วันอาทิตย์, มิถุนายน 26, 2565

พิมรี่พาย-ศึกแดงเดือด เพจ"วิเคราะห์บอลจริงจัง" วิเคราะห์ดีมาก ยาวแต่ไม่น่าเบื่อเลย อ่านแล้วกระจ่าง


Poetry of Bitch
Yesterday
ชวนอ่านค่ะ วิเคราะห์ดีมาก ยาวแต่ไม่น่าเบื่อเลย อ่านแล้วกระจ่างค่ะ

วิเคราะห์บอลจริงจัง
June 23

ตั้งแต่ผมดูบอลมาทั้งชีวิต ไม่เคยเจอเกมฟุตบอลนัดไหนที่ชุลมุนขนาดนี้ ตั้งแต่การแข่งยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ
บริษัท Fresh Air Festival ผู้จัดอีเวนต์ ทำให้เรื่องที่ควรจะง่าย ซับซ้อนมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนตัวเองต้องมาตามแก้ปัญหาจนเหนื่อย แทนที่จะได้เครดิตในการจัดงานใหญ่ กลับกลายต้องมาเจ็บตัวอย่างแสนสาหัส ทั้งเรื่องรายได้และภาพลักษณ์
ก่อนอื่นเลย ผมยอมรับในความทะเยอทะยานของผู้จัดนะครับ ที่กล้าเอา ลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด มาดวลกันในสนาม ซึ่งยากมากที่อีเวนต์ระดับนี้จะเกิดขึ้น
ในประวัติศาสตร์ของศึกแดงเดือด เคยมีแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ที่ 2 ทีมนี้แข่งกันนอกสหราชอาณาจักร ครั้งแรกคือ วันที่ 4 สิงหาคม 2014 ในศึก ICC นัดชิงชนะเลิศ ที่ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา โดยเกมนั้นเกิดขึ้น เพราะแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์กลุ่ม A ส่วนลิเวอร์พูลเป็นแชมป์กลุ่ม B มันต้องมาเจอกันแบบไฟต์บังคับอยู่แล้ว
ส่วนอีกครั้ง พอจะเรียกได้ว่าเกมกระชับมิตรจริงๆ เกิดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2018 เป็นการปะทะกันที่เมืองแอน อาร์เบอร์ ที่สหรัฐฯ โดยแข่งในสนาม มิชิแกน สเตเดี้ยม ที่มีความจุ 107,601 ที่นั่ง
เกมนัดนั้น ผู้จัดขายตั๋วได้มากกว่า 1 แสนใบ สาเหตุที่ขายได้เยอะขนาดนั้น เพราะราคาเริ่มต้นมันไม่แพง ใบละ 78 ดอลลาร์ก็ยังมี (2,700 บาท) คือเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่สหรัฐฯ แล้ว แม้แต่คนที่มีค่าแรงขั้นต่ำ ทำงานแค่ 1-2 วัน ก็หาซื้อตั๋วเข้าชมได้
พอตั๋วไม่แพงก็ขายตั๋วได้เยอะ และไม่มีความจำเป็นอะไร ต้องหาวิธีอื่นเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามาซื้อบัตร
การแข่งที่มิชิแกนวันนั้น ไม่มีคอนเสิร์ต ไม่มีความบันเทิงอะไรทั้งนั้นก่อนเกม โดยฟุตบอลเตะ 90 นาทีจบ ดูบอลเสร็จแฟนบอลก็กลับบ้าน เรียบง่ายสุดๆ ผู้จัดก็นับเงินจากค่าตั๋วกันไปสบายใจ
คำถามต่อมาที่น่าสนใจคือ ทำไมผู้จัดเกมกระชับมิตรทั่วโลก ไม่คิดจะเอาลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเจอกันเอง?
คำตอบคือ คิดในเชิงธุรกิจแล้ว มันไม่คุ้ม
เอาทีมฟุตบอลระดับโลกมา 1 ทีม ก็เสียค่าใช้จ่ายมหาศาลพออยู่แล้ว แล้วเอามา 2 ทีม ค่าใช้จ่ายก็จะกลายเป็นคูณสอง
ถ้าหากประเทศไทย มีสนามแบบมิชิแกน สเตเดี้ยม ที่จุคนได้ 1 แสนอัพ ก็ว่าไปอย่าง แต่ราชมังฯ ของเรา จุคนได้แค่ 50,000 นั่นแปลว่าวิธีเดียวที่ผู้จัดจะคัฟเวอร์ให้ตัวเองไม่ขาดทุน คือต้องเพิ่มราคาค่าตั๋วให้แพงที่สุด
ตั๋วในแดงเดือดที่ไทย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,000 บาท (แพงกว่าที่มิชิแกนอีก) จากนั้นก็เพิ่มราคาไปเรื่อยๆ จนสูงสุดอยู่ที่ 25,000 บาท นี่เป็นราคาที่เหลือเชื่อมาก สำหรับบัตรดูบอล 1 ใบ
เกมลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ดที่แอนฟิลด์ ขนาดตั๋วแบบ Hospitality มีรถรับส่ง มีอาหารให้กิน 1 มื้อ ที่นั่งในทำเลที่ใช้ได้ ยังอยู่ที่ราคาราวๆ 20,000 บาทเอง แต่ที่ไทยตั้งราคาสูงลิ่วกว่าเสียอีก
เว็บไซต์ this is anfield วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่า "ตั๋วบอลที่ประเทศไทยราคาแพงกว่ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ทั้งๆ ที่ค่าแรงขั้นต่ำของคนไทยอยู่ที่ 226 ปอนด์ต่อเดือนเนี่ยนะ (9,800 บาท) "
ผมเข้าใจในมุมของผู้จัดบริษัท Fresh Air นะ ว่าพวกเขาวัดใจกันไปเลย ถ้าหากลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลที่แล้ว กระแสความต้องการบัตรจะรุนแรงมากแน่ๆ เพราะเจอร์เก้น คล็อปป์และลูกทีมจะได้มาฉลองแชมป์ที่ไทยเป็นที่แรก
แต่การเดิมพันมันก็มีความเสี่ยง เมื่อสุดท้ายลิเวอร์พูลพลาด 2 แชมป์รายการใหญ่ ทำให้บรรยากาศที่ควรจะคึกคัก มันก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง
เมื่อมันไม่คึกคัก ยอดซื้อจากแฟนลิเวอร์พูลในไทยก็เลยขายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก ครั้นฝั่งบริษัท Fresh Air จะหวังแฟนบอลหงส์แดงต่างชาติ บินเข้ามาดูบอลที่ไทยนั้น ก็เจอปัญหาใหม่อีก เมื่อสิงคโปร์ก็ประกาศเกมกระชับมิตร ระหว่างลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2022 หรือถัดจากแดงเดือดในไทยแค่ 3 วันเท่านั้น
และเชื่อหรือไม่ ที่สิงคโปร์ ราคาตั๋วเริ่มต้นแค่ 3,800 บาทเท่านั้น ส่วนตั๋วแพงสุดอยู่ที่ 7,500 บาท
คือด้วยราคานี้แฟนบอลสามารถซื้อ ตั๋วบอล + ตั๋วเครื่องบินไปกลับ + ค่าโรงแรม ได้ในราคารวมถูกกว่าศึกแดงเดือดที่ไทยเสียอีก ดังนั้นถ้าคิดจะดูลิเวอร์พูลสักนัดในทวีปเอเชีย คิดในแง่ความคุ้มค่า บินไปดูที่สิงคโปร์มันตอบโจทย์มากกว่า
เมื่อฐานแฟนบอลลิเวอร์พูล ทั้งไทยและเทศขายไม่ได้ จะไปหวังกับแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยากอีก เพราะผลงานซีซั่นที่ผ่านมาของทีมไม่ค่อยดี จบอันดับ 6 ของตาราง แถมตลาดซื้อขายก็ยังเงียบสุดๆ ไม่เห็นวี่แววว่าจะได้นักเตะใหม่เสียที แฟนปีศาจแดงหลายคนก็ไม่รู้จะเข้ามาดูทำไม
เหลืออีกประมาณ 40 วัน บัตรยังขายไม่ได้ รวมๆ แล้ว ราว 2 หมื่นใบ ซึ่งนับว่าเซอร์ไพรส์ เพราะตอนแรกเชื่อกันว่า จะ Sold Out ทันทีตั้งแต่วันแรกด้วยซ้ำ
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อปัจจัยอื่นมันไม่ส่งเสริม แถมเศรษฐกิจก็ไม่ดี ทำให้เหลือตั๋วมากมายขนาดนี้
สำหรับผู้จัด ถ้าหากตั๋วเหลือขนาดนี้ สิ่งที่จะเสียหายอย่างแรกคือ ขาดทุนเละเทะ ตั๋วเหลือมากถึง 40% คุณจะไปเอากำไรจากไหน
และสิ่งที่เสียหายอย่างที่สองคือ ภาพลักษณ์ของบริษัทผู้จัดอีเวนต์ ขนาดฟุตบอลเกมใหญ่สุดๆ อย่าง ลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด ยังทำให้คนเต็มสนามไม่ได้ แล้วอีเวนต์เล็กกว่านี้คุณจะทำให้บัตร Sold Out ได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อการแข่งใกล้เข้ามาทุกที แต่บัตรยังขายไม่ได้ แล้วจะลดราคาก็ไม่ได้อีก เพราะคนที่ซื้อไปตั้งแต่วันแรกจะด่ายับแน่ ทำให้ผู้จัดต้องแก้สถานการณ์ด้วยการ ใช้กลยุทธ์เอนเตอร์เทนเมนต์
นั่นคือการดึงแจ๊คสัน หวัง ศิลปินคนดังจาก Got7 เข้ามาเล่นโชว์มินิคอนเสิร์ต ก่อนบอลจะเริ่ม 2 ชั่วโมง
แจ๊คสัน หวัง เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีแฟนคลับหนาแน่นมาก เขามีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 28 ล้านคน เวลาไลฟ์อะไรแต่ละที คนเข้ามาดูพร้อมกันหลักแสนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นผู้จัดก็ต้องคาดหวังแน่นอน ว่าจะใช้โชว์ของแจ๊คสันก่อนเกม ในการดึงดูดกลุ่มแฟนคลับให้เข้ามาซื้อตั๋วด้วย
ส่วนตัวผมคิดว่า พวกเขาเริ่มติดกระดุมผิดเม็ดจากตรงนี้ และมันนำมาสู่ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ที่จะตามมาอย่างคาดไม่ถึง
ต้องบอกก่อนว่า ผมชื่นชมความตั้งใจที่จะขายตั๋วให้หมดนะ คุณต้องไฟต์สุดชีวิตเพื่อธุรกิจของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ปัญหาคือ ศึกแดงเดือดเซ็ตอัพสถานที่ทุกอย่างเอาไว้เพื่อการดูบอล ไม่ได้เซ็ตโปรดักชั่นเอาไว้ เพื่อดูคอนเสิร์ต
แฟนๆ ของแจ๊คสัน หวัง ต่อให้รักศิลปินแค่ไหน แต่พวกเขาไม่ได้เฮโลซื้อทุกอย่างแบบไร้สติ พวกเขาฉลาดและมองถึงความสมเหตุสมผลด้วย
ลองไปเทียบราคาบัตรดูเถอะ ถ้าปกติปกติตั๋วคอนเสิร์ตระดับ 2 หมื่น ถ้าอยู่ในอิมแพ็กต์อารีน่า คุณได้ยืนแถวหน้าสุดๆ เลยนะ
ยกตัวอย่างคอนเสิร์ต Blackpink ที่เคยมาไทย บัตรยืนติดเวทีราคา 6,000 บาท หรือ คอนเสิร์ต Billie Eilish ที่จะจัดแสดงวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ขนาดติดเวทีสุดๆ ยังราคาเพียง 10,040 บาท
แล้วกับ "มินิคอนเสิร์ต" ของแจ๊คสัน หวัง กับราคาเฉลี่ยใบละ 20,000 บาท แถมต้องนั่งอยู่บนๆ แบบไกลลิบ (เพราะตั๋วที่นั่งดีๆ ก็ถูกซื้อไปหมดแล้ว) มันจึงไม่สามารถขายได้เยอะรัวๆ แบบที่ผู้จัดหวังไว้อีก
และอย่าลืมว่า ทาง Fresh Air ก็ไปดีลกับ SF Cinema ขายตั๋วชมมินิคอนเสิร์ตแจ๊คสัน หวัง ให้ดูในโรงหนัง ในราคาตั๋วใบละ 900 บาท ซึ่งแฟนคลับหลายๆ คน ก็มองว่าเออ ดูในโรงหนังก็ได้นี่หว่า เห็นก็ชัด นั่งก็สบาย ไม่เห็นต้องจ่ายเงินแพงกว่า 20 เท่าเพื่อไปดูในสนามเลย
ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดด้วยการชูศิลปิน จึงเป็นเพลย์ที่ "เสี่ยง" อีกครั้งของบริษัท Fresh Air คือวัดใจว่าแฟนแจ๊คสัน หวัง จะช่วยซื้อบัตรอีก 2 หมื่นใบที่เหลือหรือไม่ แต่คำตอบคือ ไม่ได้ผล
ในโลกกีฬา เคยมีการเอาศิลปินมาเล่นโชว์ ก่อนแข่งเช่นกัน อย่าง Dua Lipa มาเล่นคอนเสิร์ตก่อนแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงปี 2018 หรือ Camilla Cabello มาเล่นก่อนนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2022
แต่อยากให้สังเกตตรงนี้ว่า ผู้จัดไม่ได้เอาศิลปินมาช่วยขายตั๋ว คือมันเป็นแค่ของแถมเฉยๆ ที่จะสร้างบรรยากาศให้สนุกขึ้น
แต่แนวทางของบริษัท Fresh Air คือเอาแจ๊คสัน หวัง มาเพื่อเป็นตัวชูโรงในการขายตั๋วที่เหลือ คราวนี้มันเลยตีกันมั่วไปหมด กีฬาและบันเทิง
ลำพังแค่การดูแลลิเวอร์พูล กับแมนฯ ยูไนเต็ด สองทีมฟุตบอลระดับโลก ก็ต้องจัดการอย่างสาหัสอยู่แล้ว ยิ่งเอาแจ๊คสัน หวังมารวมอีก 1 คน กลายเป็นว่าผู้จัดต้องรับมือกับทั้งแฟนบอล และแฟนคลับศิลปิน ชุลมุนแบบยากจะอธิบาย
-------------------------
เอาล่ะ กลยุทธ์ใช้ศิลปินมาช่วย ไม่ได้ผลเสียแล้ว ทีนี้ผู้จัดจะทำอย่างไร เพราะนับวันเป๊ะๆ เหลืออีกแค่ 20 วันเท่านั้น ศึกแดงเดือดก็จะเริ่มขึ้น กับตั๋วที่ยังขายไม่ได้มากเกินกว่า 2 หมื่นใบแบบนี้
ลองคิดภาพตาม ถ้าหากในวันแข่งจริง สนามว่างโล่งๆ เป็นหย่อมๆ บริษัท Fresh Air คงโดนทั่วโลกแซะยับแน่ ว่าขนาดเกมลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด แถมมีมินิคอนเสิร์ต แจ๊คสัน หวัง เปิดหัวอีกต่างหาก คุณยังทำให้สนามเต็มไม่ได้เลย
ดังนั้นผู้จัด บริษัท Fresh Air จึงต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายในการเคลียร์ตั๋วให้หมด และกลยุทธ์นั้น มีชื่อว่า ... พิมรี่พาย
คุณจะชอบหรือจะเกลียดพิมรี่พาย นั่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย คือเธอมีทักษะการขายของขั้นเทพจริงๆ
เพจพิมรี่พายขายทุกอย่างของเธอ มีคนฟอลโลว์มากกว่า 8 ล้าน และเวลาไลฟ์สดขายของแต่ละครั้ง มีคนดูเป็นแสนพร้อมกัน คนที่เคยดูไลฟ์คงพอจะรู้ ว่าเธอขายของได้ทุกประเภท โดยไม่เกี่ยงราคา ของราคาหลักแสนเธอก็ขายได้
วันที่ 23 มิถุนายน 2022 พิมรี่พาย ประกาศว่า เธอจะขายตั๋วแดงเดือด จำนวนทั้งหมดสองหมื่นใบ โดยบัตรหน้าตั๋วราคา 15,000 บาท เธอขาย 11,000 บาท ส่วนบัตรราคา 20,000 บาท เธอขาย 15,000 บาท ลดราคากระหน่ำไปดื้อๆ เลย 25%
ก่อนที่ดราม่าจะเริ่ม วินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารของ Fresh Air อธิบายว่า "พิมรี่พายติดต่อขอซื้อบัตรเข้ามาเอง ก็ขายให้ในราคาปกติ ไม่ได้ลดราคา แต่เขาไปจัดกิจกรรมของเขาเอง"
ว่ากันตรงๆ มันเป็นคำอธิบายที่ไม่ Make Sense เพราะถ้าพิมรี่พายซื้อราคาเต็ม เธอต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 350 ล้านบาท แล้วพอเอามาขายลดราคา ถ้าขายหมดเกลี้ยงสองหมื่นใบ เธอจะได้เงินแค่ 260 ล้านบาท ขาดทุนไปเต็มๆ 90 ล้าน
ถามว่าแม่ค้าที่ไหน จะยอมทำธุรกิจที่ขาดทุน 90 ล้านบาทขนาดนั้น การกระทำที่ไม่ก่อรายได้ เธอจะทำไปทำไม ให้เข้าเนื้อตัวเอง
ดังนั้นเราไม่ต้องไปจี้ประเด็นว่า พิมรี่พายเอาบัตรมาจากไหน ไทยทิกเก็ตขายให้คนละ 4 ใบไม่ใช่หรอ? เพราะแค่วิเคราะห์เราก็พอเห็นภาพแล้วล่ะ ว่าทิศทางของเรื่องนี้ บริษัท Fresh Air ก็น่าจะจ้างพิมรี่พายให้ช่วยขายบัตรให้หน่อยนั่นแหละ พิมรี่พายไม่ต้องส่งคนไปต่อแถวซื้อที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์หรอก
คิดดูแล้ว มันก็สมเหตุสมผลดีนะ เอาแม่ค้ามือหนึ่งของวงการ มาช่วยขายบัตรตัวปัญหาซะ ให้มันหมดๆ เสียที จะได้สบายใจกันไป
นี่เป็นกลยุทธ์ที่ไม่เลว เพราะเมื่อบัตรลดราคา คนก็น่าจะยอมควักเงินซื้อง่ายขึ้น แถมกลุ่มคนที่ซื้อราคาเต็มแต่แรก ก็ไม่สามารถด่าว่าบริษัท Fresh Air ได้เต็มปาก เพราะเขาออกตัวแล้วว่าไม่เกี่ยว เป็นพิมรี่พายประกาศลดราคาด้วยตัวเองต่างหาก จะด่าก็ไปด่าพิมรี่พายโน่น
(คิดตามเหตุผลเป็นไปไม่ได้หรอก ที่พิมรี่พายจะยอมควักเนื้อ 90 ล้านบาท เหมาบัตรมาขายขาดทุน แต่ถ้าเธอทำจริงๆ อันนี้ก็ต้องยอมใจ)
ทีนี้ เรามาพูดถึงกลยุทธ์การเลือกใช้พิมรี่พายกันบ้าง ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีของบริษัท Fresh Air หรือไม่?
ถ้ามองในแง่ยอดขาย ก็น่าจะเป็นชอยส์ที่ดี เพราะพิมรี่พายเป็นแม่ค้าที่เก่งมาก เธอมีฐานแฟนคลับของตัวเองหนาแน่น คือยังไงก็น่าจะขายได้เยอะอยู่แล้ว ตั๋วที่ไม่รู้จะปล่อยยังไง จะเคลียร์ทิ้งได้ก็วันนี้แหละ
แต่ถ้ามองในแง่ภาพลักษณ์ การเลือกใช้งานพิมรี่พาย อาจไม่ใช่ชอยส์ที่ดีเท่าไหร่ เพราะเธอไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของแฟนคลับศิลปินเกาหลีเลย
ในระหว่างการไลฟ์สดขายบัตร พิมรี่พายพูดว่า "เดี๊ยน จะเอารายชื่อของเพื่อนที่ซื้อทั้งหมด มาจับสลากไปกินข้าวกับแจ๊คสัน หวัง ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าไปกันกี่คน เขาให้ไปน้อย กูกำลังขอให้ได้เยอะกว่านั้นอยู่ กูยังไม่พูดว่ากี่คน"
"พิมรี่ (นั่งตรงกลาง) เพื่อนรัก (นั่งทางซ้าย) เพื่อนรัก (นั่งทางขวา) ฝั่งตรงข้ามเป็นแจ๊คสัน หวัง นั่งแดกข้าวกัน"
การที่เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ (ถ้าเธอไม่ได้โกหกนะ) แสดงให้เห็นว่า พิมรี่พายต้องมีไปดีลอะไรไว้กับบริษัท Fresh Air ตั้งแต่แรก คือถ้าเธอรับบัตรมาช่วยขาย อาจต้องมีสิทธิพิเศษบางอย่างให้เป็นการแลกเปลี่ยน เช่น ได้พาลูกค้าไปกินข้าวกับแจ๊คสัน หวัง หรือ ไม่ก็ได้สิทธิ์ในการดูรอบซ้อม เป็นต้น
ที่บอกว่าเธอไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของแฟนคลับศิลปินเกาหลีเลย คือพวกเขาต่อต้านเรื่อง Privilege สิทธิพิเศษใดๆ เป็นอย่างมาก
ไม่แปลกเลยที่จะเกิดคำถามมากมาย ว่าทำไมตัวพิมรี่พาย และคนที่ซื้อตั๋วกับพิมรี่พาย ต้องได้สิทธิ์มากกว่าคนที่ซื้อตั๋วปกติแบบ Official ทำไมเธอถึงมีสิทธิ์จะได้ไปกินข้าวร่วมกับศิลปินแบบนั้น
นอกจากนั้นยังฟาดไปถึงผู้จัดด้วยว่า ปกติแล้วศิลปินเวลาไปทัวร์ต่างประเทศ ก็จะร้องเพลงอย่างเต็มที่เพื่อเอ็นเตอร์เทนแฟนๆ ในคอนเสิร์ต มีสมาธิอยู่กับโชว์ที่จะเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้แจ๊คสัน หวัง ต้องสละเวลาไปร่วมกินข้าวกับพิมรี่พาย เพียงเพราะพิมรี่พายช่วยคุณขายตั๋วให้หมดอย่างนั้นหรือ? มันใช่เรื่องที่ศิลปินจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ไหม
เมื่อโดนสังคมรุมด่าอย่างหนักหน่วง ทางบริษัท Fresh Air จึงออกแถลงการณ์ว่า เรื่องนัดกินข้าวตามข่าวนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นการโยนดราม่ากลับไปให้พิมรี่พาย แก้ไขปัญหาเอาเอง
แน่นอนว่าการใช้หมากแม่ค้ามือทองแบบพิมรี่พาย ก็คงเคลียร์ตั๋วไปได้พอสมควร แต่แลกมากับดราม่ามหาศาล ไม่รู้ว่าจะคุ้มไหม
พิมพ์มาถึงบรรทัดนี้ ยังรู้สึกเหนื่อยเลย 55555 มันวุ่นวายแบบสุดๆ กันเลยทีเดียว อะไรจะมีเรื่องกันได้ทุกโมเมนต์ขนาดนั้น
-------------------------
ส่วนตัวผมคิดว่าผู้จัด บริษัท Fresh Air พยายามเต็มที่แล้ว ใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่มี เพื่อขายตั๋วให้ได้ แต่กลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มปัญหาใหม่ให้ต้องแก้ไปเรื่อยๆ
- ตั้งราคาตั๋วแพง กะว่าจะหมดแน่ๆ อุตส่าห์เป็นลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด เลยนะเฟ้ยย แต่หงส์กับผีก็พร้อมใจฟอร์มแผ่วอีก ดีมานด์จึงมีน้อยกว่าที่คาดมาก
- กำลังซื้อต่างชาติก็ไม่มี เพราะสิงคโปร์ดันจัดเกมลิเวอร์พูล ต่อจากไทย 3 วัน แถมราคายังถูกกว่า เช่นเดียวกับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเกมเตะ ที่ออสเตรเลียต่อจากไทย 3 วัน แย่งกำลังซื้อไปอีก
- ลดราคาก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนซื้อตอนแรกก็ด่าเละ
- ใช้แจ๊คสัน หวังมาช่วยก็ไม่ค่อยได้ผล เพราะราคาแพงเกินไปยิ่งกว่าคอนเสิร์ตจริงๆ อีก แถมที่นั่งยังอยู่ไกลลิบ ที่นั่งดีๆ เห็นชัดๆ โดนแย่งซื้อไปหมดแล้ว
- พอมีนักร้องมารวมกับฟุตบอล ทีมงานต้องทำงานดูแล 2 วงการไปพร้อมกัน เป็นภารกิจที่ยากมาก
- สุดท้ายตั๋วขายไม่หมด ก็ต้องพึ่งพาพิมรี่พาย ซึ่งก็ด้วยคาแรคเตอร์ของเธอ ก็ต้องทำใจไว้เลยว่าจะโดนดราม่าแน่
ตอนนี้ยังเหลืออีก 19 วัน กว่าเกมจะแข่งขัน เอาเป็นว่าผมส่งใจช่วยนะ ขอให้ขายตั๋วได้หมด Sold Out สมความตั้งใจ และโชว์ทุกอย่างทั้งแจ๊คสัน หวัง รวมถึงเกมฟุตบอลขอให้เป็นไปอย่างราบรื่น
ภาวนาอย่าให้มีดราม่าอะไรอีกเลย เพราะแค่นี้ แค่นี้ผู้จัด บริษัท Fresh Air ก็ต้องกระอักเลือดแล้ว มีหนักกว่านี้อีกมันคงไม่ไหวแล้วจริงๆ
จากเรื่องทั้งหมดนี้ ถ้าให้ผมสรุปศึกแดงเดือดที่ประเทศไทยครั้งนี้ด้วยคำศัพท์ 1 คำ ผมคิดว่า คำที่เหมาะที่สุดคือ Chaos ที่แปลว่าโกลาหล
เพราะทุกอย่างมันช่างชุลมุนเหลือเกิน และให้พูดตรงๆ เลยนะ นึกไม่ออกจริงๆ ว่ามีเกมฟุตบอลแมตช์ไหนในโลก ที่จะสร้างดราม่ามหาศาลได้ตั้งแต่ก่อนเกมเริ่มขนาดนี้
#CHAOS
.....

Khaosod - ข่าวสด
2h

TEAM WANG บริษัทของ แจ็กสัน หวัง ศิลปินชื่อดัง ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ทางบริษัท ทราบถึงการจำหน่ายตั๋วฝึกซ้อมทางออนไลน์และบัตรดินเนอร์ส่วนตัว แล้ว โดยทางบริษัทไม่ได้อนุมัติการจำหน่ายดังกล่าว และไม่มีบัตรเช่นนั้นจำหน่าย
แถลงการณ์นี้ มีขึ้นหลัง ทีมลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ ไม่ยอมรับในรูปแบบของเนื้อหาในการนำบัตรมาจำหน่ายซ้ำ รวมถึงยืนยันว่าไม่มีการรับประทานอาหารค่ำกับผู้โชคดีแต่อย่างใด ในระหว่างในการแข่งขัน ศึกแดงเดือด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022

.....

MGR SPORT
7h

"พิมรี่พาย" วอน จบเรื่องตั๋วแดงเดือดซะที....
หลังจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อโซเชียลของสโมสรถึงกรณีที่แม่ค้าออนไลน์คนดัง อย่าง "พิมรี่พาย" ไลฟ์สดขายบัตรเข้าชมเกมแดงเดือด ว่าบัตรดังกล่าวไม่ได้มีการร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับนักฟุตบอลแต่อย่างใด
ล่าสุด "พิมรี่พาย" แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ได้ออกมากล่าวผ่านไลฟ์สดของตัวเองเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน อยากให้เรื่องดังกล่าวจบลงแต่เพียงเท่านี้ และก็ยืนยันตามฝ่ายจัดการแข่งขันว่าไม่มีตั๋วกินข้าวใดๆ ทั้งสิ้น
"ยังไม่จบอีกเหรอ จบเถอะ ก็ต้องตามที่ผู้จัดงานเขาออกมาออกข่าว ตามนั้นแหละ ทางสโมสรหรือว่าทางคนขายตั๋วเขาก็ต้องออกมาบอกว่า มันไม่มีตั๋วกินข้าวอยู่แล้ว ก็ถูกแล้ว ก็มันไม่มีตั๋วกินข้าวไง ก็บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าไม่มีตั๋วกินข้าว" พิมรี่พาย กล่าว
ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตั๋วเข้าชมเกม THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 ไม่ได้มีการรับประทานอาหารกับนักฟุตบอล และทีมยังต่อต้านการนำบัตรมารีเซลอีกด้วย
.....
Poetry of Bitch
10h ·

แถลงการณ์จาก 2 สโมสรฟุตบอลค่ะ
** อัปเดตเพิ่มเติม: แถลงการณ์จากบริษัทของแจ็คสัน หวัง และคุณวินิจ ผู้จัดงาน
ลิเวอร์พูล: https://www.facebook.com/188668957957860/posts/2301799353311466/?d=n
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด: https://www.facebook.com/7724542745/posts/10159451307672746/
บริษัทของแจ็คสัน หวัง: https://twitter.com/teamwan.../status/1540757127043567616...
คุณวินิจ ผู้จัดงาน: https://www.instagram.com/p/CfPIdLKPwH_/?igshid=YmMyMTA2M2Y=