ความโหดเหี้ยมของปัญญาชนไทยเมื่อปี 53

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10225241829366740&set=a.2311573582749

Sujane Kanparit
Yesterday

ความโหดเหี้ยมของปัญญาชนไทยเมื่อปี 53
-------
บท บก. a day bulletin

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนคนกรุงเทพฯ รวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day อย่างคึกคักแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนว่าคนกรุงเทพฯ จะให้ความสนใจกับเรื่องการทำความสะอาดมากขนาดนี้ (อย่างน้อยก็ตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ มา) และภาพการทำความสะอาดใหญ่ของชาวกรุงเทพก็เต็มไปด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย ยิ้มแย้มแจ่มใส อย่างที่ดูไกลๆ แทบดูไม่ออกว่านี่คือกิจกรรมทำความสะอาด

การลุกออกมาทำความสะอาดครั้งใหญ่นี้ ไม่มากก็น้อย อาจจะเกิดมาจากความรู้สึกอึดอัด เคร่งเครียด กดดัน ที่ระอุอึมครึมในหัวใจคนกรุงเทพฯ มาเป็นระยะเวลาพอสมควร พอทาง กทม. เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาด "บ้านหลังใหญ่ของคนกรุงเทพฯ" ทุกคนเลยระเบิดพลังแรงกายแรงใจ ขัดและถูกันเป็นการใหญ่ ไ่รู้ใครเคยบอกไว้ว่า การทำควาสะอาดที่อยู่อาศัย เป็นการทำควาสะอาดความรู้สึกอย่างหนึ่ง แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้เขียนเซื่อเอามากๆ ทีเดียว

อาจเป็นเพราะเมื่อเราออกแรงขัดถู พลังสมาธิของเราก็ทุ่มเทไปที่จุดนั้น เราลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว มุ่งแต่จะลบร่องรอยของความสกปรกออกไป เช่นเดียวกับความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ ในวันนั้น ที่ไม่ว่าจะเหงื่อไหลไคลย้อยอย่างไร แต่เมื่อทุกคนมีเป้าหมายร่วมกันว่า อยากเห็นบ้านเมืองสะอาดอีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งพลังไม้กวาดและแปรงขัดพื้นนับพันๆ นั้นได้ (แม้บางครั้งเราจะเดินเหยียบไม้กวาดกันก็เถอะ)...

...เก็บกวาด ขัดถู กันให้หมดเถอะ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง ความโกรธเคือง หรือความเคียดแค้นใดๆ ถ้าจะให้ดีก็ออกแรงช่วยกันลบคราบสกปรกเหล่านี้ให้มาก หรือเท่ากับแรงที่หลายๆ คนขัดพื้นตลอดบ่ายวันนั้น...มันไม่แปลกหรอกที่มลภาวะต่างๆ รอบตัวจะก่อให้เกิดความสกปรกกับบ้านเรือนเราไปบ้าง แต่ถ้าพวกเรามัวแต่นั่งโกรธที่พื้นสกปรก กำแพงเลอะเทอะ ตู้โทรศัพท์เหม็น มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้สะอาดขึ้นเลย

สู้หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมากันคนละไม้ละมือ แล้วลุกมาทำความสะอาดเลยดีกว่า

ที่สำคัญ...อย่าให้การทำความสะอาดครั้งใหญ่มีเฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่มันควรจะมีอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และไม่ใช่กินพื้นที่แค่บนถนน แต่ควรจะกินพื้นที่เข้าไปในหัวใจด้วย

ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ และผู้คนที่พากันออกาทำความสะอาดกันเต็มท้องถนนตลอดวัน Big Cleaning Day วันนั้น ผู้เขียนเชื่อว่า ไม่เพียงแต่ท้องถนน พื้นกำแพง ฯลฯ จะได้รับการปัดกวาด ขจัดถูจนเกลี้ยง ภายในหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งของคนกรุงเทพฯ ก็น่าจะถูกเก็บกวาดไม่น้อยกว่ากัน เพราะได้ยินหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คืนนั้นหลับสบายกว่าทุกคืน

วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม
บรรณธิการบริหาร
------
ที่มา : A Day Bulletin issue 97 28 พค-3 มิถุนายน 2010
(หลังเหตุการณ์ล้อมปราบคนเสื้อแดงไม่กี่วัน)

อธิบายศัพท์
Big Cleaning Day คือการทำความสะอาดพื้นที่ที่เคยเป็นจุดชุมนุมและล้อมปราบ
————
ปัจจุบัน ผู้เขียนข้อความข้างต้น
ปรากฎข้อมูลในเว็บไซต์ The Cloud ว่า

“อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร a day BULLETIN และ The Standard Magazine ที่ปัจจุบันเรียกตัวเองว่า ‘นักหาเรื่อง’ เพราะสนุกกับการหาแง่มุมที่ซุกซ่อนในเรื่องราวของผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัว ผ่านการพูดคุย อ่าน เขียน และการเดินทาง” 

.....
Pipob Udomittipong
20h
หลังเหตุการณ์ล้อมปราบพฤษภา 53 วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม อดีตบรรณธิการบริหาร a day BULLETIN และ The Standard Magazine เขียนว่า
“ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ และผู้คนที่พากันออกาทำความสะอาดกันเต็มท้องถนนตลอดวัน Big Cleaning Day วันนั้น ผู้เขียนเชื่อว่า ไม่เพียงแต่ท้องถนน พื้นกำแพง ฯลฯ จะได้รับการปัดกวาด ขจัดถูจนเกลี้ยง ภายในหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งของคนกรุงเทพฯ ก็น่าจะถูกเก็บกวาดไม่น้อยกว่ากัน เพราะได้ยินหลายคนพูดเป้นเสียงเดียวกันว่า คืนนั้นหลับสบายกว่าทุกคืน”
คนเขียนหนังสือมีเยอะ คนสร้างคอนเทนต์มีเพียบ แต่ที่มีจุดยืนข้างประชาชนมีไม่มาก