วันจันทร์, กันยายน 01, 2568

ข้อเสนอของ iLaw ถึง 3 พรรคการเมือง - ปชน. พท. ภท. - ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีพรรคไหน รวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้


iLaw
10 hours ago
·
คำชี้แจงและข้อเสนอต่อสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่

จากสถานการณ์ที่สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และต้องจัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีใครรวมเสียงข้างมากได้ชัดเจน และพรรคประชาชนกำลังเสนอที่จะลงคะแนนให้กับนายกรัฐมนตรีที่จะยุบสภาภายใน 4 เดือน เดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญใหม่โดยการทำประชามติไม่ช้ากว่าการเลือกตั้ง และจะไม่ร่วมรัฐบาล

ไอลอว์ในฐานะที่ติดตามและร่วมผลักดันกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชนมาตลอด ขอชี้แจงต่อเงื่อนไขในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีข้อเสนอถึงพรรคการเมืองต่างๆ ที่กำลังเป็นผู้เล่นสำคัญ ดังนี้

---------------------------
ข้อเสนอถึงพรรคประชาชน

ขอชื่นชมพรรคประชาชนกับข้อเสนอ “ผ่าทางตัน” เนื่องจากในสถานการณ์ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยควบคุมเสียงสส. ส่วนใหญ่ไม่ได้แล้ว จึงไม่สามารถเสนอชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ และอนุทิน ชาญวีรกูล ก็เสนอตัวแข่ง แต่ทั้งสองฝ่ายไม่มีเสียงสส. สนับสนุนเกินครึ่งหนึ่งของสภา ทำให้ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทั้งคู่ หากพรรคประชาชนไม่ลงมติเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจะเกิดทางตันที่หานายกรัฐมนตรีคนใหม่ และตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ พรรคประชาชนจึงจำเป็นต้องเลือกลงมติให้ใครคนใดคนหนึ่งที่เคยเป็นคู่ตรงข้ามทางการเมืองกันมาก่อน

การเสนอที่จะออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี โดยไม่ร่วมรัฐบาลและไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นข้อเสนอใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาชนมีความตั้งใจที่จะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางออกโดยไม่แสวงหาอำนาจหรือผลประโยชน์ใด โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกพรรคการเมืองและประชาชนในระยะยาวมากกว่าคำถามที่ว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้
.
.
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอของพรรคประชาชนเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังขาดรายละเอียดที่ชัดเจน และยังมีข้อบกพร่อง เนื่องจากกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะต้องทำประชามติกี่ครั้ง และจะต้องเดินไปภายใต้เงื่อนไขใดบ้าง ซึ่งการวินิจฉัยอยู่ในมือของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีนัดหมายลงมติเรื่องนี้ในวันที่ 10 กันยายน 2568 หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำประชามติสองครั้งก็เพียงพอ รัฐสภาในวันนี้ก็สามารถพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 สองฉบับที่ค้างอยู่ได้เลย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ชี้ชัดได้ว่า พรรคการเมืองใดพร้อมจะเดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญใหม่จริงหรือไม่ และควรใช้กระบวนการนี้ชี้วัดว่า ควรเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการทำประชามติครั้งแรกพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

ดังนั้น พรรคประชาชนไม่ควรรีบลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ควรรอให้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 กันยายน 2568 ก่อนว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตีกรอบกำหนดเงื่อนไขในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไร หากจำเป็นต้องทำประชามติ “ก่อน” กระบวนการอื่น พรรคประชาชนก็ต้องทำความตกลงกับพรรคการเมืองอื่นถึงกระบวนการจัดทำประชามติ วางกรอบเวลาให้ชัดเจน โดยตกลงให้ชัดเจนว่า การทำประชามติต้องไม่สร้างคำถามที่ซับซ้อนไปด้วยเงื่อนไขที่จะทำให้การออกเสียงไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน และผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด รายละเอียดเหล่านี้ต้องปรากฏต่อสาธารณะจนเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจได้ก่อนที่จะลงมติเพื่อเลือกบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

---------------------------
ข้อเสนอถึงพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยไม่ควรมีท่าทีลังเลใดๆ ต่อข้อเสนอ “ผ่าทางตัน” ของพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทยควรแสดงความจริงจังและจริงใจว่า พร้อมยอมรับข้อเสนอทันที เนื่องจากการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยนั้นเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 2566 และเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยมาตลอด แต่พรรคเพื่อไทยก็ล้มเหลวในการดำเนินการมาตลอด

ข้อเสนอเรื่องการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้เป็นการชั่วคราวนั้น โดยเนื้อหาแล้วเป็นเรื่องที่สมควรเห็นด้วย แต่ในทางปฏิบัติในทางกระบวนการแล้วเป็นไปแทบไม่ได้
.
.
เพราะไม่มีช่องทางตามกฎหมายที่จะนำรัฐธรรมนูญที่ถูกยกเลิกไปแล้วกลับมาใช้งานได้ทันที แต่ขั้นตอนตามกฎหมายก็คือ ต้องเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 “ทุกมาตรา” เพื่อให้มีเนื้อหาในแต่ละมาตราเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2540 และยังต้องแก้ไขรายละเอียดในบทเฉพาะกาล เรื่องเงื่อนเวลาต่างๆ ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ซึ่งกระบวนการนี้ต้องนำเสนอร่างต่อรัฐสภา ต้องได้รับความเห็นชอบจากสว. อย่างน้อย 1 ใน 3 และยังต้องผ่านการทำประชามติตามที่มาตรา 256 ( บังคับไว้ การนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้เป็นการชั่วคราว จึงเป็นข้อเสนอที่จะทำให้เสียเวลาไปอีกมาก

พรรคเพื่อไทยควรยกเลิกข้อเสนอเรื่องการเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ รับข้อเสนอของพรรคประชาชนทั้งหมดพร้อมแสดงความจริงใจและจริงจังว่าต้องการหาทางออกจากทางตัน ไม่ได้ต้องการแสวงอำนาจทางการเมืองอีกต่อไป พร้อมที่จะยุบสภาโดยเร็วที่สุดและไม่ต้องการอยู่ยาว
.
.
พรรคเพื่อไทยยังต้องยอมรับและขอโทษประชาชนต่อความล้มเหลวในนโยบายการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทยควรประกาศว่า หากต้องมีการทำประชามติก็จะใช้คำถามการทำประชามติที่เปิดกว้าง ไม่ซ้อนสองคำถามในการทำประชามติครั้งเดียว หรือใช้คำถามที่ประชาชนเคยเข้าชื่อกว่า 211,905 เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีของเพื่อไทยในกิจกรรม #conforall เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความจริงใจที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนให้สำเร็จ และเพื่อขึ้นเป็นรัฐบาลต่อในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อแก้ไขความผิดพลาดในกระบวนการประชาธิปไตยของตัวเองก่อนหน้านี้

หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้เช่นนี้ หรือในระดับที่ใกล้เคียงกัน ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่า การลงมติเลือกชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะสามารถเดินหน้าไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริง
---------------------------
ข้อเสนอถึงพรรคภูมิใจไทย

ขอชื่นชมแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ฉบับลงวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่พร้อมยอมรับข้อเสนอ “ผ่าทางตัน” ของพรรคประชาชนทุกข้อ แต่อย่างไรก็ดีการที่พรรคภูมิใจไทยแถลงรับข้อเสนอเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ขัดต่อการกระทำของพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง ตัวอย่างเช่น
.
.
๐ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 พรรคภูมิใจไทยลงมติ “ไม่รับ” ร่างข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เสนอโดยการเข้าชื่อของประชาชน 100,732 คน

๐ วันที่ 17 มีนาคม 2564 พรรคภูมิใจไทยลงมติ ไม่เห็นด้วยกับร่างข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฉบับที่ผ่านการพิจารณาในวาระสองของรัฐสภามาแล้ว

๐ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 สส. ของพรรคภูมิใจไทย “วอล์คเอ้าท์” ประกาศไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม และไม่ขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายข้อเสนอเพื่อการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งสองฉบับ

๐ วันที่ 17 มีนาคม 2568 สส. ของพรรคภูมิใจไทยก็ร่วมลงมติเพื่อส่งเรื่องไปถามศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจำนวนครั้งของการทำประชามติ ซึ่งเป็นการส่งไปถามศาลรัฐธรรมนูญเป็นรอบที่สาม จึงเป็นเพียงการถ่วงเวลาให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเสียที
.
.
นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยยังมีพฤติกรรมแสดงออกเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ ตัวอย่างเช่น อนุทิน ชาญวีรกูล เคยโพสต์ภาพถ่ายร่วมเดินทางกับรองประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาของอนุทินในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในภาพเป็นที่รองประธานสว. กำลังพายเรือให้อนุทินนั่ง และหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยยังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า รวมกันโกงการเลือกสว. จนได้มาซึ่งสว. อย่างน้อย 138 คน ซึ่งสว. ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันเหล่านี้เองประกาศในทางสาธารณะว่า ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่ต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยควรยอมรับและขอโทษต่อการลงมติที่ขัดขวางกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพื่อพิสูจน์ความจริงใจว่า ในวันนี้พร้อมยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนและจะเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริง พรรคภูมิใจไทยยังต้องประกาศยอมรับเงื่อนไขที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบคดีการโกงเลือกสว. โดยประกาศว่า จะไม่แต่งตั้งคนที่เกี่ยวข้องไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และพร้อมใช้สิทธิของผู้ถูกกล่าวหาส่งหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งให้รีบสรุปสำนวนและมีคำวินิจฉัยโดยเร็ว
.
.
พรรคภูมิใจไทยควรจะประกาศชัดเจนต่อสาธารณะเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ใช้อำนาจพิเศษขัดขวางกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ให้ลงมติเห็นชอบในกระบวนการแก้ไขมาตรา 256 ตามร่างฉบับที่มีอยู่ และ เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาเลื่อนการลงมติเลือกกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ไปก่อน จนกว่ากรรมการการเลือกตั้งชุดเดิมจะมีคำวินิจฉัยในคดีที่สมาชิกวุฒิสภากำลังถูกกล่าวหาเสร็จสิ้น

หากพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้เช่นนี้ หรือในระดับที่ใกล้เคียงกัน ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่า การลงมติเลือกอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะสามารถเดินหน้าไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริง

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1188991379941146&set=a.625664036273886