วันเสาร์, กันยายน 02, 2560

แถลงการณ์ องค์การเพื่อประชาธิปไตยไทย (อปท.) ฉบับที่ 12





ที่มา FB

Jaran Ditapichai


ขอขานรับ 

แถลงการณ์ องค์การเพื่อประชาธิปไตยไทย (อปท.) ฉบับที่ 12

เรียน พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

ความขัดแย้งระหว่าง "ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ" กับ กลุ่มทุนทักษิณ เป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่ที่เด่นชัดที่สุดในรอบสิบกว่าปีมานี้ เพราะเป็นความขัดแย้งในเชิงโครงสร้างของสังคมที่ชนชั้นนายทุนต้องการเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองและวัฒนธรรมให้สอดรับกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนเป็นทุนนิยมแล้ว กล่าวคือ

1. ลดอำนาจเหนือรัฐของ "ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ" ให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ มีสิทธิเสียงเท่าเทียมกับประชาชนคนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐยอมรับไม่ได้ ตรงกันข้ามกลับยิ่งต้องการอำนาจเหนือรัฐเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมทุกส่วน ไม่ว่ารัฐบาล สภาฯ หรือศาล และในภายหลังเพิ่มอำนาจเหนือกองทัพและองค์กรอิสระอีกด้วย

2. สร้างระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตกที่ทำให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ เสียง เสรีภาพเท่าเทียมกัน สามารถเลือกผู้ปกครองที่ดีกว่า สร้างประโยชน์ให้ประเทศและประชาชนมากกว่าได้ 

3. ทำให้ประชาชนมีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างรายได้ด้วยตนเอง จนเริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะชนชั้นรากหญ้าที่เริ่มสัมผัสกับประชาธิปไตยที่กินได้ 

4. พึ่งตนเองได้ระดับหนึ่ง มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีสิทธิมนุษยชนเหมือนประชาชนในอารยะประเทศด้วยสวัสดิการพื้นฐานต่าง ๆ

"ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ" จึงพยายามเหนี่ยวรั้งระบอบการเมืองให้กลับไปเป็นแบบศักดินาเหมือนกับเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ความขัดแย้งนี้จึงเป็นความขัดแย้งที่ไม่อาจประนีประนอมกันได้ และเป็นปรากฏการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นในช่วงปลายยุคศักดินา นำมาสู่การ "ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ" ที่ต่อเนื่องมาสิบกว่าปีและยังไม่จบ กระบวนการนี้ได้ทำลายระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตกลงไปโดยพื้นฐาน และสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใหม่ ขึ้นมาแทนที่ ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560
อนึ่ง พลังฝ่ายประชาธิปไตยได้ถูก "ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ" ทำลายล้างอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่คณะราษฎร์ อดีตนายกฯ ปรีดี พนมยงค์ ขบวนการนิสิตนักศึกษาและประชาชนช่วงปี 2516-2519 นายทหารประชาธิปไตยรุ่น จปร.5 และ 7 บางส่วน จนกระทั่งสิบกว่าปีมานี้ ยิ่งทำลายล้างอย่างหนักหน่วง รุนแรง และกว้างขวาง ไม่ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ พรรคการเมืองต่าง ๆ กลุ่ม นปช. กลุ่มคนเสื้อแดงต่าง ๆ และประชาชนที่ตาสว่าง 

ครั้นเมื่อเปลี่ยนรัชกาลใหม่ การไล่ล่าเพื่อทำลายล้างนี้กลับยิ่งขยายตัว ลุกลามไปถึงวงการศาสนาในกรณีวัดพระธรรมกาย และล่าสุด การหลอกล่ออดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์มาเข้าคุก การจำคุกนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมต.กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช. กระทรวงพาณิชย์กับพวกคนละหลายสิบปี และอีก 4 วันต่อมาก็จำคุกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เหล่านี้ล้วนเป็นกระบวนการไล่ล่าทำลายล้างอย่างต่อเนื่องและย่ามใจของ "ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ"
ความอยุติธรรมที่แพร่กระจายอยู่ทั่วไปในสังคมนี้ ได้สร้างปัญหาถ่วงรั้งความเจริญของประเทศในทุก ๆ ด้านทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม จึงจำเป็นที่จะต้องปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหม่ให้หมดทั้งสิ้น

ประวัติศาสตร์และสถานการณ์ได้พิสูจน์แล้วว่า 

1. กลุ่มพลังประชาธิปไตยไม่ว่าองค์กร กลุ่ม หรือบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือนักบวช ถ้าทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐเห็นว่าเป็นศัตรู จะต้องถูกทำลาย ไม่ตายในคุกก็ต้องหนีไปตายต่างประเทศ และเป้าหมายในการทำลายล้างนี้ไม่ได้เปลี่ยนตามกาลเวลาหรือรัชกาลใด ๆ

2. ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐคือผู้ขัดขวางการพัฒนา ถ่วงความเจริญ และเป็นต้นตอของปัญหาสำคัญทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม จึงเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของประชาชนไทยในปัจจุบัน

3. ประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องสามัคคีกันร่วมกันต่อสู้เพื่อ กำจัดศัตรูของประชาชนออกไป แล้วสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ให้เป็นจริง

4. เพื่อให้การต่อสู้มีพลังยิ่งขึ้น กลุ่มพลังประชาธิปไตยทุกกลุ่ม ทุกองค์กร ตลอดจนบุคคลที่รักประชาธิปไตยทั้งมวล จะต้องรวมตัวกันและสร้าง "องค์กรแนวร่วมเพื่อประชาธิปไตยระดับชาติ" ขึ้นนำการต่อสู้อย่างจริงจัง

5. องค์การเพื่อประชาธิปไตยไทย (อปท.) ยินดีที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มพลังประชาธิปไตยทุกกลุ่ม ทุกองค์กร ตลอดจนบุคคลที่รักประชาธิปไตยทั้งมวล เพื่อต่อสู้กำจัดศัตรูร่วมกันจนถึงที่สุด

องค์การเพื่อประชาธิปไตยไทย (อปท.)
1 กันยายน 2560