วันอาทิตย์, มิถุนายน 26, 2565

ฝ่ายปกครองไปเผือกเรื่องเสื้อผ้านักเรียน ฝ่ายความมั่นคงยื่นปากยื่นจมูกการเมืองกับ 'คนเห็นต่าง'

เขาเล่นสลับขากันเหรอนี่ ตอนนี้ฝ่ายปกครองไปเผือกเรื่องเสื้อผ้า (และอีกไม่ช้าคงต่อถึง) หน้าผมของเด็กนักเรียน ส่วนฝ่ายความมั่นคงยื่นปากยื่นจมูกเข้าไปในการเมืองการปกครอง

รายแรก ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด “ขอให้สนับสนุนช่วยเหลือ” เรื่องระเบียบการแต่งกาย เครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารี“หากผู้ปกครองรายใดมีฐานะยากจนขัดสน” ไม่สามารถจัดซื้อเครื่องแบบเหล่านั้นได้

คำสั่งนี้เกิดจากการที่ทั่นปลัดฯ ซึ่งสวมหมวกอีกใบเป็นรองประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ไปประชุมคณะกรรมการเมื่อต้นเดือนมิถุนานี้ มีการพิจารณาคำร้องเรียนเรื่องขอให้งดบังคับใช้เครื่องแบบทั้งสองประเภทแก่นักเรียน

“เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน” ดังนั้นทั่นรองฯ จึงดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยการสั่งให้ทางจังหวัด จัดหาและ “หากเกินความสามารถ” ก็ให้มาแจ้งผม (ปลัดกระทรวงฯ)

นี่คือวิธีการบริหารราชการ แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ของ ไตแลนเดีย’ ดังคำอ้างของปลัดฯ ที่ว่า “การแต่งกายด้วยชุดลูกเสือและเนตรนารี เป็นการปลูกฝังความรัก ความภาคภูมิใจ” แล้วยัง “ปลูกฝังอุดมการณ์” ที่พระมงกุฏเกล้าฯ พระราชทานแก่ลูกเสือไทยด้วย

มันก็น่าจะเข้าท่าอยู่หรอก ถ้าหากจะปลูกฝังความอะไรเหล่านั้นต่อบูรพกษัตริย์ ด้วยการลดภาระทางการเงินของผู้ปกครอง โดยไม่ต้องเอางบประมาณจังหวัดมาใช้ (หรือเท่าที่ทราบ) ทำให้ทางจังหวัดไปรีดไถพวกพ่อค้า คหบดีในจังหวัดอีกต่อ

กราบบังคมทูลพระกรุณาผ่านสำนักพระราชวังไป ให้เจียดลงมาใช้ทำเรื่องนี้ไม่กี่สิบล้าน พระคลังข้างที่ขนาด ๔๐ บิลเลี่ยนดอลลาร์ คงจะไม่ทรงพระระคายเคืองอันใด หรือว่าถ้าหากเกรงใจ๊เกรงใจ พวกชุดขาวนั่งรถเบ๊นซ์สีเหลืองที่ไปบ่อนไก่วันก่อน

ก็ย้อนขึ้นไปอ้อนวอนจ้าวกระทรวง ซึ่งเป็นหนึ่งในทีม ๓ ป.กระซิบบอกน้องเล็กคนที่เป็นหัวหน้าใหญ่ ให้สั่งการรัฐมนตรีทุกกระทรวง ผันเงินในงบประมาณส่งเสริมสถาบันกษัตริย์ ประเภทที่เอาไปทำซุ้มไว้ให้สุมไฟและลมตีเหล่านั้น มาใช้การนี้แทน

เห็นไหม ง้ายง่าย หากไหวทันสักนิด แอบไปถามผู้ว่าฯ (จากการเลือกตั้ง) ชัชชาติเสียก่อนร่อนหนังสือ คงได้ทางออกที่แยบยลกว่านี้ไปแล้ว เขาว่าท่านตอบทุกคนที่ถาม สนองคำร้องแทบจะทุกครา

อีกรายที่ Deep Blue Sea @WassanaNanuam บอกคือ “๓ ต้อง ๑ เบิร์ด” ชื่อเล่นทั้งนั้น แต่ความสำคัญอยู่ที่ ๓ ต้อง เป็นบิ๊ก เป็น เสธ. และเป็นผู้กอง “พร้อมหน้า...พร้อมพบปะพูดคุยคนเห็นต่าง ชวนมานั่งจิบน้ำชากาแฟ คุยสบายๆ ที่กลาโหม คลายข้องใจทุกประเด็น”

ปฏิกิริยาก็เลยพรึ่บสิ โดยเฉพาะ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล @AmaratJeab ส.ส.ของพรรคก้าวไกล บอก “ใครจะโง่โดนหลอกเป็นรอบที่สอง” แล้วเติมแฮ้สแท็ก #ปฎิรูปกองทัพ เมื่อเช้าเอาอีก “พวกคุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า” ชวนพวกไม่เห็นด้วยไปคุยในรัง

“สร้างรัฐสภาไป ๒ หมื่นกว่าล้าน มีพื้นที่พร้อมให้ทุกคนทุกฝ่ายมานั่งคุยการบ้านการเมือง” ทำไมไม่เอา เธอแถมอีกแฮ้สแท็ก #หยุดแทรกแซงการเมือง “แค่กระบวนการก็ผิดแล้ว” weeranan@weeranan นักข่าว ว้อยซ์เล่นด้วยเมื่อกี้

“เชิญไปสามเหลี่ยมดินแดง, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และอนุสาวรีชัยฯ นะครับ พื้นที่ชุมนุมจัดที่ไหน ไปหาเขาที่นั่น” เขาแนะ ด้าน Kanozz@KanozzL แจ้งเลย เหตุแคลงใจ “นึกถึงตอนปี ๕๗ ครับ เรียกยิ่งลักษณ์และคู่ขัดแย้งไปคุย

“แล้วก็ล็อคห้องยึดอำนาจ น่ากลัวนะครับพอทหารบอกว่าจะเคลียร์เรื่องขัดแย้งให้เนี้ย อาจจะเป็นเค้าลาง” นี่ละตะหานไตในกะลาแลนด์ เผยอปากครั้งไร ไม่เห็นค่อยมีใครอยากจะเชื่อ

(https://twitter.com/WassanaNanuam/status/1540294688317444096 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3420067)