วันเสาร์, กันยายน 27, 2568

ความเมตตาแบบเลือกปฏิบัติ : ผู้ใหญ่ประเทศนี้ใจแคบเหลือเกิน พวกตัวเองให้ได้หมด คดี 112 110 ยกเว้น


iLaw
19 hours ago
·
25 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 17:10 น. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข สภาผู้แทนราษฎร (กมธ. วิสามัญนิรโทษกรรม) พิจารณาพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุขที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมทางการเมืองสามฉบับคือ ร่างหลักฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่างฉบับพรรคครูไทยเพื่อประชาชนและร่างฉบับพรรคภูมิใจไทยในวาระ 2 ชั้นกรรมธิการเสร็จสิ้น หลังจากนัดประชุมครั้งแรกวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมีการประชุมทั้งหมด 9 ครั้ง ประเด็นหลักที่กมธ. วิสามัญนิรโทษกรรมพิจารณาแก้ไข มีดังนี้
:
กรอบเวลาของการนิรโทษกรรม

ร่างกฎหมายปรับแก้ระยะเวลาการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหรือแสดงออกอันมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งหรือแรงจูงใจทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ที่มาของวันที่เริ่มต้นมาจากช่วงเวลาความขัดแย้งทางการเมืองก่อนหน้าการรัฐประหาร 2549 และวันสุดท้ายคือวันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ
:
นิรโทษกรรมยกเว้นคดีมาตรา 110 และมาตรา 112

ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 กรรมาธิการมีการถกเถียงกันเรื่องบัญชีท้ายที่จะระบุฐานความผิด ซึ่งจะได้รับการนิรโทษกรรม มีข้อเสนอทำนองว่า ให้ตัดบัญชีท้ายออกเนื่องจากเกรงว่าจะมีฐานความผิดที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้ของกรรมาธิการและไม่ได้ถูกบรรจุเข้าไปอันจะเป็นผลให้คดีเหล่านั้นไม่ได้รับการนิรโทษกรรม อย่างไรก็ตามที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้คงบัญชีท้ายเอาไว้ และในนัดวันที่ 25 กันยายน 2568 กรรมาธิการได้เพิ่มฐานความผิดจากเดิม 12 ฐานความผิดเป็นประมาณ 25 ฐานความผิด โดยยกเว้นความผิดฐานประทุษร้ายพระราชินีตามมาตรา 110 และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 112
:
สำหรับฐานความผิดใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เช่น ความผิดเกี่ยวกับศาสนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 และมาตรา 208 ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 และ 329 ​และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

นอกจากนี้ในประเด็นความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร่างกฎหมายเดิมระบุในบัญชีแนบท้ายว่า “ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ. 2561 ...ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ. 2561” ซึ่งมีข้อห่วงกังวลว่า จะเป็นการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้โกงการเลือกสว. และยังมีปัญหาเรื่องการใช้ถ้อยคำตามกฎหมายเนื่องจากกฎหมายการได้มาซึ่งสส.และสว. ตรารวมกันเป็นฉบับเดียวในปี 2550 และมีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็นฉบับที่ 2 ในปี 2554 ก่อนที่จะมีการออกกฎหมายใหม่ในปี 2561 โดยแยกเป็นพ.ร.ป.สส.และสว.คนละฉบับ
:
ในประเด็นนี้ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข กรรมาธิการท้วงติงและขอให้ใส่ในบัญชีแนบท้ายไว้เฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในปี 2554 เท่านั้น ไม่รวมกฎหมายฉบับใหม่ในปี 2561 ที่ออกตามรัฐธรรมนูญ 2560 เนื่องจากตามกฎหมายใหม่ไม่มีคดีที่เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง ขณะที่ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษาเสนอถ้อยคำกำกับว่า “เฉพาะที่ไม่เกี่ยวพันกับการเลือกตั้งโดยทุจริต การเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและคุณสมบัติอันเป็นเท็จ”

ที่ประชุมมีท่าทีเห็นชอบ อย่างไรก็ตามนิกร จำนง กรรมาธิการ มองว่า บัญชีท้ายในส่วนกฎหมายดังกล่าวจะต้องครอบคลุมกฎหมายทุกฉบับที่อยู่ในช่วงเวลาของการนิรโทษกรรม ซึ่งประเด็นนี้จะต้องรอให้ผู้แทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขาตรวจสอบกฎหมายฉบับหลักและฉบับแก้ไขทั้งหมด ปรับถ้อยคำเพิ่มเติม และสรุปเป็นขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง
:
เปิดช่องนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ของเยาวชน

การนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ของเยาวชนประกอบไปด้วย 2 ข้อเสนอคือ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรรมาธิการ เสนอให้แก้ไขในมาตรา 3 แต่ที่ประชุมไม่เห็นชอบ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานกรรมาธิการเสนอให้เพิ่มมาตรา 9/1 โดยปรับจากบทบัญญัติมาตรา 90 และ 132 ของพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบความว่า

“บรรดาการกระทำตามมาตรา 6 ที่ไม่ได้รับการนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้กระทำความผิดซึ่งอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในขณะกระทำความผิดร้องขอ และคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุขเห็นเป็นการสมควรเพื่อสร้างสังคมสันติสุข ให้จัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิด แล้วเสนอแผนพร้อมความเห็นไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาใช้มาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญา หรือให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ขอให้ใช้มาตรการสั่งยุติคดีโดยไม่ต้องมีคำพิพากษา ตามกฎหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวและให้ศาลมีอำนาจรับฟังความเห็นของคณะกรรมการประกอบการพิจารณาสั่งใช้มาตรการดังกล่าวไม่ว่าคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นใด”

อ่าน : https://www.ilaw.or.th/articles/55039
:
นิรโทษกรรมทางแพ่ง

ในการประชุมวันที่ 11 และ 18 กันยายน 2568 เกิดข้อถกเถียงเรื่องการนิรโทษกรรมทางแพ่ง ประเด็นสำคัญคือ กรณีที่ผู้ได้รับการนิรโทษกรรมทางแพ่งแล้วเคยจ่ายค่าเสียหายทางแพ่งแก่หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจไปแล้วจะต้องคืนเงินหรือไม่ ทำให้มีการเชิญผู้แทนหน่วยงานที่ฟ้องร้องคดีแพ่งอย่างการท่าอากาศยานไทยและการบินไทยมาให้ข้อมูล โดยคดีที่มีการยึดทรัพย์เพื่อชำระค่าเสียหายทางแพ่งเป็นคดีการปิดสนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งยึดมาได้ประมาณ 5 ล้านบาทจากค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยประมาณ 1,000 ล้านบาท กรรมาธิการถกเถียงเรื่องความรู้สึกไม่เป็นธรรมเมื่อเทียบเคียงกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมฝ่ายอื่นต้องเผชิญและขอให้นิรโทษกรรมทางแพ่ง แต่ไม่คืนเงินค่าเสียหายที่เคยจ่ายไปแล้ว
:
ท้ายที่สุดกรรมาธิการเห็นชอบว่า ให้นิรโทษกรรมทางแพ่งแต่ไม่คืนค่าเสียหาย ข้อความว่า “มาตรา 8 ในกรณีที่การกระทำความผิดตามมาตรา 6 ก่อให้เกิดความเสียหายทางแพ่งแก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ให้การดำเนินคดีทางแพ่งโดยหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นอันยุติลง และมิให้หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้นฟ้องร้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าว

กรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ใดชำระค่าเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจใด ให้การชดใช้ค่าเสียหายหรือการบังคับคดีให้หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเป็นอันยุติลง ทั้งนี้ไม่กระทบต่อการชำระหนี้หรือการบังคับคดีที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว”

อ่าน : https://www.ilaw.or.th/articles/55090
:
หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาที่ประชุมวางแนวทางการยื่นร่างแก้ไขในวาระ 2 ต่อประธานรัฐสภาในสัปดาห์หน้า (ไม่เกิน 3 ตุลาคม 2568) เพื่อให้ทันการพิจารณาวาระ 3 ในสมัยประชุมนี้

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1210389357801348&set=a.625664036273886

Puangthong Pawakapan 
19 hours ago
·
จาก ทนายเมย์:
ผู้ใหญ่ประเทศนี้ใจแคบเหลือเกิน พวกตัวเองให้ได้หมด แต่เด็กยาวชน ที่ตามกฎหมายวิธีพิจารณาเยาวชนมีมาตรการอยู่แล้ว นี่บังคับอีกว่าถ้่าจะนิรโทษกรรมต้องผ่านมาตรการพิเศษอีก คือเยาวชนที่ปฏิเสธการเข้ามาตรการในวิเยาวชนเขาจะยังจะอยากเข้ามาตรการเพื่อนิรโทษจริงเหรอ
.
เขียนกฎหมายเพื่อให้ได้เขียนและอ้างว่าไม่ได้ทอดทิ้งเยาวชน แต่คาดหวังให้มีคนได้ประโยชน์จริงมั้ยก็ไม่รู้ ได้ถามเด็กและเยาวชนมั้ยว่าเอาหรือเปล่ท
.
แสดงความเมตตาแบบเลือกปฏิบัติ และก็จะบอกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว โถ