
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
12 hours ago
·
7 ตุลาคม 2568 - อัพเดทสถานการณ์การถูกขู่หรือฟ้องร้องของเจ้าของเพจ เกี่ยวกับ #มหากาพย์นายหน้า
ตอนแรกคิดว่าจะรอจนกว่าจะเห็นความชัดเจนในหลายๆ เรื่องก่อน แต่เนื่องจาก 1-2 วันที่ผ่านมานี้ ชื่อของเจ้าของเพจถูกพาดพิงออกสื่อโดย “ทนายธนดล” ทีมกฎหมาย รมว. ธรรมนัส ที่อ้างว่ารับมอบอำนาจ "เบน สมิธ" มาฟ้องบุคคลต่างๆ รวมเจ้าของเพจด้วย ประกอบกับเห็นการบิดเบือนข่าวสารโดยคนบางกลุ่ม ก็เลยคิดว่าควรเขียนชี้แจงทีเดียวในโพสเดียวก่อนค่ะ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและการฉวยโอกาสบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย
ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เจ้าของเพจได้รับจดหมาย "ขู่ว่าจะฟ้องถ้าไม่ลบเนื้อหา" (cease & desist letter) สองฉบับ และการกล่าวอ้างว่าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 1 คดีค่ะ ดังนี้
1. จดหมาย cease & desist ฉบับแรก ได้รับจากทนายของ Chartered Group ลงวันที่ 18 กันยายน 2568 ให้เวลา 7 วัน ลบเนื้อหาทั้งหมดที่พาดพิงบริษัท Chartered Group ซึ่งผู้เขียนตัดสินใจลบและให้ทนายเขียนตอบ โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด รายละเอียดอ่านได้ในบล็อก https://fringer.co/cease-and-desist-chartered/ สรุปเป็นภาษาบ้านๆ ได้ว่า ขี้เกียจขึ้นศาลไปทะเลาะด้วย :>
2. จดหมาย cease & desist ฉบับที่สอง ได้รับจากทนายของ Capital Asia Investments (CAI) ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 ให้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง (ต้องลบภายในคืนวันที่ 26 กันยายน 2568) ลบเนื้อหาทั้งหมดที่พาดพิง CAI ซึ่งผู้เขียนหลังจากปรึกษาทนายแล้วตัดสินใจไม่ทำอะไร เนื่องจาก CAI เป็นกลไกหลักที่เป็นแกนกลางของ #มหากาพย์นายหน้า ถ้าหากตัดสินใจทำตามคำขอในจดหมาย ก็เท่ากับว่าจะต้องลบเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องออก (เยอะกว่าส่วนที่เกี่ยวกับ Chartered Group) และจะเขียนอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ CAI หรือ กรรมการของ CAI (เช่น George Tan) ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นระดับการเซ็นเซอร์ตัวเองที่เจ้าของเพจไม่ยอมรับ
3. การแจ้งความดำเนินคดี จากการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อ “ทนายธนดล” อ้างว่า รับมอบอำนาจจาก "เบน สมิธ" แจ้งความเจ้าของเพจต่อ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) แล้วในวันที่ 1 กันยายน 2568 (ตัวอย่างข่าว https://prachatai.com/journal/2025/10/114978) -- สถานการณ์ ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 คือ เจ้าของเพจยังไม่ได้รับหมายเรียกใดๆ จากตำรวจในคดีดังกล่าวค่ะ
ขอสรุปสั้นๆ ว่า สุดท้ายไม่ว่าจำเป็นจะต้องไปโรงพัก หรือขึ้นศาลในคดีที่เกี่ยวกับ #มหากาพย์นายหน้า กี่คดี ก็ยินดีจะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ รวมถึงอธิบายที่มาที่ไปและเหตุผลในการวิเคราะห์โครงสร้างการถือหุ้นและธุรกรรมการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้อง ตามโพสต่างๆ ที่เขียนในเพจนี้ตลอดมา และจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่มีเจตนาอื่นนอกจากการแสดงออกและแสดงความเห็นทางวิชาการ (อุตส่าห์เรียนจบและทำงานในภาคการเงินมานาน อิอิ) เพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น -- เพราะเรื่องนี้สำคัญมากๆ ต่ออนาคตของประเทศและตลาดทุนค่ะ :>
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และชวน #รอติดตามตอนต่อไป โดยเฉพาะการสอบสวนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งไทยและเทศ
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
·
7 ตุลาคม 2568 - อัพเดทสถานการณ์การถูกขู่หรือฟ้องร้องของเจ้าของเพจ เกี่ยวกับ #มหากาพย์นายหน้า
ตอนแรกคิดว่าจะรอจนกว่าจะเห็นความชัดเจนในหลายๆ เรื่องก่อน แต่เนื่องจาก 1-2 วันที่ผ่านมานี้ ชื่อของเจ้าของเพจถูกพาดพิงออกสื่อโดย “ทนายธนดล” ทีมกฎหมาย รมว. ธรรมนัส ที่อ้างว่ารับมอบอำนาจ "เบน สมิธ" มาฟ้องบุคคลต่างๆ รวมเจ้าของเพจด้วย ประกอบกับเห็นการบิดเบือนข่าวสารโดยคนบางกลุ่ม ก็เลยคิดว่าควรเขียนชี้แจงทีเดียวในโพสเดียวก่อนค่ะ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและการฉวยโอกาสบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย
ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เจ้าของเพจได้รับจดหมาย "ขู่ว่าจะฟ้องถ้าไม่ลบเนื้อหา" (cease & desist letter) สองฉบับ และการกล่าวอ้างว่าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 1 คดีค่ะ ดังนี้
1. จดหมาย cease & desist ฉบับแรก ได้รับจากทนายของ Chartered Group ลงวันที่ 18 กันยายน 2568 ให้เวลา 7 วัน ลบเนื้อหาทั้งหมดที่พาดพิงบริษัท Chartered Group ซึ่งผู้เขียนตัดสินใจลบและให้ทนายเขียนตอบ โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด รายละเอียดอ่านได้ในบล็อก https://fringer.co/cease-and-desist-chartered/ สรุปเป็นภาษาบ้านๆ ได้ว่า ขี้เกียจขึ้นศาลไปทะเลาะด้วย :>
2. จดหมาย cease & desist ฉบับที่สอง ได้รับจากทนายของ Capital Asia Investments (CAI) ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 ให้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง (ต้องลบภายในคืนวันที่ 26 กันยายน 2568) ลบเนื้อหาทั้งหมดที่พาดพิง CAI ซึ่งผู้เขียนหลังจากปรึกษาทนายแล้วตัดสินใจไม่ทำอะไร เนื่องจาก CAI เป็นกลไกหลักที่เป็นแกนกลางของ #มหากาพย์นายหน้า ถ้าหากตัดสินใจทำตามคำขอในจดหมาย ก็เท่ากับว่าจะต้องลบเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องออก (เยอะกว่าส่วนที่เกี่ยวกับ Chartered Group) และจะเขียนอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ CAI หรือ กรรมการของ CAI (เช่น George Tan) ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นระดับการเซ็นเซอร์ตัวเองที่เจ้าของเพจไม่ยอมรับ
3. การแจ้งความดำเนินคดี จากการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อ “ทนายธนดล” อ้างว่า รับมอบอำนาจจาก "เบน สมิธ" แจ้งความเจ้าของเพจต่อ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) แล้วในวันที่ 1 กันยายน 2568 (ตัวอย่างข่าว https://prachatai.com/journal/2025/10/114978) -- สถานการณ์ ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 คือ เจ้าของเพจยังไม่ได้รับหมายเรียกใดๆ จากตำรวจในคดีดังกล่าวค่ะ
ขอสรุปสั้นๆ ว่า สุดท้ายไม่ว่าจำเป็นจะต้องไปโรงพัก หรือขึ้นศาลในคดีที่เกี่ยวกับ #มหากาพย์นายหน้า กี่คดี ก็ยินดีจะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ รวมถึงอธิบายที่มาที่ไปและเหตุผลในการวิเคราะห์โครงสร้างการถือหุ้นและธุรกรรมการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้อง ตามโพสต่างๆ ที่เขียนในเพจนี้ตลอดมา และจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่มีเจตนาอื่นนอกจากการแสดงออกและแสดงความเห็นทางวิชาการ (อุตส่าห์เรียนจบและทำงานในภาคการเงินมานาน อิอิ) เพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น -- เพราะเรื่องนี้สำคัญมากๆ ต่ออนาคตของประเทศและตลาดทุนค่ะ :>
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และชวน #รอติดตามตอนต่อไป โดยเฉพาะการสอบสวนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งไทยและเทศ
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
9 hours ago
·
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ติดตามความเห็น(ที่หลากหลายอย่างยิ่ง)ของชาวเน็ต ต่อกรณี #มหากาพย์นายหน้า ด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะหลังจากที่ ส.ส. โรม และ ส.ส. วิโรจน์ อภิปรายเรื่องนี้ในสภา เพราะทำให้เรื่องนี้เข้าสู่การรับรู้ของประชาชนในวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะคนในแวดวงการเงินหรือแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบติดตามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
เรื่องนี้เป็นมหากาพย์ ดังนั้นก็จะมีอีกหลายตอนที่ต้องตามกันต่อยาวๆ นะคะ แค่อยากแวะมาบอกว่า "อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ" เนี่ย มีเบาะแสและร่องรอยให้สะกดรอยตาม วิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตและสืบสาวไปสู่การสอบสวนเชิงลึก คล้ายกับอาชญากรรมประเภทอื่นๆ เพียงแต่เบาะแสในคดีประเภทนี้มักไม่ใช่ รอยนิ้วมือ หยดเลือด อาวุธ ดีเอ็นเอ หรืออะไรแบบนี้ แต่จะเป็นแนว ความผิดปกติของงบการเงิน ความพิสดารของโครงสร้างการถือหุ้น การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทที่อธิบายไม่ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ประวัติการโอนหุ้น ความเกี่ยวโยงกันข้ามนิติบุคคล ฯลฯ อะไรพวกนี้มากกว่า ดังนั้นถ้าใครสนใจจะติดตามเรื่องแบบนี้ ก็ต้องเริ่มจากการหัดอ่านงบการเงิน ข้อมูลการถือหุ้น รายงาน แบบฟอร์ม filing ที่ส่ง ก.ล.ต. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้งหลายทั้งปวงค่ะ เพราะคนที่ตามเรื่องนี้กันจริงๆ เขาไม่ได้วิเคราะห์หรือสรุปอะไรจากแค่ภาพถ่ายไม่กี่ภาพ ที่บอกว่า นาย ก. อยู่กับ นาย ข. และ นาย ค. แน่นอน :>
ว่าแล้วก็ขอขาย Billion Dollar Whale หนังสืออาชญากรรมเศรษฐกิจที่สนุกมากๆ เขียนโดยนักข่าวหัวเห็ดคู่เดียวกับที่เจาะ #มหากาพย์นายหน้า ภาคอินเตอร์อยู่ 55 https://salt.co.th/product/billion-dollar-whale/
เล่มนี้เป็นเล่มที่ให้ประสบการณ์แปลที่มันส์ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต และเชื่อว่าอีกไม่นานจะได้แปลภาคต่อค่ะ
#รอดิดตามตอนต่อไป
https://www.facebook.com/SarineeA
·
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ติดตามความเห็น(ที่หลากหลายอย่างยิ่ง)ของชาวเน็ต ต่อกรณี #มหากาพย์นายหน้า ด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะหลังจากที่ ส.ส. โรม และ ส.ส. วิโรจน์ อภิปรายเรื่องนี้ในสภา เพราะทำให้เรื่องนี้เข้าสู่การรับรู้ของประชาชนในวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะคนในแวดวงการเงินหรือแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบติดตามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

เรื่องนี้เป็นมหากาพย์ ดังนั้นก็จะมีอีกหลายตอนที่ต้องตามกันต่อยาวๆ นะคะ แค่อยากแวะมาบอกว่า "อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ" เนี่ย มีเบาะแสและร่องรอยให้สะกดรอยตาม วิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตและสืบสาวไปสู่การสอบสวนเชิงลึก คล้ายกับอาชญากรรมประเภทอื่นๆ เพียงแต่เบาะแสในคดีประเภทนี้มักไม่ใช่ รอยนิ้วมือ หยดเลือด อาวุธ ดีเอ็นเอ หรืออะไรแบบนี้ แต่จะเป็นแนว ความผิดปกติของงบการเงิน ความพิสดารของโครงสร้างการถือหุ้น การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทที่อธิบายไม่ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ประวัติการโอนหุ้น ความเกี่ยวโยงกันข้ามนิติบุคคล ฯลฯ อะไรพวกนี้มากกว่า ดังนั้นถ้าใครสนใจจะติดตามเรื่องแบบนี้ ก็ต้องเริ่มจากการหัดอ่านงบการเงิน ข้อมูลการถือหุ้น รายงาน แบบฟอร์ม filing ที่ส่ง ก.ล.ต. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้งหลายทั้งปวงค่ะ เพราะคนที่ตามเรื่องนี้กันจริงๆ เขาไม่ได้วิเคราะห์หรือสรุปอะไรจากแค่ภาพถ่ายไม่กี่ภาพ ที่บอกว่า นาย ก. อยู่กับ นาย ข. และ นาย ค. แน่นอน :>
ว่าแล้วก็ขอขาย Billion Dollar Whale หนังสืออาชญากรรมเศรษฐกิจที่สนุกมากๆ เขียนโดยนักข่าวหัวเห็ดคู่เดียวกับที่เจาะ #มหากาพย์นายหน้า ภาคอินเตอร์อยู่ 55 https://salt.co.th/product/billion-dollar-whale/
เล่มนี้เป็นเล่มที่ให้ประสบการณ์แปลที่มันส์ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต และเชื่อว่าอีกไม่นานจะได้แปลภาคต่อค่ะ

#รอดิดตามตอนต่อไป
https://www.facebook.com/SarineeA