วันอังคาร, มิถุนายน 28, 2565

ช่วยกันประจานระบบยุติธรรมของประเทศนี้กันเถอะ "พลพล ทะลุแก็ส" เครียดหนัก #พยายามฆ่าตัวตาย ถูกกล่าวหาจากการเผารถยนต์ตำรวจ เขาเดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจที่ บช.ปส. แต่กลับถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งที่ไม่มีหมายจับเขา ต่อมาศาลก็ยังให้ฝากขัง อีก 2 ใช้ฝากระป๋องกรีดตัวประท้วง


“พลพล ทะลุแก๊ส” พยายามกินยาฆ่าตัวตายในคุก ก่อนถูกส่งล้างท้อง จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

27/06/2565
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

27 มิ.ย. 2565 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดีการเมืองกลุ่มทะลุแก๊สจำนวน 11 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2565 โดยมีสาเหตุมาจากการชุมนุมที่บริเวณดินแดง ในวันที่ 11, 14 และ 15 มิ.ย. 2565

ธีรวิทย์ 1 ใน 11 ผู้ต้องขังทะลุแก๊สเล่าให้ทนายฟังว่า ตนเองอายุมากที่สุดในห้องขัง คือ อายุ 41 ปี จึงอาสาทำหน้าที่คอยดูแลน้องๆ อีก 10 คนที่เหลือ หนึ่งในหน้าที่ของธีรวิทย์คือดูแลกล่องยาสามัญประจำบ้านที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มอบให้ไว้ติดห้องขังเผื่อมีใครเจ็บป่วย โดยเขาจะวางกล่องยานี้ไว้ใกล้ตัวเสมอแม้กระทั่งเวลานอนก็ตาม

ต่อมา ในคืนวันศุกร์ (24 มิ.ย. 2565) ธีรวิทย์คาดว่า พลพลได้แอบมาหยิบ ‘พาราเซตามอล’ (Paracetamol) จำนวนหลายแผงออกไปจากกล่องยาดังกล่าวในขณะที่ทุกคนนอนหลับอยู่และกินเข้าไปจำนวนมากเพื่อหวังจะจบชีวิตในห้องขัง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คาดว่าพลพลน่าจะกินยาพาราเข้าไปมากกว่า 60 เม็ด

เช้าวันต่อมา (25 มิ.ย. 2565) เพื่อนผู้ต้องขังสังเกตว่า พลพลมีอาการอาเจียนตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีอาการมึนงง สับสน หน้าซีด และพูดจาไม่ได้ความ ซึ่งเป็นอาการที่ผิดปกติ เพื่อนอีก 10 คนจึงพากันคาดคั้นความจริงจากเขาว่า อาการอาเจียนมาจากสาเหตุใดกันแน่ และทุกคนพากันตรวจค้นที่นอนของพลพล กระทั่งพบว่า ใต้ผ้าปูนอนของเขามีแผงยาพาราที่ถูกแกะเม็ดยาออกไปแล้วจำนวนหลายสิบแผงด้วยกัน

เขาจึงยอมรับสารภาพว่า “พยายามฆ่าตัวตาย” ด้วยการกินยาพาราเข้าไปหลายสิบเม็ดในกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อนผู้ต้องขังจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับทราบ

ในช่วงเย็นของวันนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงพาตัวพลพลไปล้างท้องที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จากนั้นเพื่อนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ก็ไม่ทราบความคืบหน้าของพลพลอีกเลย แม้วันนี้ทนายจะไปทวงถามคำตอบเกี่ยวกับอาการของพลพลหลังถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า “จนถึงขณะนี้พลพลปลอดภัยดีหรือไม่”


ธีรวิทย์เล่าให้ฟังว่า หลังพลพลถูกขังในคดีนี้เขาคือคนเดียวที่มี ‘อาการเครียดหนักมากที่สุด’ พลพลเคยเล่าให้ธีรวิทย์ฟังว่า วันที่เลือกเข้าแสดงตัวกับตำรวจ ทั้งๆ ที่ไม่มีหมายจับใดๆ เป็นเพราะว่าพลพลมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน แต่ทว่าเขากลับถูกดำเนินคดีและศาลก็อนุญาตให้ฝากขังจนถึงทุกวันนี้

อีกอย่างหนึ่งพลพลเพิ่งอายุได้เพียง 20 ปีเท่านั้น ในสายตาของธีรวิทย์ พลพลคือเยาวชนคนหนึ่ง หลังถูกขัง พลพลชอบพูดในทำนองสิ้นหวัง เสียใจ และพูดบ่อยๆ ว่า “อยากตาย” หลายครั้งเขานิ่งเงียบอยู่ในมุมห้องและร้องไห้คนเดียวด้วย

ด้านเพื่อนผู้ต้องขังทะลุแก๊สคนอื่นๆ ต่างก็มีอาการเครียดไม่แพ้กัน แทบทุกคนกินอาหารได้น้อยลงเพียงวันละ 1 มื้อ หรือบางวันก็ไม่กินเลย มีความกังวล วิตก โดยยังพบว่ามีเพื่อนผู้ต้องขัง 2 ราย คือ พุฒิพงศ์และใบบุญได้กรีดแขนตนเองเพื่อประท้วงที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังพวกเขาทุกคนและมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว โดยพวกเขาใช้ฝาปลากระป๋องกรีดหน้าแขนตัวเองมากกว่า 10 แผล ยาวตั้งแต่บริเวณข้อมือมาจนถึงข้อศอก

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องขังอีก 1 ราย คือ ธีรวิทย์ ทำการอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2565 เพื่อทวงคืนความยุติธรรมเช่นกัน โดยกินแต่น้ำเปล่าและเกลือแร่เท่านั้น ขณะนี้พบว่าเขามีอาการอ่อนแรงมาก หน้าซีด ซูบผอมจากเดิม ขนาดต้องใช้วิธี ‘คลาน’ แทนการเดิน เพราะไม่มีแรงจะเดินได้แล้ว หากจะเดินต้องมีเพื่อนคอยพยุงสองข้างเท่านั้น


สำหรับ “พลพล” ถูกกล่าวหาจากการเผารถยนต์ตำรวจ สน.ดินแดง หลังเหตุการณ์ชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่ หรือ #ม็อบ11มิถุนา65 โดยเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 พลพลเดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

แต่กลับถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับผู้ต้องหา 4 รายแรกในคดีนี้ โดยที่คนอื่นๆ ตำรวจมีการขอศาลออกหมายจับ แต่กรณีของพลพลยังไม่ได้มีการออกหมายจับแต่อย่างใด

ในคืนนั้นพลพลไม่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ เนื่องจากไม่มีหมายจับ ตำรวจจึงไม่มีอำนาจควบคุมตัวไว้ แต่ได้นัดหมายเขาไปยื่นขอฝากขังต่อศาลอาญาในวันรุ่งขึ้น และศาลได้อนุญาตให้ฝากขังมาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2565 จนถึงปัจจุบัน


เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ตร.ดำเนินคดีผู้ชุมนุมทะลุแก๊ส รวม 13 ราย ใน 4 คดี ก่อนไม่ให้ประกันตัว 11 ราย
รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมืองตั้งแต่มีนาคม 2565

.....
ผู้ต้องขังคดีชุมนุมการเมืองพยายามฆ่าตัวตายในคุก

ที่มา ประชาไท

ทนายอานนท์เผยผู้ต้องหากลุ่มทะลุแก๊ส พยายามฆ่าตัวตายอย่างน้อย 2 ราย ล่าสุดศูนย์ทนายฯ ระบุว่าทราบแล้ว 1 ราย เป็นผู้ต้องหาคดีชุมนุมในกิจกรรม “ราษฎรเดินไล่ตู่” เมื่อ 11 มิ.ย.2565 ส่วน "ใบบุญ-พุฒิพงศ์" กรีดแขนและหน้าเพื่อประท้วงที่ศาลไม่ให้ประกัน เพื่อนร่วมคดีระบุพลพลแอบหยิบยาจากกล่องยากลางดึก

27 มิ.ย.2565 อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนโพสต์เฟซบุ๊กแจ้งว่าสมาชิกกลุ่มทะลุแก๊สที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยระบุว่าทราบจากทนายความที่เข้าไปเยี่ยมในเรือนจำขณะเท่าที่ทราบข้อมูลมี 2 กรณี เป็นการกรีดข้อมือ และกินยาพาราเซตามอลไป 60 เม็ด ขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์

จากการสอบถามเพิ่มเติมจากทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชนเบื้องต้นทราบว่า 1ในนั้นคือ พลพล อายุ 20 ปี คดีเผารถตำรวจในการชุมนุมเมื่อ 11 มิ.ย.2565 ที่อยู่ระหว่างฝากขังในชั้นสอบสวน เป็นคนที่ถูกระบุว่าพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพาราเซตามอล 60 เม็ด

อย่างไรก็ตามกรณีของคนที่อานนท์ระบุว่าเป็นการกรีดข้อมือด้วยฝากระป๋องยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใดและมีจำนวนกี่คน

มติชนออนไลน์รายงานทางด้านราชทัณฑ์ว่า อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานผู้ต้องขังรายดังกล่าวได้กินยาพาราเซตามอลไปเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีความเครียด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อรักษา ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว จากนั้นได้ส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยเพื่อลดความเครียดของผู้ต้องขัง

ศูนย์ทนายความฯ รายงานเกี่ยวกับพลพลเพิ่มเติมในรายละเอียดโดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าของ "ธีรวิทย์" เพื่อนผู้ต้องขังคดีเดียวกันว่า เช้าวันที่ 25 มิ.ย.พลพลมีอาการหน้ามืด อาเจียนตลอดวันตั้งแต่เช้าตรู่มึนงง สับสนหน้าซีด และพูดจาจับความไม่ได้ ดูผิดปกติ เพื่อนของเขาคาดคั้นถามและทำการค้นที่นอนจึงพบว่าแผงยาพาราเซตามอลที่ถูกแกะเม็ดยาออกไปจำนวนหลายสิบแผง พลพลจึงยอมรับว่าพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาในช่วงกลางดึก

ช่วงเย็นของวันที่ 25 ทางเจ้าหน้าที่จึงพาตัวพลพลไปล้างท้องที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จากนั้นเพื่อนคนอื่นๆ ก็ไม่ทราบความคืบหน้าอีกเลยและยังไม่ได้รับคำตอบว่าจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าพลพลปลอดภัยดีหรือไม่

ทั้งนี้ธีรวิทย์ยังระบุถึงสาเหตุที่พลพลมียาพาราฯ มากถึง 60 เม็ดไว้ว่า เนื่องจากเขามีหน้าที่ดูแลน้องๆ ที่ร่วมคดีอีก 10 คนที่เหลือจึงมีหน้าที่ดูแลกล่องยาสามัญประจำบ้านที่ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มอบให้ไว้เผื่อกรณีมีคนเจ็บป่วย ซึ่งปกติเขาจะวางไว้ใกล้ตัวแม้กระทั่งเวลานอน

แต่ในคืนวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาก พลพลได้แอบมาหยิบพาราฯ ไปจำนวนหลายแผงในขณะที่ทุกคนนอนหลับอยู่และกินเข้าไปเป็นจำนวนมากเพื่อหวังจะจบชีวิตตัวเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพลพลอาจจะกินมากกว่า 60 เม็ดด้วย

ธีรวิทย์เล่าถึงแรงจูงใจของพลพลด้วยว่าก่อนหน้านี้พลพลก็เป็นคนที่มีอาการเครียดหนักมากที่สุดอยู่แล้ว และพลพลยังเคยเล่าว่าที่ตัวเขาเองไปมอบตัวกับตำรวจทั้งที่ไม่ได้มีหมายจับก็เพราะมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุแน่นอน แต่เขาก็ยังถูกดำเนินคดีและศาลยังอนุญาตให้ฝากขังจนถึงทุกวันนี้

ธีวิทย์เล่าต่อว่าพลพลยังเคยพูดทำนองสิ้นหวังเสียใจ และพูดบ่อยๆ ว่าอยากตายหลายครั้ง เขานิ่งเงียบอยู่ในมุมห้องและร้องไห้คนเดียวด้วย

อีก 2 ใช้ฝากระป๋องกรีดตัวประท้วง

นอกจากเรื่องของพลพลแล้ว ธีรวิทย์ยังเล่าไว้ในรายงานของศูนย์ทนายฯ อีกว่า เพื่อนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ต่างก็มีอาการเครียดไม่แพ้กัน แทบทุกคนกินอาหารน้อยลงเหลือเพียงวันละมื้อ หรือบางวันก็ไม่ได้กินเลย มีอาการวิตกกังวล

ธีรวิทย์ระบว่าผู้ต้องขังอีกสองคนคือพุฒิพงศ์และใบบุญยังใช้ฝาปลากระป๋องกรีดหน้าและแขนของตัวเองมากกว่า 10 แผล เพื่อเป็นการประท้วงที่ศาลมีคำสั่งให้ฝากขังพวกเขาทุกคนและไม่ให้ประกันตัวด้วย

ส่วนตัวธีรวิทย์เองก้อดอาหารประทว้งมาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.2565 โดยกินเพียงน้ำเปล่าและเกลือแร่เท่านั้น ทำให้ขณะนี้ตัวเขาเองอ่อนแรงมาก หน้าซีด ซูบผอม ทำให้ต้องคลานแทนการเดินเพราะไม่มีแรงจะเดินได้แล้ว จนต้องให้เพื่อนช่วยพยุง
.....

อานนท์ นำภา
10h

ข่าวล่าสุดครับ อัพเดท 18.00 น.
อธิบดีราชทัณฑ์ เผย ผู้ต้องขัง กลุ่มทะลุแก๊ซ กินยาพาราเกินขนาด เกิดภาวะเครียด อาการปลอดภัยแล้ว
เมื่อ18.00 น .วันที่ 27 มิถุนายน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวระบุว่าผู้ต้องขังกลุ่ม ทะลุแก๊ซ พยายามทำร้ายตัวเองในเรือนจำว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้รับรายงานผู้ต้องขังรายดังกล่าวได้กินยาพาราเซตามอลไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเครียด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อรักษา ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว จากนั้นได้ส่งนักจิตวิทยาเจ้าไปพูดคุยเพื่อลดความเครียดของผู้ต้องขัง