วันจันทร์, ตุลาคม 15, 2561

เพจส่วนตัวใหม่ประยุทธ์ 'ใช้หาเสียง' คอมเม้นต์เต็ม #ยุติธรรมจัญไร “เปิดหน้าสู้” “แน่จริงอย่าปิดเพจหนีนะ"


โอ้โห ไอทู้บเปิด FB –ฟุคเบช (fuckbase) IG -อีใจ (รัญ) TW -ท-เว่อ (ติ๊ด) ส่วนตัว ใช้หาเสียงออนไลน์แล้วซี อ้าว แล้วไอ้ที่ “ห้ามหาเสียงออนไลน์ทางโซเชียลมีเดีย บังคับใช้เฉพาะนักการเมืองกับพรรคการเมืองเท่านั้น” ละหรือ

@shutup2557 เขาถึงได้ว่า #ยุติธรรมจัญไร ส่วน Wassana Nanuam บอก “เปิดหน้าสู้” แต่ Thanapol Eawsakul ชี้ นี่ “จะเป็นการแสดงผลโพลที่น่าจะตรงที่สุด” พร้อมทั้งท้า “แน่จริงอย่าปิดเพจหนีนะครับ”

เอ้า มาดูกัน ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงวันนี้ (๑๕ ต.ค.) มีคนติดตามเพจ (เก็บยศ) ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ มากถึง ๑ หมื่น ๓ พันราย มีทั้งต้อนรับ ให้กำลังใจ บ้างตั้งข้อสังเกตุอยู่มาตั้งนาน ไฉนเพิ่งจะสร้างเพจ “หรือว่าใกล้ช่วงเลือกตั้ง”
 
บางรายส่งลิ้งค์ใบสมัครพรรค เกียน (ผู้นำความบันเทิงสู่การเมืองไทย) ไปให้ แนะว่า “เป็นนักการเมืองเต็มตัวได้ ไม่อายใคร ไม่ต้องเสียเวลาดูดครับ” และอีกรายถามแรงเหมือนว่าจะเป็นเทร็นด์ “เมื่อไหร่จะออกไปตามสัญญา ที่บอกว่าขอเวลาอีกไม่นานอะ”

ทั่นรองเลขานายกฯ (พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ณ กปปส.) ยืนยันงานนี้เจ้าตัวเล่นเอง ไม่มีสแตนด์อิน (สแตนดี้) แต่วาสนา นาน่วม ไม่แน่ใจ “เปิดไว้เขียนเองบ้าง แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นทีมงานเขียน ๕๕๕...

เปิดตั้งแต่ ๑๓ ก.ย. ๒๕๖๑...เพื่อเตรียมใช้หาเสียง...เพราะหัวหน้าพรรคและนักการเมืองใช้โซเชี่ยลฯ สังคมออนไลน์กันแล้วทั้งนั้น บิ๊กตู่ก็ต้องเป็นนายกฯ 4.0 หน่อย...

เอายศออก เพื่อลดภาพนายกฯ ทหาร แถมระบุบ้านเกิดนครราชสีมา (เกิดในค่ายสุรนารี “กะเอาใจคนอิสาน” มั้ง) พร้อมลงประวัติและภาพ ตั้งแต่วัยเด็ก วัยเรียน จนเป็นทหารเสือราชินี ผบทบ. และเป็นนายกฯ”

แถมด้วย “วิสัยทัศน์ แนวทางการบริหารประเทศ ด้วยยุทธศาสตร์และแผนแม่บทที่ชัดเจนบนแกนหลัก ๓ แกน ได้แก่ มั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน” นั่นเชียว

สำหรับโพสต์แรกนี่ออกตัวเนิบๆ “เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารแนวนโยบาย การทำงานของผมและรัฐบาล รวมถึงเล่าสู่กันฟังถึงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ และเป็นช่องทางที่ผมและพี่น้องประชาชนจะเข้าถึงกันได้ดียิ่งขึ้น” วุ้ย ปากหวาน

“หากท่านมีข้อเสนอแนะ ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือต้องการให้ผมลงไปดูแลแก้ปัญหา ก็สามารถเขียนเข้ามาเล่าสู่กันฟังได้ เพื่อที่ผมและทีมงานจะได้มีข้อมูลและดูแลช่วยเหลือได้โดยตรงครับ”


หา จริงเหรอ ถ้างั้นเอาอันนี้ไปตรองสักหน่อยเป็นไร เพิ่งมีข่าวออกมาวานนี้เอง จากการที่คณะรัฐมนตรีของทั่นอนุมัติตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ๔๕ คน เต็มไปด้วยข้าราชการ มีประชาชนเต็มขั้นแค่ ๓ คนเอง

“ที่เหลือเป็นข้าราชการ วิชาชีพทางการแพทย์ มีแม้กระทั่งสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้า และกลาโหม...คนกลุ่มนี้พูดตลอดเวลาว่า ๓๐ บาทคือภาระประเทศ แต่สวัสดิการของข้าราชการไม่เคยเป็นภาระสำหรับพวกเขา”
 
น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพภาคประชาชน แจงให้เห็นว่าชัดแจ้งเลยว่า โดยเฉพาะกรรมการจากสภาหอการค้าที่กระทรวงสาธารณสุขเลือกเข้าไปนั้น “มีตัวแทนจากสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์หรือพรีม่าอยู่ด้วย สมาคมนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทยาข้ามชาติ

และที่ผ่านมามีบทบาทในการคัดค้านนโยบายด้านสุขภาพต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมาตลอด” ฉะนั้น “การมีกฎหมายฉบับนี้ประชาชนไม่มีประโยชน์ใดๆ เพิ่มขึ้น มีแต่จะถูกลิดรอนสิทธิ ระบบหลักประกันสุขภาพจะได้รับผลกระทบมาก

...ระบบ ๓๐ บาทหรือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของประชาชนที่ได้มาจากรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย จากที่เคยเป็นสิทธิจะถูกทำให้กลายเป็นระบบอนาถา ถูกบังคับให้ร่วมจ่ายเมื่อป่วย”

น.ส.กรรณิการ์ย้ำ “ประชาชนต้องช่วยกันหยุด ไม่เช่นนั้น...ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพของ สธ.นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายระบบ ๓๐ บาทของประชาชน”