เจตนาดีก็เออละ แต่ถ้ามันกลายเป็นประสงค์ร้ายขึ้นมาล่ะ ทางที่ดีต้องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยอย่า ‘หาทำ’ เหมือนอย่างกองทัพบก นี่เป็นองค์กรขนาดยักษ์แบบเตี้ยอุ้มค่อม ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตขนาดนี้ แต่มันเป็นวิธี ‘หากิน’ ที่ไม่ค่อยต้อง ‘ทำมา’
นายพลล้นงาน ขนาดส่งไปเป็น สว.ก็เยอะแล้ว พวกนายพันก็หาตำแหน่งให้ไม่ทันบรรจุ สัญญาบัตรลงไปถึงหมู่จ่าเลยต้องแจกจ่ายไปตามโครงการหาทำทั้งหลาย ดังโครงการเพิ่มพื้นที่ป่า ที่ Army Spoke Team คุยอวดไว้ว่า
“กองทัพบกได้แสวงประโยชน์จากการใช้อากาศสยานในภารกิจทางทหาร เช่น การบินลาดตระเวน การบินส่งเสบียงในพื้นที่ป่าเขา โดยนำเมล็ดพันธุ์ขึ้นเครื่องไปด้วย เมื่อพบพื้นที่ป่าที่เสื่อมโทรม ป่าต้นน้ำ ก็จะโปรยเมล็ดพันธุ์เพื่อให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ”
ฟังแล้วดูดี จนกระทั่งลงรายละเอียดว่าเมล็ดพันธุ์ที่ใช้มีหลายชนิด เช่น ต้นสัก ลูกหว้า กระถินยักษ์ “โดยความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ กรมป่าไม้ ค่ายอาสา ร่วมกันจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์” แล้วไฉน ภาคส่วนเหล่านั้นจัดเมล็ดพันธุ์อันไม่เหมาะควรอย่างยิ่งให้
‘กระถินยักษ์’ เป็น ‘เอเลี่ยนสปีชี่ส์’ ชนิดหนึ่งซึ่งกรมอุทธยานแห่งชาติฯ เองระบุว่าเป็น “อสูรสีเขียว พืชต่างถิ่นรุกรานที่รุนแรงสูงสุด ติดอันดับ ๑๐๐ ชนิดแรกของโลก และ ๕๑ ชนิดแรกของไทย” จึงไม่น่าจะจัดหาให้ทัพบกอย่างผิดๆ ได้ เว้นแต่ ทบ.จะมั่วเอาเอง
“กิจกรรมหวังดีแต่ขาดความรู้ความเข้าใจในระบบนิเวศ มีแต่จะทำลายระบบนิเวศอย่างลับ ลวง พราง เพราะเห็นแต่ต้นไม้เขียวๆ แต่ไม่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสิ่งแปลกปลอมเต็มป่า” เพจ คนอนุรักษ์ ติติงให้ “เลิกเถอะ
จะอนุรักษ์ป่า ฟื้นฟูป่า ปล่อยป่าให้อยู่อย่างธรรมชาติดีที่สุด...มันอาจใช้เวลา แต่เมื่อป่ากลับมา มันจะเป็นป่า ไม่ใช่สวนที่คล้ายป่า เก็บความหวังดีมาคัดค้านการสร้างเขื่อน ตัดถนน ทำลายป่าดีกว่า”
(https://www.facebook.com/100051350382505/posts/574707470917594/ และขอบคุณลายแทงจาก Decharut Sukkumnoed)