วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 02, 2565

'ปากคอเราะราย' ทุกครั้งที่พูด ประยุทธ์ถือดีว่า 'พี่กลาง' “สามารถปลดผู้ว่าฯ กทม.ได้ด้วย”

ปัญหาเกี่ยวกับ ประยุทธ์นั้นอยู่ที่ เขาไม่ได้ยี่หระกับฝ่ายค้าน ใหม่พวกยอมหักไม่ยอมงอ ที่คอยจับผิดอยู่ได้ทุกวี่วัน ดังนั้นเมื่อเขาพูดอะไรจึงไม่เคยยั้งคิดในครรลองของวิญญูชนประชาธิปไตย แม้กำลังพยายามจะสืบต่ออำนาจผ่านการเลือกตั้ง

ตัวอย่าง การตอบข้ออภิปรายของฝ่ายค้านในสภาเรื่องงบประมาณ เมื่อ ส.ส.ก้าวไกลแสดงให้เห็นในรายละเอียดว่า การจัดทำงบประมาณอย่างเหมาะสม และจะตอบสนองกับความต้องการของประชาชนทั่วไปได้ถูกโจทย์

แทนที่จะตอบเพื่อหักล้างสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอไม่ดีอย่างไร หรืองบประมาณของรัฐบาลมีดีอะไร (ไม่เปิดช่องคอรัปชั่น ไม่เอื้อแต่ฐานเสียงข้าราชการ) ประยุทธ์กลับไพล่ไปบอกอย่างประชดประชันว่า “ผมก็งงๆ...เราพิจารณางบประมาณปี ๖๖” (ของรัฐบาล)

“หรือไปพิจารณางบประมาณของพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งยังไม่ได้เป็นรัฐบาล” ใช่สิ ฝ่ายค้านหรือพรรคการเมืองตรงข้ามรัฐบาลย่อมต้องแสดงให้เห็นความไม่เหมาะสมของรัฐบาลที่เป็นอยู่ เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นความชั่วช้าซึ่งต้องเปลี่ยนแปลง

ประยุทธ์ต้องรู้ไว้ว่าการอภิปรายในสภานี่ละ เป็นการหาเสียงอย่างถูกต้องรัฐธรรมนูญ และอยู่ในหลักการสำคัญของการเมืองประชาธิปไตย ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.บ่งบอกแล้วว่าการเมืองแบบนักยึดอำนาจแปรธาตุให้เป็นเผด็จการครึ่งใบกำลังหมดเวลา

ดัง Parit Wacharasindhu (Itim) @paritw92 ตอบประยุทธ์ว่า “ไม่เพียงวิจารณ์สิ่งที่ไม่เห็นด้วยกับ รบ. แต่นำเสนองบประมาณอีกแนวทางที่เราคิดว่าตอบโจทย์กว่า หากท่านเห็นด้วยก็นำไปใช้ได้เลย หากท่านไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร &ให้ ปชช.ตัดสินในวันเลือกตั้ง”

กับเรื่องผู้ว่า กทม.คนใหม่ที่ประยุทธ์บอกว่า “ก็ยินดีด้วย จะได้ทำงานสักที” ปากคอเราะรายอย่างนี้ ถ้าเป็นชาวบ้านก็เลือดกลบปากไปแล้ว คนเป็นนายกฯ ไม่รอบรู้ ไม่เคยดูให้ทั่วว่า เขาลงพื้นที่ทำงานตั้งแต่วันที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จดี

ส่วนที่บอกอีกว่า “คงต้องมาคุยกับนายกฯ ก่อน เขาต้องมาอยู่แล้ว” ก็เลยหน้าแตกไปแทน “เรื่องไปพบนายกฯ คงไม่ใช่ตอนนี้ เข้าไปตอนนี้ไม่ทราบว่าจะไปคุยอะไร ขอโฟกัสเรื่องของเราก่อน” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตอบเมื่อผู้สื่อข่าวซักถึงกรณีที่ประยุทธ์พูดวางอำนาจ

“วันธรรมดาลุยที่นี่ผลักดันนโยบายเร่งด่วน เสาร์-อาทิตย์ลุยพื้นที่ คุยประชาชน ดูหน้างาน” chamnan chanruang@chamnanxyz ช่วยกระทุ้งอีกคน “ผู้ว่า กทม.ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกน้องนายกรัฐมนตรีที่จะต้องมาคุยกับนายกฯ ก่อนนะครับ”

พอเห็นการปีนเกลียว ขืนมากกว่านี้เดี๋ยวเกลียวขาด เนติบริกร ก็เอาเชียว บอกว่า “กทม.คือท้องถิ่น ต้องทำงานร่วมมือกับส่วนกลาง โดยอันดับแรกคือกระทรวงมหาดไทย” รัฐมนตรีว่าการ “สามารถปลดผู้ว่าฯ กทม.ได้ด้วย”

ส่วนนายกฯ “ถือว่าไกลหน่อย แต่ก็จำเป็น...เพราะบางอย่างจะต้องร่วมมือกันประสานกันได้” แถมขู่เสียอีกว่า “ในอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยยุบสภากรุงเทพมหานครมาแล้ว” สมัยผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ เคยมีการเรียกร้องให้ มท.๑ ปลดมาแล้ว

อ้อ แล้วพอถูกถามถึงข้อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ (กลุ่ม We're all voter นำ ๑๕,๗๗๕ รายชื่อยื่นต่อกรรมาธิการการกระจายอำนาจ เมื่อวานนี้ ๑ มิ.ย.) รองนายกฯ หัวหมอ ว่า “ส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปได้ยาก”

จะยากแค่ไหน ประชาชนเริ่มแล้ว และ ซูการ์โน มะทา ประธานคณะกรรมาธิการฯ บอก “ตนพร้อมสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว...ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการให้จังหวัดได้มีอำนาจจัดการตนเอง”

(https://prachatai.com/journal/2022/06/98885, https://www.matichon.co.th/politics/news_3378033 และ https://twitter.com/paritw92/status/1531889777741791232)