ส่วนพรรคเพื่อไทย ‘พระเอก’ ของการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีแฟนคลับเหนียวแน่นไม่น้อย ๖๔ เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ถอดใจไปที่อื่น มีประมาณเกือบ ๒ ใน ๓ ของทั้งหมด และเกือบครึ่งของจำนวนนั้นบอกว่าเพราะ “นโยบายพรรคไม่โดนใจ แก้ปัญหาไม่ได้จริง”
สี่สำนักข่าวออนไลน์เจ๋งๆ คือ TODAY, The MATTER, The Momentum และประชาไท ทำการสำรวจครั้งนี้โดย “เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมแสดงความเห็น” ด้วย และมีผู้เข้าร่วมตอบคำถามทั้งสิ้นเกือบสองพันราย ซึ่ง ๒๑.๕% แน่ใจไม่เลือกพรรคเดิม
“ผู้เคยเลือกพรรคก้าวไกล/อนาคตใหม่ เป็นกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคเดิมมากสุด ถึง ๘๔.๓๖%” ซึ่งต่างกับฐานเสียงพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคภูมิใจไทย ที่เปลี่ยนใจตีจากแล้วถึง ๖๖-๘๕%
อย่างไรก็ดีโพลนี้อาจไม่ชี้ถึงสภาพเป็นจริงได้ทั้งหมด เนื่องจาก ในจำนวนผู้เข้าร่วมการสำรวจ ๑,๙๑๓ คนนั้น เป็นติ่งก้าวไกลเสีย ๖๕% ที่เหลือเป็นแฟนคลับพรรคลุงแม้ว ๒๑% พรรคอื่นๆ เรี่ยราด ปชป. ๓.๑% พลังประชารัฐ ๒.๔% เป็นต้น
ความโดดเด่นของก้าวไกลกับเพื่อไทย ชวนให้ใฝ่ฝันว่าสองพรรคนี้จะอี๋อ๋อต่อกันเมื่อถึงคราวจัดตั้งรัฐบาล แต่ดูเหมือนสภาพการณ์เฉพาะหน้าเวลานี้เหมือนจะยาก เมื่อทั้งเจ้าของพรรคและคุณแบกทั้งหลายแปะยันต์กันผีไว้หมดแล้ว ไม่คบพวกปากคอเราะราน
แม้กระทั่งฝ่ายวิชาการเศรษฐกิจซึ่งปกติก็คุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่ เช่น เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย กับ ศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล ทั้งสองไปร่วมเสวนาในรายการ The Politics ถกกันฉันมิตรกับอีกสองพรรค
เขาว่าเห็นด้วยในหลักการเก็บกำไรของนายทุนใหญ่มาเฉลี่ยให้ผู้ด้อยโอกาส แต่ภาษีกำไรนี่ถ้าเก็บในระยะนี้เป็นอันตรายมาก ในสภาพที่ตลาดทุนของไทยเพิ่งจะเริ่มชูตาอ้าปาก “มันทำลายตลาดหลักทรัพย์และการระดมทุนของประเทศครั้งใหญ่”
ผู้ดำเนินรายการโยนไปให้ ‘ไหม’ ตอบ เธอบอกฟังก่อนนะคะ เราไม่ได้เก็บแบบถ้วนหน้าทุกคน ทุก transaction ทุก account “คนธรรมดาทั่วไปรายเล็กรายย่อย เราไม่ไปเก็บหรอก ถ้ามันไม่ถึงวงเงินระดับหนึ่ง” อย่างกังวลเกินไป
“พอจะเก็บภาษีตัวใหม่ขึ้นมามันจะทำให้ตลาดทุนล่มสลาย ใจเย็นก่อนนะฮะ มันมีวิธีการที่จะทำ”
(https://www.facebook.com/watch?v=900802917874252 และ https://prachatai.com/journal/2023/04/103769)
