Sunai @sunaibkk
·21h
จะจับกี่โมง? ทำไมไม่จับ? เหลืออีก 30 วันจะหมดอายุความคดี #ตากใบ (25 ต.ค.) แต่ยังไม่สามารถติดตามตัว 14 จำเลยที่ถูกสั่งฟ้องใน 2 สำนวนมาขึ้นศาล ซึ่งรวมถึง #พลเอกพิศาล (ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันในฐานะ สส.) … จะปล่อยให้ลอยนวลพ้นผิดเหรอ?
.....
Noi Thamsathien
4 hours ago
·
เงียบๆแบบนี้เลยทำให้ต้องเดาว่าคดีตากใบจะไปทางไหน
คือตอนนี้คดีตากใบมีสองคดี คดีแรกกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายฟ้องเอง ฟ้องจนท. คดีที่สอง อัยการสูงสุดเพิ่งแจ้งไปทางสนง.ตร.แห่งชาติให้ทำสำนวนฟ้องเอง และให้ทำให้ทันภายในยี่สิบห้าตุลานี้
คือยี่สิบห้าตุลาเป็นวันดีเดย์ อายุความคดีอาญาจะครบยี่สิบปี เลยวันที่ว่านี้คือขาดอายุ สำหรับคดีที่สอง ถ้าทำไม่ทันก็สรุปว่าหมดอายุความ ก็ไม่เป็นคดี ทีนี้เรียกคดีไว้ก่อนเพราะเชื่อใจว่าตร.จะทำทัน
ถ้าไม่ทัน ผลสะเทือนของมันก็อยู่ที่ความน่าเชื่อถือของกลไกความยุติธรรม รวมไปถึงรัฐบาลว่าสนใจอำนวยความยุติธรรมเพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้แค่ไหนหรือไม่
แต่คดีแรกที่ชาวบ้านฟ้องเอง มันมีประเด็นว่าจำเลยหายคือไม่ไปศาล เรื่องจะไปต่อยังไง จะออกหมายจับหรือไม่ พรรคเพื่อไทยต้นสังกัดของจำเลยที่หนึ่งที่เป็นสส.ของพรรคจะเอาอย่างไร คดีนี้มันมีพูดกันว่า ถ้าจำเลยไม่ไปศาล คดีจะขาดอายุความในวันที่ยี่สิบห้า เรื่องนี้โฆษกอัยการสูงสุดให้ความเห็นเมื่อวันก่อนว่า คิดว่าเมื่อศาลรับฟ้องแล้วเรื่องคดีหมดอายุความก็ไม่เป็นประเด็นอีกต่อไป ส่วนจะเอาจำเลยมาขึ้นศาลได้หรือไม่เมื่อไหร่ เป็นอีกเรื่อง คือตามตัวจำเลยไม่ได้ไม่แปลว่าหมดอายุความ แต่เรื่องนี้โฆษกเองก็ยอมรับว่ามีคนเห็นต่าง ฟังแบบนี้แล้วเลยไม่แน่ใจว่ายังไง
ส่วนตัวเราคิดว่าโดยเหตุผลแล้วมันไม่น่าจะหมดอายุความเพราะจำเลยไม่ไปศาล เพราะว่าศาลรับฟ้องแล้ว แต่ก็นั่นแหละนะ เราก็ไม่ใช่นักกฎหมาย ขนาดโฆษกสนง.อัยการสูงสุดยังแบ่งรับแบ่งสู้เลย
สองคดีนี้ คดีที่ชาวบ้านฟ้องเองมีจำเลยกลุ่มใหญ่ที่เป็นอดีตขรก.ชั้นผู้ใหญ่ทั้งนั้นนำโดยอดีตแม่ทัพภาคสี่ คือแม้ศาลจะไม่รับฟ้องหนึ่งคน แต่ที่เหลือรับหมด ชุดใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีรายการปชช.ฟ้องจนท.ในภาคใต้มาเลยทีเดียว ต้องบอกว่าเป็นคดีปวศ. ก็ว่าได้ แต่ส่วนคดีที่อสส.ให้ตร.ตั้งเรื่องฟ้องนั้น กลุ่มผู้โดนฟ้องสถานะไม่เท่ากลุ่มแรกแน่นอน แม้จะมีอดีตนายทหารระดับผู้ใหญ่แต่ก็แค่คนเดียว บางคนเป็นเพียงพลขับ แม่ทัพก็ไม่อยู่ในนี้ ในเชิงของคดี กลุ่มคนที่จะโดนมันไม่สร้างผลเสียหายทางการเมืองในเครือข่ายข้าราชการและสายสัมพันธ์กับนักการเมืองมากเท่าคดีที่ชาวบ้านฟ้อง
จากที่เห็นกระบวนการต่างๆของกลไกรัฐ มาหลายปี เราเชื่อว่าทุกอย่างทำได้ถ้าต้องการจะทำ และถ้าไม่ต้องการจะทำมันจะมีสารพัดเหตุให้ทำไม่ได้ ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้
ทีนี้ถ้าคดีแรกแป้ก ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ก็คือเสียชื่อ แต่ถ้าคิดว่ายังไงก็ต้องฟ้องเพราะถ้าไม่ทำก็จะเจอข้อหาเป็นจนท.ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และการฟ้องยังเรียกคะแนนได้ด้วย ก็เยียวยาความเชื่อมั่นด้วยคดีที่สองที่จนท.ฟ้องเอง คดีที่สองนี้แหละน่าสนใจ เพราะระดับความเสียหายน้อยกว่าคดีแรกเยอะ กลุ่มคนที่โดนไม่ใหญ่เท่ากลุ่มแรก อัยการและตร.ฟ้องเองด้วย ดังนั้นถ้าจะต้องดำเนินคดีจริง ระหว่างสองคดีนี้ คดีที่อสส.สั่งฟ้องมันลดสโคปความเสียหายในสายตาขรก.ด้วยกันลงได้มากกว่าคดีแรกเยอะนะเราว่า
