คะแนนห่างกันเกือบ ๗ พัน ทุกสื่อสายหลักบอกว่าเพื่อไทยชนะขาดลอย ทว่าจำนวนผู้มีสิทธิแต่ไม่ไปลงคะแนนก็พอๆ กัน ประมาณ ๗ พัน ขณะที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ๕๔ เปอร์เซนต์กว่าๆ จะแพ้มากแพ้น้อยพวกพรรคประชาชนพูดแต่ว่า “เดินหน้าต่อ”
จะมีก็แต่บางวลี บางประโยคที่ ‘พิธา’ เคยพูด แล้ว ‘โฟล์ค’ ณัฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ตัวผู้สมัครเองเอามาพูดอีกทำนองว่า “ชนะไม่ใช่ทุกอย่าง แพ้ก็ไม่ใช่จุดจบ” และ ‘ไอติม’ พริษฐ์ วัชรสินธุ สรุปรวบยอดว่าจะอย่างไรก็ “ไม่ใช่เวลาของการท้อหรือเสียใจ”
คนอื่นๆ ของพรรคพูดทำนองเดียวกับเขา “การแพ้-ชนะเป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย พรรคประชาชนยังพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป โดยเฉพาะเรื่องปัญหาน้ำท่วม และการใช้กลไกสภาผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์”
โดยเฉพาะเลขาธิการพรรค ‘ติ่ง’ ศรายุทธิ์ ใจหลัก ตัวจักรของการขับเคลื่อนต่อไป บอกว่า “เราตระหนักดีว่าการสร้างความเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ก้าวต่อไปคือการสร้างพรรค” แม้แต่ผู้ช่วยหาเสียงอย่าง ‘เจี๊ยบ’ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ยังว่า
เธอขอบคุณผู้สนับสนุนและว่า “อย่าเสียขวัญ เพราะชนะก็ไม่ตลอดเวลา แพ้ก็ไม่ตลอดไป” เรียกว่าทำใจกันมาไว้แล้วจากเสียงวิจารณ์ที่ว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้พรรคประชาชนโดน ๕ รุม ๑ จากพรรคฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งของกลุ่มอำมาตย์เดิม
เห็นได้ชัดจาก มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งซ้ำตำแหน่งเดิมมาหมาดๆ ออกตัวเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับ จเด็ศ จันทรา ของพรรคเพื่อไทยอย่างโจ่งแจ้ง หรือจากรายงานข่าวไทยรัฐทีวี ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์
ในการสัมภาษณ์ผู้สังเกตุการณ์รายหนึ่งที่ไปเฝ้าดูการนับคะแนน ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคักกว่าการเลือกตั้ง อบจ.ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ เมื่อกลางเดือนสิงหาคมไหม ประชาชนรายนั้นตอบว่า “ก็คึกคักกว่า เพราะว่า...ได้พันกว่า”
(https://x.com/Sun_Paisan/status/1835264013447667948, https://x.com/AmaratJeab/status/1835319083623129272 และ https://x.com/trendforMFP/status/1835299179490623817)
