ของนายหน้าว่า ถ้าร้องเรียนจะถูก blacklist ก็เป็นการข่มขู่ที่ไม่มีมูลความจริง เพราะหน้าที่ในการออกวีซ่าขึ้นอยู่กับสถานทูตสวีเดนและฟินแลนด์ ไม่ใช่อยู่ที่บริษัท คุณอาจจะถูก blacklist จากบริษัทได้ แต่บริษัทไม่สามารถปิดกั้นคุณ ไม่ให้แสวงหาบริษัทที่ดีกว่า หรือช่องทางที่ดีกว่าได้ และย้ำเลยว่า การให้วีซ่าไม่ได้อยู่ที่อำนาจของบริษัทแต่เป็นอำนาจของสถานทูต
7. การขู่ว่าถ้าร้องเรียนแล้วจะฟ้องกลับ ซึ่งสัญญาต่างๆ ที่บริษัทให้คนงานทุกคนเซ็น และไม่ยอมให้สำเนา เป็นสัญญาที่ตั้งใจเล่นโกงทางกฎหมายตั้งแต่แรก และก็ละเมิดกฎหมายและกรอบระเบียบที่ออกมาเพื่อคุ้มครองคนเก็บเบอร์รี่ตั้งแต่แรกแล้ว - ดั้งนั้น ถ้าท่านถูกขู่แบบนี้ ให้ท้าบริษัทไปเลยว่า ให้ฟ้องมาเลย พวกคุณจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าทนาย แล้วถือโอกาสไปชี้แจงความจริงในศาลเลย ดูซิว่า ศาลจะยึดตามสัญญาที่โกงของบริษัท หรือความจริงที่ให้การโดยลูกจ้างที่เสียหาย - ท้าไปเลยว่าถ้าบริษัทฟ้องคุณ คุณจะขอให้ศาลเรียกรัฐมนตรีแรงงาน และประธานกรรมาธิการแรงงาน มาเป็นพยานให้ศาลให้กับพวกคุณ
8. คนไทยถูกหลอกกับขบวนการค้าแรงงานไปเก็บเบอร์รี่ฟรีๆ ปีละ 2-3 เดือนมา 13-14 ปีแล้ว รวมกันทั้งสิ้นกว่าแสนครอบครัว และมีการเสียหายหลายหมื่นครอบครัว คนเก็บเบอร์รี่ ไม่ควรยอมไปทำงานฟรีวันละ 14-15 ชม. ตลอด 60-70 วันโดยไม่ได้อะไรเลย แถมมาใช้หนี้ กันอีกต่อไป - ขอให้เชื่อมั่นว่า งานเก็บเบอร์รี่ไม่ใช่การเสี่ยงโชค และมันมีกฎหมายคุ้มครองคนทำงาน ทั้งที่มีสัญญาจ้างเช่นที่สวีเดน และไม่มีสัญญาจ้างเช่นที่ฟินแลนด์
9. ขอให้กำลังใจทุกคนที่ไปเก็บเบอร์รี่ที่เสียหายปีนี้ ขอให้กล้าที่จะทวงสิทธิ และทวงค่าแรง เพื่อที่จะทำให้ระบบการไปทำงานเก็บเบอร์รี่เป็นระบบที่คุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้คนทำงานสูงสุด - ไม่ใช่ระบบที่มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งแสวงประโยชน์จากคนไทย และพาไปเป็นคนทำงานฟรี เพื่อหล่อเลี้ยงบริษัทเบอร์รี่ที่สวีเดนและฟินแลนด และหล่อเลี้ยงพวกบริษัท สาย และหน้าหน้ากันเช่นนี้
ขออนุญาตแอดมินทุกท่านเข้ามาชี้แจงช้อมูลเพื่อช่วยคนที่เสียหายจากฤดูกาลเก็บเบอร์รี่ปีนี้ และถ้าเห็นว่าข้อความนี้มีประโยชน์ก็ยินดีให้กระจายให้ถึงคนเก็บเบอร์รี่ทุกคนและทุกกลุ่ม
สำหรับคนที่เสียหายและต้องการคำแนะนำก็สอบถามมาได้เลย
