วันพุธ, ตุลาคม 25, 2560

โล่งอกไปที รัฐมนตรีมหาดไทยยันแล้ว น้ำท่วมไม่กระทบพระราชพิธีฯ แต่...

โล่งอกไปที รัฐมนตรีมหาดไทยยันแล้ว “สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ จะไม่ส่งผลกระทบต่องานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ...แต่อย่างใด”

อันนี้ทั่นหมายถึง “ในส่วนภูมิภาค” นะ เพราะในกรุงไม่มีทางท่วมอยู่แล้ว แม้นว่าขณะ (เขียน) นี้น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าบ้าน ขึ้นถนน ผ่านอยุธยามาถึงปทุมธานีและเมืองนนท์ จ่อหน้าคุก (บางขวาง) แล้ว

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บอกว่ายังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่อีก ๑๙ จังหวัด แม้นว่าตกบ่าย (๒๔ ต.ค.) สำนักข่าวต่างๆ รายงานพื้นที่กระทบ ๒๑ จังหวัด ซึ่งทั่น รมว. อ้างสาเหตุหลักเกิดจาก “ฝนตกสะสมจำนวนมาก” จึงระบายไม่ทัน หืมมม...

“จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำในเขื่อนเจ้าพระยากรมชลประทาน ๒,๗๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระดับน้ำในเขื่อนไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่ที่อยู่เหนือเขื่อน...

ที่ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนและตามลุ่มน้ำได้รับ”


นั่นละทำให้ข่าวตอนบ่ายรายงานว่า “เกิดภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จนน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชุมชนริมน้ำ หมู่ ๒ ใกล้ท่าน้ำปากเกร็ด” มีความสูง ๔๐-๖๐ ซ.ม. “ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าต้องยกข้าวของหนีน้ำ”


สำหรับที่ปทุมฯ ประชาชนหลายพันครัวเรือนได้ ทน กับภาวะน้ำท่วมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่สามโคกเป้นข่าวให้ฮือฮาว่าขนาดโบสถ์วัดพลับสุทธาวาส น้ำท่วมขึ้นไปถึงครึ่งโบสถ์ พระต้องใช้เรือพายภายในนั้น

แต่ว่า ทั่นหัวหน้าใหญ่ คสช. ได้สั่งความไว้แล้ว “จำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนลงสู่บริเวณเก็บกักน้ำหรือ แก้มลิง อันก่อให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปลอบประชาชนให้ทนๆ กันหน่อย เพราะนี่เป็นความ จำเป็น คนส่วนน้อยต้องเสียสละเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ฟังแล้วตื้นตัน ขี้มูกขี้หมูจะไหล


อันนั้นทั่นคงหมายถึงกรณีกระทบกระแทกระหว่างชาวบ้านกับข้าราชการ และชาวบ้านกับนายทุน เรื่องใครเอาเปรียบใครเห็นแก่ตัว ที่ชาวบ้านน้ำท่วมแถบอยุทธยาอพยพขึ้นไปตั้งเต๊นนอนกันบนถนน นายก อบต.เห็นเข้าโวยวายว่าลุกล้ำที่สาธารณะ เกิดเป็นปากเป็นเสียง นายก อบต. เลยตบชาวบ้านปากกล้าไปฉาดหนึ่ง

ส่วนที่ขอนแก่น พอน้ำพองอ่วมเข้าเมือง เจ้าของบ้านใหญ่เอากระสอบทรายกั้นถนนกันน้ำผ่านหน้าบ้าน แถมใช้เครื่องสูบน้ำออกไปสมทบ น้ำเลยย้อนไปเอ่อตามบ้านที่อยู่ต่ำกว่า ชาวบ้านรายหนึ่งสุดทนถ่ายคลิปฟ้องโลก มีคนรับรู้มากกว่าสองล้านคลิก

แต่ดูเหมือนทางการไม่ทันเห็นเพราะมัวสาละวนกับการชี้แจงเรื่อง ความจำเป็น เขื่อนอุบลรัตน์ต้องปลดถ่ายปริมาณน้ำออกวันละ ๕๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่สามจังหวัดอีสาน ขอนแก่น มหาสารคามและร้อยเอ็ด

ถึงอย่างนั้นชาวบ้านยังพอได้ปลื้มเมื่อผู้ว่าฯ ขอนแก่นแจ้งว่าขณะนี้น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ลดลงไปเหลือ ๓๖ ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิม ๗๐ ล้านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จากนี้จะลดปริมาณการระบายน้ำออกวันละ ๒ ล้านเพื่อรักษาระดับอยู่ที่วันละ ๔๕ ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น


ยังมีเรื่องปลื้มเข้าไปอีก ที่โฆษกรัฐบาล คสช. พลโทห่านอูทั่นออกมายอมรับว่าปริมาณน้ำท่วมปีนี้ไม่ยิ่งหย่อนกว่าปี ๕๔ เพียงแต่รัฐบาลนี้เก่งกว่ารัฐบาลปีนั้น เอาอยู่ (ตามอ้างของอธิบดีชลประทาน)

ฟังจากที่พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงเมื่อบ่ายวานนี้ (๒๔ ต.ค.) ต้องบอกว่าการบริหารจัดการน้ำของ คสช. โคตรเจ๋ง “ยังบริหารพื้นที่ที่เป็นแก้มลิง เพื่อจะเปิดพื้นที่รับน้ำให้มากขึ้น จะได้บริหารไม่ให้น้ำแล้งเวลาฝนไม่ตก”


แค่สงสัยนิดเดียวว่าพื้นที่แก้มลิงเหล่านี้ แต่ละแห่งมีชาวบ้านอยู่อาศัยหลายพันครัวเรือน พอระบายน้ำทีไรก็ต้องเดือดร้อนกันทีนั้นเหรอทั่น


แล้วก็ ตานี้เมื่อวันก่อน (๒๓ ต.ค.) ข่าวรายการ เจาะลึกทั่วไทย ของสปริงนิวส์ แจ้งว่ากรมชลประทานมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ราว ๓๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาฑี

ตัวเลขวันละเท่าไร คูณด้วย ๖๐x๖๐x๒๔ ทั่นอธิบดีกรมชลฯ สมเกียรติ ประจำวงษ์ บอกว่าจะต้องถ่ายน้ำออกในปริมาณนี้เป็นเวลา ๕ วัน แล้วไปท่วมเพิ่มที่อ่างทอง สิงหบุรี และอยุธยา โดยคาดว่าจะถึงกรุงเทพฯ ในตอนดึกคืนวันที่ ๒๖ ตุลาคม


นี่ละทำให้โล่งอก ด้วยมันพ้นวันสำคัญแห่งศักราชไปได้เฉียดฉิว เว้นแต่จะมีฝนตกในกรุงเกินกว่าที่อุตุฯ ทำนายไว้ (แบบว่าพอให้ตั้วพาครอบครัวออกไปยืน #สู้ฝนเพราะรักพ่อสุดหัวใจ น่ะ) ก็จะหวาดเสียวเล็กน้อย


เพราะเมื่อวันก่อนนั่นฝนตกเพิ่มที่อยุธยา น้องน้ำยังพากันมาจ่อรอหน้าคุกบางขวาง ปทุมธานี ตั้งแต่วานนี้นี่เลย