วันศุกร์, กรกฎาคม 08, 2565

เห็นฤทธิ์ 'วิชามาร' พวกสืบทอดอำนาจไหมล่ะ 'หักด่านกลางลำ' มติกรรมาธิการข้างมากเสียงั้น กลับไปเอาสูตร 'ห้าร้อย'

ถ้าจะเม้นต์อย่างสั่วๆ ก็ต้องว่าพวกแม้วโฆษณาแลนด์สไล้ด์ไว้มากเสียจนพวกโน้นกลัว เลยหันไปหาวิชามาร สั่ง สว.หักด่านกลางลำเสียจนพลิกมติกรรมาธิการข้างมาก เรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จากหาร ๑๐๐ ไปให้ ห้าร้อย หาร

หลังจากที่สภาอภิปราย พรป.เลือกตั้ง ส.ส.กันมาสองวัน ในคืนวันที่ ๖ กรกฎา มี ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ ระวี มาศฉมาดล ขอสงวนความเห็นไว้ว่าจะเอาแบบหาร ๕๐๐ ของ กธม.เสียงข้างน้อย กับปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล พรรคก้าวไกล ขอสงวนคำแปรญัตติของตน

คำแปรญัตติของพรรคก้าวไกลนั้นยืนยันการนำคะแนนเสียงบัญชีรายชื่อ ส.ส.ของแต่ละพรรคไปหารด้วยจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ทั้งสภา ๑๐๐ คน แต่ไม่ให้มีการปัดเศษคะแนนเสียงที่ผู้สมัครพรรคปลาซิวปลาสร้อยได้เข้าสภาพรรคละคน ให้พวกประยุทธ์ตักเข้าไว้ในอุ้ง

จึงการโหวตลงมติกันในคืนนั้น ๒ งวด ครั้งแรกเพื่อเลือกว่าจะไปสู่การสงวนความเห็นและแปรญัตติ โดยยังไม่โหวตมติกรรมาธิการไหม ผลคือเสียงข้างมาก ๓๙๒ เอาด้วยกับการไม่ใช้มติ กธม.โยไม่มีการแก้ไข ตามที่ข้างน้อย ๑๖๐ เสียงเห็นชอบ

ทั้งนี้เสียงส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ๑๑๒ เสียง อยู่ในฝ่ายให้ใช้มติกรรมาธิการโดยไม่แก้ไข แต่พรรคก้าวไกล ๔๗ เสียงไปอยู่ในฝ่ายให้สงวนความเห็นและแปรญัตติ “ยืนยันจะใช้ร่างแปรญัตติของ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ใช้สูตรคำนวณหาร ๑๐๐

ถึงได้ทำให้ วัน อยู่บำรุง เกิดอาการหัวร้อนกับพรรคก้าวไกลหาว่าไปสนับสนุนพวกห้าร้อย จนเมื่อ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ท้วงว่า “เข้าใจคลาดเคลื่อน” นะคะ ไปเช็คหลักฐานการโหวตเสียก่อน แล้วมีการขอโทษขอโพยกันตามมา

ครั้นดูผลการโหวตครั้งที่สองของคืนวันที่ ๖ ว่าจะเอาตามการสงวนความเห็นของ ระวีให้ใช้จำนวน ส.ส.ทั้งหมด ๕๐๐ คน หาร หรือจะเอาแบบของ ปกรณ์วุฒิใช้เฉพาะจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑๐๐ หาร ปรากฏว่าทั้ง สว.และพรรคร่วมรัฐบาลเทให้สูตรห้าร้อยกันเพียบ

พลังประชารัฐ (๖๓ เสียง) ภูมิใจไทย (๕๙ เสียง) ประชาธิปัตย์ (๓๗ เสียง) ชาติไทยพัฒนา (๕ เสียง) งูเห่าก้าวไกล (๕ เสียง) เสรีรวมไทย (๕ เสียง) รวมพลังประชาชาติไทย (๕ เสียง) เศรษฐกิจใหม่ (๔ เสียง) พรรคย่อยแห่งละ ๑ เสียงนับสิบ กับ สว.อีก ๑๕๐ เสียง

ก็เลยสมหวังพวกสืบทอดอำนาจ เมื่อคะแนนรวมฝ่ายเอาแบบหาร ๑๐๐ ไม่มีปัดเศษ ได้เพียง ๑๖๒ เสียง เทียบกับฝ่ายโน้น ๓๕๔ เสียง ทำให้แลนด์สไล้ด์พรรคเดียวไม่มีทางเป็นไปได้ ถึงเวลาต้องปรับขบวนให้เป็นฝ่ายเดียวกันตั้งรัฐบาลได้ ละมัง

ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลรวมหัวกัน “อัดมติรัฐสภาอัปยศ สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์” ตามข่าว way magazine เมื่อวาน (๗ ก.ค.) ระบุถ้อยแถลงของพรรคเพื่อไทยว่า “ผู้มีอำนาจในรัฐบาลต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้ง

กลับไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเพื่อสืบทอดอำนาจของตนต่อไป โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา กระทั่งจงใจกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๑ โดยลงมติแก้ไขมาตรา ๑๒๘ ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย”

ด้านเลขาฯ พรรคก้าวไกล ก็แถลงเช่นกัน “ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.ป.การเลือกตั้งเช่นนี้ และจะร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชน เพื่อยับยั้ง ระบอบประยุทธ์ให้ได้” ยังมีมาตรา ๑๓๒ ที่ต้องส่ง พรป.ที่มีปัญหาไปตรวจสอบได้

“ยังต้องส่งไปให้ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอีกที” คล้องจองกับพรรคเพื่อไทย ที่ “ประกาศว่าจะดำเนินการยื่นฟ้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ว่าประเด็นร่างมาตรา ๑๒๘ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต่อไป”

(https://www.facebook.com/waymagazine/posts/pfbid0ADT7CKNG, https://prachatai.com/journal/2022/07/99407 และ https://waymagazine.org/party-list-formulas/)