กรณีหลังนี่ทำเป็นรู้ดีว่าพายุฝนหนักขนาดนี้จะมา “รัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น” แต่ไม่เห็นจะรับมือได้ดีแม้แต่น้อย น้ำก็ยังทะลักเข้าเมือง ตามที่อยู่อาศัยและย่านการค้า ทำให้ชีวิตชาวไทยลดระดับไปอีกขั้น
ถ้าเตรียมการนานๆ อย่างคุยก็ต้องสามารถป้องกันไม่ให้เหตุเกิดสิ ไม่ใช่รอรับมือแล้วรับไม่ไหว โดยเฉพาะเรื่องวิทยุทรานซิสเตอร์ ไฉนไม่จัดตั้งระบบสื่อสารอย่างนั้นสำหรับการแจ้งเตือนภัย ก่อนที่พายุฝนจะมา ถ้างั้นไอ้ที่เตรียมการก็เหลวสิ ไม่ใช่เรื่องน่าเอามาคุย
แต่ก็นั่นละ สันดอนประยุทธ์ หยุดพักงานไปเดือนเดียว ไม่ได้ทำให้รู้จักคิดก่อนพูดเลยสักนิด น้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่มันเป็นไปเกือบทั่วทุกภาค เชียงใหม่ อุบล อยุธยา ปทุมฯ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้ระบบสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุเป็นหลัก
ยิ่งถ้าระบบสื่อสารอื่นล้มเหลวด้วยอุทกภัยละก็ ระบบวิทยุย่อมใช้การไม่ได้เหมือนกับโทรทัศน์ และการนั่งเรือไปบอกกล่าว อีกทั้งการเตรียมการสำหรับภาวะฉุกเฉินจะต้องมีแต่เนิ่นๆ และพร้อมเพรียงทั้งสองทาง ผู้ส่งและผู้รับ
อยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้ใครบ้างเก็บวิทยุทรานซิสเตอร์ไว้ใช้ ข้อแนะนำให้เตรียมระบบแจ้งข้อความสั้นผ่านเอสเอ็มเอส น่าเชื่อถือว่าเป็นไปได้มากกว่าการใช้วิทยุทรานซิสเตอร์เยอะแยะ ทว่าประยุทธ์คิดไม่ถึง นึกว่ารัฐบาลนี้สนิทกันดีกับเจ้าสัวสื่อสาร
กรณีน้ำท่วมเชียงใหม่คราวนี้ “เกือบเท่าปี ๕๔ ทำได้แค่ตะโกนถามหน้าบ้านประชาชน แล้วฝากหน่วยงานรัฐเร่งช่วยเหลือ” เพราะว่า “ถูกระเบียบ #กกต มัดมือทำให้ช่วยเหลือประชาชนที่ถูก #น่ำท่วม ไม่ได้” Sunai (ผาสุก) @sunaibkk ชวนคิด
“แต่รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลทำได้ทุกอย่าง แจกของก็ได้ หาเสียงล่วงหน้าแบบเอาเปรียบไปก่อนเลย” โจ่งแจ้ง ว่าที่แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ นั่นละ ‘ตัวดี’
(https://matichon.co.th/politics/news_3597894, https://www.matichon.co.th/politics/news_3598007 และ https://www.sanook.com/news/8633526/)
