สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News
13h
บก.ลายจุด จัดแฟลชม็อบ “วันอาทิตย์สีดำ” ระดมติดสติ๊กเกอร์ “ไล่ประยุทธ์” ด้านประชาชนแห่ร่วมคึกคัก ด้าน บก. ท้าสื่อ ไปถามประยุทธ์ที่ทำเนียบ คิดว่าตัวเองเป็นนายกมาแล้วกี่ปี่ ?
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น. ที่บริเวณทางเท้าหน้าโรงภาพยนตร์สกาลา สยามสแควร์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด จัดกิจกรรม แฟลชม็อบ ‘วันอาทิตย์สีดำ’
บรรยากาศในวันนี้ นายสมบัติได้นำสติ๊กเกอร์คำว่า #ไล่ประยุทธ์ ติดบนกำแพงสังกะสีหน้าโรงภาพยนตร์สกาลา โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาได้ร่วมติดสติกเกอร์บริเวณริมกำแพงดังกล่าวเพื่อแสดงออกในข้อความเชิงสัญลักษณ์
นายสมบัติกล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ชื่อว่ากิจกรรมวันอาทิตย์สีดำ โดยเชิญชวนให้ประชาชนสร้างการมีส่วนร่วมของกิจกรรมการใส่เสื้อดำ มีนัยยะทางการเมืองซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศก็คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นทุกสัปดาห์ โดยคนที่ใส่เสื้อสีดำก็จะมาร่วมกิจกรรมหรือไม่รู้กิจกรรมก็ได้
กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมวอลล์เปเปอร์ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ทำให้พลเอกประยุทธ์หมดสภาพการเป็นนายก แต่ความเป็นนายกมนตรีในมุมมองของประชาชนไม่มีสถานะตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว นอกจากนั้นสิ่งที่เรียกว่ายังเป็นการสร้างสิ่งตรงข้ามกับมาตรฐาน โดยการอีกทีจะเป็นคนเดียวที่ศาลรัฐธรรมนูญอยู่เหนือข้อกฎเกณฑ์หรือข้อยกเว้นใดๆทางการเมือง
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ตนเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีภาวะผู้นำไม่มีความสง่างามทางการเมืองใดๆเลย ขอให้ผู้สื่อข่าวไปถามพลเอกประยุทธ์ในวันจันทร์นี้ว่าพลเอกประยุทธ์เป็นนายกมากี่ปีแล้ว ตนเองมั่นใจว่าพลเอกประยุทธ์ไม่กล้าพูดว่าเป็นนายกมาแล้วห้าปีตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้พูดเอาไว้ พลเอกประยุทธ์ก็ต้องพูดว่าแกเป็นนายกมาแปดปีแล้ว แต่ พลเอกประยุทธ์มีสิทธิ์จะเป็นในนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่งมันเป็นเรื่องขัดข้อเท็จจริงและขัดต่อความรู้สึกของประชาชน
“สำหรับกิจกรรมแบบนี้ตนเลือกใช้กำแพงหน้าโรงหนังสกาล่า เนื่องจากนายศรีสุวรรณ จรรยาโพสต์ข้อความว่า ใครลงถนนจากจับเข้าคุก ตนก็เลยใช้พื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นฟุตปาธในการจัดกิจกรรมแทน และตนก็หวังว่านายศรีสุวรรณจะไม่บ้าจี้มาแจ้งความคนที่จัดกิจกรรมบนฟุตปาธ” นายสมบัติ กล่ายทิ้งท้าย
.....
สมบัติ บุญงามอนงค์
9h
ทีวีดิจิตอลช่องหนึ่ง ผู้บริหารได้สั่งการให้ลบ Post ภาพข่าวกิจกรรมวันอาทิตย์สีดำของผมออกจากเพจของตนเอง โดยส่วนตัวติดตามข่าวต่างประเทศจากช่องนี้ แต่ไม่คิดว่าแค่ผมเคยเขียนวิจารณ์ผู้บริหารของทีวีช่องนี้ว่าบริหารงานภายใต้แรงกดดันของ คสช ถึงกับแค้นฝังหุ่นทำ Blacklist กิจกรรมของผมในทุกกรณี
ไม่น่าเชื่อว่าจิตใจจะเล็กเท่ารูขุมขนของขนรักแร้ประยุทธ