วันพุธ, ตุลาคม 02, 2567

พอเกิดข่าวรถบัสไฟไหม้ขึ้นมา การที่สังคมเกิดการกลัวให้เด็กๆ ขึ้นรถแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่การที่แก้ปัญหาด้วยการให้ยกเลิกการทัศนศึกษาหรือยกเลิกเดินทางด้วยรถบัสเสียหมด มันก็เป็นการแก้ที่ปลายสุดของเหตุการณ์จนเกินไป เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดมันเกิดขึ้นจากหลายประการด้วยกัน


I’m from Andromeda
14 hours ago
·
พอเกิดข่าวรถบัสไฟไหม้ขึ้นมา การที่สังคมเกิดการกลัวให้เด็กๆ ขึ้นรถแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่การที่แก้ปัญหาด้วยการให้ยกเลิกการทัศนศึกษาหรือยกเลิกเดินทางด้วยรถบัสเสียหมด มันก็เป็นการแก้ที่ปลายสุดของเหตุการณ์จนเกินไป เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดมันเกิดขึ้นจากหลายประการด้วยกัน
อย่างที่สำคัญที่สุดที่เราเพิกเฉยกันมานาน คือการบังคับใช้กฎหมายกับการตรวจสภาพรถนั้นอ่อนมาก โดยเฉพาะรถบรรทุกและรถโดยสาร อุปกรณ์ฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ประตูทางออก แทบจะไม่มีการตรวจจริงจัง
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องที่ไม่เคร่งครัดพอ หรือบุคลากรที่มีเทียบกับจำนวนรถที่มีไม่มากพอ มันก็ทำให้เราเห็นสภาพรถที่ไม่ควรออกมาวิ่งได้ กลับออกถนนมาสร้างความอันตรายให้กับพวกเราอยู่ตลอด
อย่างที่สองคือการให้เด็ก ครู และคนขับ ได้ฝึกซ้อมอพยพจากรถ ที่สหรัฐอเมริกาออกกฎหมายว่าแต่ละโรงเรียนจำเป็นต้องให้เด็กนักเรียน ครู และคนขับ ทำการฝึกอพยพออกจากรถบัสอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ตามช่วงเวลาตามแต่กฎหมายแต่ละรัฐกำหนด พวกเขามองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอย่างไม่คาดคิด
การฝึกจะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจและคุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์ เช่น ประตูทางออกฉุกเฉิน และเครื่องดับเพลิง เข้าใจบทบาทของคนขับและครูเวลาเกิดเหตุ รู้วิธีการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด และรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถไม่สามารถออกคำสั่งได้อีกต่อไป ซึ่งช่วยให้การอพยพเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
สุดท้ายคือการที่โรงเรียนให้เด็กนั่งรถไปทัศนศึกษา ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ก็ไม่ควรไป ถ้าอัตราส่วนเด็กเล็กต่อผู้ดูแลไม่ทั่วถึงพอ ถ้ารถที่ได้มาไม่มีความปลอดภัย ถ้าคนขับไม่รู้หน้าที่ตัวเองว่าจะต้องช่วยเด็กด้วยเวลาเกิดเหตุ ถ้าไม่มีการสอนเด็กๆ ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นต้องทำอย่างไร ก็ไม่ควรพาเด็กออกไปไหน เพราะผลที่มันเกิดนั้นทำให้พ่อแม่ใจสลายหลายพันเท่า
การซ้อมอพยพและรถที่มีระบบอพยพฉุกเฉินที่มีคุณภาพมันช่วยได้อย่างไร?
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่เดอแรม รัฐนอร์ทแคโรไลนา รถบัสบรรทุกนักเรียน 28 คนเกิดไฟไหม้ขณะเดินทาง คนขับสังเกตเห็นควัน เขาจึงรีบแจ้งนักเรียน นำรถจอดในที่โล่งแจ้ง นำนักเรียนออกตามที่ฝึกตามแต่ละประตู จนสามารถอพยพนักเรียนทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อนที่ไฟจะลุกลามจนเผารถบัสหมด และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
อีกที่คือฟอร์ท ฮอลล์ รัฐไอดาโฮ เดือนเมษายน 2024 รถบัสโรงเรียนชอชอน-แบนโนค ไฮสคูล ที่มีนักเรียนบนรถกว่า 30 เกิดไฟไหม้ขณะเดินทางกลับโรงเรียน แต่คนขับและครูสามารถร่วมมือกันช่วยอพยพทุกคนออกมาได้ทันก่อนที่ไฟจะลุกลาม
สองเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการฝึกอพยพฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากไม่มีการซ้อมและมีระบบความปลอดภัยที่สำคัญ เราไม่อาจตอบได้เลยว่าจะมีผู้รอดชีวิตกี่คนจากเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างมานี้
สุดท้าย ไม่ว่าเราจะห้ามเด็กๆ จากการเดินทางอย่างไร หากยังไม่มีการแก้ไขกฎหมาย การตรวจสอบความปลอดภัยของรถ การฝึกอบรมคนขับ หรือการเตรียมความพร้อมจากตัวโรงเรียน ปัญหาก็ยังคงอยู่ เหมือนกับมีดคมที่พร้อมจะบาดใครสักคน หากเราไม่เริ่มต้นแก้ไขและป้องกันตั้งแต่วันนี้ อันตรายที่เรามองเห็นแต่ยังเพิกเฉยก็จะเกิดขึ้นกับใครบางคนในที่สุด