
Pansak Vinyaratn
11 hours ago
·
Musing for an afternoon…
ชนชั้นนำที่แท้จริง ไม่ได้ถูกนิยามด้วยอภิสิทธิ์ ชาติกำเนิด หรืออำนาจ หากแต่ถูกกำหนดด้วยความกล้าหาญในการยืนหยัดต่อหน้าความสะดวกสบายของชนชั้นตนเอง บุคคลเช่นนี้ยอมรับภาระที่เดียวดายที่สุด นั่นคือการพูดความจริงในที่ที่คำสอพลอได้รับรางวัล และความเงียบงันคือความปลอดภัย การเสียสละนี้ไม่ใช่เพียงทางสังคม หากแต่เป็นทางศีลธรรม การท้าทายผู้คนในกลุ่มเดียวกัน คือการยอมเสี่ยงต่อการถูกขับออก การสูญเสียชื่อเสียง และความมั่นคง แต่หากไร้ซึ่งความเสี่ยงนี้ ชนชั้นนำก็จะเสื่อมสภาพกลายเป็นวงปิดของการสรรเสริญซึ่งกันและกัน และภาพลวงตาที่ร่วมกันสร้างขึ้น
ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ความหยิ่งผยองและความไม่รู้ คือยาพิษคู่แฝดของชนชั้นปกครอง เมื่อพวกเขาถูกล้อมรอบด้วยเงาสะท้อนของตนเอง ก็จะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการมองเห็นผลลัพธ์ หลงคิดว่าอำนาจคือปัญญา และชัยชนะคือความถาวร และนี่เองคือจุดที่ชนชั้นนำที่แท้จริงต้องก้าวเข้าไป ไม่ใช่ในฐานะศัตรูจากเบื้องล่าง แต่ในฐานะมโนธรรมจากภายใน การทำลายมนตร์สะกดแห่งความหลงตนเอง คือการมอบโอกาสสุดท้ายให้ชนชั้นของตนได้แก้ไขตนเอง
ในความหมายนี้ การเสียสละตนเองจึงไม่ใช่การทรยศ หากเป็นความภักดีในระดับสูงสุด เป็นความภักดีต่อการอยู่รอด มิใช่ต่อสถานะ ต่อความจริง มิใช่ต่ออภิสิทธิ์ และมีเพียงการยอมแบกรับราคาของความซื่อสัตย์เท่านั้น ที่จะช่วยให้ชนชั้นนำรอดพ้นจากการฆ่าตัวตายอย่างเชื่องช้าภายใต้อำนาจของความเย่อหยิ่งที่ไร้การควบคุม
https://www.facebook.com/pansak.vinyaratn/posts/25610938821836926
·
Musing for an afternoon…
ชนชั้นนำที่แท้จริง ไม่ได้ถูกนิยามด้วยอภิสิทธิ์ ชาติกำเนิด หรืออำนาจ หากแต่ถูกกำหนดด้วยความกล้าหาญในการยืนหยัดต่อหน้าความสะดวกสบายของชนชั้นตนเอง บุคคลเช่นนี้ยอมรับภาระที่เดียวดายที่สุด นั่นคือการพูดความจริงในที่ที่คำสอพลอได้รับรางวัล และความเงียบงันคือความปลอดภัย การเสียสละนี้ไม่ใช่เพียงทางสังคม หากแต่เป็นทางศีลธรรม การท้าทายผู้คนในกลุ่มเดียวกัน คือการยอมเสี่ยงต่อการถูกขับออก การสูญเสียชื่อเสียง และความมั่นคง แต่หากไร้ซึ่งความเสี่ยงนี้ ชนชั้นนำก็จะเสื่อมสภาพกลายเป็นวงปิดของการสรรเสริญซึ่งกันและกัน และภาพลวงตาที่ร่วมกันสร้างขึ้น
ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ความหยิ่งผยองและความไม่รู้ คือยาพิษคู่แฝดของชนชั้นปกครอง เมื่อพวกเขาถูกล้อมรอบด้วยเงาสะท้อนของตนเอง ก็จะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการมองเห็นผลลัพธ์ หลงคิดว่าอำนาจคือปัญญา และชัยชนะคือความถาวร และนี่เองคือจุดที่ชนชั้นนำที่แท้จริงต้องก้าวเข้าไป ไม่ใช่ในฐานะศัตรูจากเบื้องล่าง แต่ในฐานะมโนธรรมจากภายใน การทำลายมนตร์สะกดแห่งความหลงตนเอง คือการมอบโอกาสสุดท้ายให้ชนชั้นของตนได้แก้ไขตนเอง
ในความหมายนี้ การเสียสละตนเองจึงไม่ใช่การทรยศ หากเป็นความภักดีในระดับสูงสุด เป็นความภักดีต่อการอยู่รอด มิใช่ต่อสถานะ ต่อความจริง มิใช่ต่ออภิสิทธิ์ และมีเพียงการยอมแบกรับราคาของความซื่อสัตย์เท่านั้น ที่จะช่วยให้ชนชั้นนำรอดพ้นจากการฆ่าตัวตายอย่างเชื่องช้าภายใต้อำนาจของความเย่อหยิ่งที่ไร้การควบคุม
https://www.facebook.com/pansak.vinyaratn/posts/25610938821836926