.....
Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์
Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์
1d
“จตุพร” ย้ำ 3 ป. ไม่ยอมให้เลือกตั้งแน่ แก้ รธน.ยิ่งทำยาก ลำบากกับกลไกซ่อนเงื่อน คาดพรรคการเมืองเดือดถูกต้มเปือย แค้นระดมคนลงถนนต่อต้าน ถามทำไมไม่เริ่มต้นทำร่วมกับ ปชช.ตอนนี้ เผยกลวิธีบ่มความคิด รอทุกฝ่ายพร้อมนัดใหญ่ลงถนน ลั่นล้างบางอำนาจอำมหิต เชื่อกลางตุลา พลัง ปชช.คั่งแค้นขับไล่ทรราชเหมือนต้นแบบ 14 ตุลากับพฤษภาทมิฬ
คณะหลอมรวมประชาชน และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แถลงเมื่อ 2 ต.ค. 2565 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถึงจุดมุ่งหมายเคลื่อนไหวขับไล่ 3 ป. โดยระบุว่า ช่วง 4-16 ตุลา เป็นเวลาบ่มความคิด ระดมคำสาปแช่งของประชาชนให้พลุกพล่านเดือดระอุทางอารมณ์ เพื่อรอทุกฝ่ายพร้อมรวมพลังมือและเท้าเข้าจัดการให้เบ็ดเสร็จ
นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจเมื่อปี 2557 แล้วเกิด รธน.ชั่วคราวปี 2557 และเลยมาถึง รธน.ชั่วถาวรปี 2560 จึงขอร้องนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่าง รธน. อย่าเพิ่งตาย ขอให้อยู่ได้เห็นความฉิบหายของประเทศจาก รธน.ฉบับที่เขียนตามความประสงค์ของ พล.อ.ประยุทธ์และ 3 ป. โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อภิสิทธิ์เสียงถึง 33% ของจำนวนสมาชิกในสภา แล้วหาไม่ถึง 20% ก็เกินได้ครึ่งสภาแล้ว
“เรียนถึงบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย สิ่งที่คุณเดินนั้น ไม่มีวันได้เจอกับการเลือกตั้ง ถามว่า 3 ป.จะไม่รู้หรือว่าจะมีแลนด์สไลด์เหมือนพม่า ดังนั้น 3 ป.จึงต้มพรรคการเมือง และพรรคการเมืองก็มาต้มประชาชนต่อ และสิ่งที่คณะหลอมรวมฯ บอกไม่มีเลือกตั้งนั้น มีคำอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้ชัดเจน เพราะมีชัย เขียน รธน.ซับซ้อนวกไปวนมา แล้วผูกมัด ซ่อนเงื่อนไว้แน่นหนาจึงไม่สามารถแก้ไขได้”
และอธิบายย้ำว่า สมมติมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ แม้ได้มา 400 เสียงแล้ว ถามว่า จะแก้ รธน ได้หรือไม่ เมื่อ รธน.เข้าบังคับการแก้ไขไว้ให้ต้องเอาเสียงจากฝ่ายค้าน 20% มาร่วมด้วย แล้วไม่พอเท่านั้น ยังมีเสียงวุฒิสภาอีก 84 คนด้วย ถามว่า คนพวกนี้จะยอมให้เกิดขึ้นหรือ แน่นอนพวกเขาต้องไม่ยอมให้แก้ไขอย่างเด็ดขาด
“ฟังดีๆนะครับ วันที่ไปยื่นแก้กฎหมายลูกเลือกตั้งและพรรคการเมือง ทำไมพวก 3 ป.จึงยอมให้แก้ ทั้งๆ เป็นกติกาที่เพื่อไทยได้เปรียบ ซึ่งไม่เป็นพิรุธบ้างเลยหรือ นอกจากจะต้องการต้มกัน เปรียบเหมือนเล่นแชร์ ระวังจะถูกโกง แล้วหนีการเลือกตั้งก็แล้วกัน”
พร้อมย้ำว่า ความแปลกประหลาดอยู่ที่การยอมให้แก้ รธน. ม.91 แต่ พลังประชารัฐ (พชปร.) ไม่ยอมให้แก้ ม.93 กับ ม.94 ที่เกี่ยวข้องกับจำนวน ส.ส.พึงมี อีกทั้งแนวทางเอา 500 หาร หรือ 100 หาร ก็ยังตกลงกันไม่ได้ จนส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยอีก แล้วศาลมาจากไหน ใครแต่งตั้ง ดังนั้นในเวลา 5 เดือนกว่านี้ คณะหลอมรวมฯ บอกย้ำมาตลอดจะไม่มีเลือกตั้ง โดยเฉพาะการโกงที่ง่ายที่สุดคือโกงตามกติกาที่เขียนขึ้นมาเอง ถ้าศาลวินิจฉัยให้โมฆะ ขัด รธน. ก็ลงท้ายถูกต้มทำให้ฉิบหายกันหมดอีก
อีกอย่าง หากประเมินกันแบบง่ายๆ คือ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา ยังไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง สามารถรักษาการได้เป็นชาติ เพราะไม่มีเวลากำหนดไว้ และถ้าไม่ยุบสภา แต่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้งเช่นกัน ดังนั้น 7 พ.ค. 2566 ไม่มีเลือกตั้งเหมือนเดิม ถึงที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ รักษาการอีก แล้วพรรคการเมืองจะทำอย่างไร คงต้องได้ลงถนนเหมือนพวกเรา แล้วทำไมไม่มาลงตั้งแต่วันนี้เลย
“คณะหลอมรวมฯ สู้บนพื้นฐานที่เป็นจริง ไม่มีประโยชน์การเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยการต่อสู้ต้องสวมหัวใจให้ใหญ่โต เมื่อ 3 ป. เริ่มสงคราม หน้าที่เราต้องจบสงครามนี้ ต้องนับหนึ่งประเทศ เนื่องจาก 3 ป.ออกแบบกลไกคุมอำนาจแบบอำมหิตที่สุด ขณะที่ประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองยังไม่แข็งแรง ไม่รวมพลังต่อต้าน ไม่ดำรงความมุ่งหมายของประชาธิปไตย ส่วนทหาร จบ จปร. ถูกสอนให้ยึดมั่นในจุดมุ่งหมาย ถ้าคิดทำสงครามแพ้ พวกนี้ก็ไม่ออกรบ แล้วใช้ความเจ้าเล่ห์ ทำเนียนครอบครองอำนาจ ดังนั้น เราต้องไม่เพลี่ยนพล้ำ”
ดังนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การดำรงความมุ่งหมายและเชื่อในการต่อสู้ โดยไม่มีประโยชน์ส่วนตนมาเกี่ยวข้อง มีแต่เรื่องของชาติบ้านเมือง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ รอดจากคำตัดสินเป็นนายกฯ ครบ 8 ปี จึงได้เวลาเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการจัดการ 3 ป. และ รธน.นี้ ฉะนั้นประเทศก็เริ่มต้นไม่ได้
นายจตุพร กล่าวว่า คณะหลอมรวมฯ จะทำความคิดกับกลุ่มต่างๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยทุกวันจะเสวนาแลกเปลี่ยนความคิด จัดรายการสื่อสารอารมณ์ บ่มเพาะความรู้สึกในเวลา 08.00 น.ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ไปถึง 16 ตุลาคม จากนั้นหลัง 16 ตุลาคมจะมีมาตรการออกมาเป็นระยะ รวมทั้งจะนัดใหญ่อีกรอบ การเว้นช่วงเวลา 2 สัปดาห์เช่นนั้น เพื่อต้องการให้ประชาชนระดมอารมณ์สาปแช่ง 3 ป. ให้เดือดระอุไปเรื่อยๆ
“วันนี้สังคมไทยเดินมาถึงจุดเดียวกันคือ รวมกันล้างบาง โครตโกง ปล้นชาติ พี่น้องคนไทยทั้งประเทศถ้าทนกับ 3 ป.ได้ ผมก็เคารพการตัดสินใจ แต่ถ้าอดทนไม่ได้แล้ว เราพร้อมกันวันไหนที่จะเอาพล.อ.ประยุทธ์ กับพวก 3 ป.ออกไป ให้เหมือน 14 ตุลาจัดการกับ 3 ทรราช และเช่นเดียวกับพฤษภาทมิฬ 2535 ที่จัดการคณะทหารรหัส 0143
“วันนี้ขอให้ค่อยๆ คิดกัน แล้วร่วมกดดัน สาปแช่ง เราจะรอเวลาจนกว่ามันจะโยนผ้าขาวเอง พวกนี้ต้องไปโดยประชาชนจึงจะสะใจ ส่วนจะบวชเณรเป็นสามเณรประยุทธ์ก็ว่ากันไป ดังนั้น เราต้องมีความหวัง มีความมุ่งหมาย พวก 3 ป.ไม่มีวันไปดี ต้องใช้มือกับตีนประชาชนเท่านั้นจึงจะไป เราประชาชนต้องไม่ผลีผลามในการสู้กับพวก 3 ป.เจ้าเล่ห์”
ประเทศไทยต้องมาก่อน
“จตุพร” ย้ำ 3 ป. ไม่ยอมให้เลือกตั้งแน่ แก้ รธน.ยิ่งทำยาก ลำบากกับกลไกซ่อนเงื่อน คาดพรรคการเมืองเดือดถูกต้มเปือย แค้นระดมคนลงถนนต่อต้าน ถามทำไมไม่เริ่มต้นทำร่วมกับ ปชช.ตอนนี้ เผยกลวิธีบ่มความคิด รอทุกฝ่ายพร้อมนัดใหญ่ลงถนน ลั่นล้างบางอำนาจอำมหิต เชื่อกลางตุลา พลัง ปชช.คั่งแค้นขับไล่ทรราชเหมือนต้นแบบ 14 ตุลากับพฤษภาทมิฬ
คณะหลอมรวมประชาชน และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แถลงเมื่อ 2 ต.ค. 2565 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถึงจุดมุ่งหมายเคลื่อนไหวขับไล่ 3 ป. โดยระบุว่า ช่วง 4-16 ตุลา เป็นเวลาบ่มความคิด ระดมคำสาปแช่งของประชาชนให้พลุกพล่านเดือดระอุทางอารมณ์ เพื่อรอทุกฝ่ายพร้อมรวมพลังมือและเท้าเข้าจัดการให้เบ็ดเสร็จ
นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจเมื่อปี 2557 แล้วเกิด รธน.ชั่วคราวปี 2557 และเลยมาถึง รธน.ชั่วถาวรปี 2560 จึงขอร้องนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่าง รธน. อย่าเพิ่งตาย ขอให้อยู่ได้เห็นความฉิบหายของประเทศจาก รธน.ฉบับที่เขียนตามความประสงค์ของ พล.อ.ประยุทธ์และ 3 ป. โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อภิสิทธิ์เสียงถึง 33% ของจำนวนสมาชิกในสภา แล้วหาไม่ถึง 20% ก็เกินได้ครึ่งสภาแล้ว
“เรียนถึงบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย สิ่งที่คุณเดินนั้น ไม่มีวันได้เจอกับการเลือกตั้ง ถามว่า 3 ป.จะไม่รู้หรือว่าจะมีแลนด์สไลด์เหมือนพม่า ดังนั้น 3 ป.จึงต้มพรรคการเมือง และพรรคการเมืองก็มาต้มประชาชนต่อ และสิ่งที่คณะหลอมรวมฯ บอกไม่มีเลือกตั้งนั้น มีคำอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้ชัดเจน เพราะมีชัย เขียน รธน.ซับซ้อนวกไปวนมา แล้วผูกมัด ซ่อนเงื่อนไว้แน่นหนาจึงไม่สามารถแก้ไขได้”
และอธิบายย้ำว่า สมมติมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ แม้ได้มา 400 เสียงแล้ว ถามว่า จะแก้ รธน ได้หรือไม่ เมื่อ รธน.เข้าบังคับการแก้ไขไว้ให้ต้องเอาเสียงจากฝ่ายค้าน 20% มาร่วมด้วย แล้วไม่พอเท่านั้น ยังมีเสียงวุฒิสภาอีก 84 คนด้วย ถามว่า คนพวกนี้จะยอมให้เกิดขึ้นหรือ แน่นอนพวกเขาต้องไม่ยอมให้แก้ไขอย่างเด็ดขาด
“ฟังดีๆนะครับ วันที่ไปยื่นแก้กฎหมายลูกเลือกตั้งและพรรคการเมือง ทำไมพวก 3 ป.จึงยอมให้แก้ ทั้งๆ เป็นกติกาที่เพื่อไทยได้เปรียบ ซึ่งไม่เป็นพิรุธบ้างเลยหรือ นอกจากจะต้องการต้มกัน เปรียบเหมือนเล่นแชร์ ระวังจะถูกโกง แล้วหนีการเลือกตั้งก็แล้วกัน”
พร้อมย้ำว่า ความแปลกประหลาดอยู่ที่การยอมให้แก้ รธน. ม.91 แต่ พลังประชารัฐ (พชปร.) ไม่ยอมให้แก้ ม.93 กับ ม.94 ที่เกี่ยวข้องกับจำนวน ส.ส.พึงมี อีกทั้งแนวทางเอา 500 หาร หรือ 100 หาร ก็ยังตกลงกันไม่ได้ จนส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยอีก แล้วศาลมาจากไหน ใครแต่งตั้ง ดังนั้นในเวลา 5 เดือนกว่านี้ คณะหลอมรวมฯ บอกย้ำมาตลอดจะไม่มีเลือกตั้ง โดยเฉพาะการโกงที่ง่ายที่สุดคือโกงตามกติกาที่เขียนขึ้นมาเอง ถ้าศาลวินิจฉัยให้โมฆะ ขัด รธน. ก็ลงท้ายถูกต้มทำให้ฉิบหายกันหมดอีก
อีกอย่าง หากประเมินกันแบบง่ายๆ คือ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา ยังไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง สามารถรักษาการได้เป็นชาติ เพราะไม่มีเวลากำหนดไว้ และถ้าไม่ยุบสภา แต่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้งเช่นกัน ดังนั้น 7 พ.ค. 2566 ไม่มีเลือกตั้งเหมือนเดิม ถึงที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ รักษาการอีก แล้วพรรคการเมืองจะทำอย่างไร คงต้องได้ลงถนนเหมือนพวกเรา แล้วทำไมไม่มาลงตั้งแต่วันนี้เลย
“คณะหลอมรวมฯ สู้บนพื้นฐานที่เป็นจริง ไม่มีประโยชน์การเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยการต่อสู้ต้องสวมหัวใจให้ใหญ่โต เมื่อ 3 ป. เริ่มสงคราม หน้าที่เราต้องจบสงครามนี้ ต้องนับหนึ่งประเทศ เนื่องจาก 3 ป.ออกแบบกลไกคุมอำนาจแบบอำมหิตที่สุด ขณะที่ประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองยังไม่แข็งแรง ไม่รวมพลังต่อต้าน ไม่ดำรงความมุ่งหมายของประชาธิปไตย ส่วนทหาร จบ จปร. ถูกสอนให้ยึดมั่นในจุดมุ่งหมาย ถ้าคิดทำสงครามแพ้ พวกนี้ก็ไม่ออกรบ แล้วใช้ความเจ้าเล่ห์ ทำเนียนครอบครองอำนาจ ดังนั้น เราต้องไม่เพลี่ยนพล้ำ”
ดังนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การดำรงความมุ่งหมายและเชื่อในการต่อสู้ โดยไม่มีประโยชน์ส่วนตนมาเกี่ยวข้อง มีแต่เรื่องของชาติบ้านเมือง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ รอดจากคำตัดสินเป็นนายกฯ ครบ 8 ปี จึงได้เวลาเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการจัดการ 3 ป. และ รธน.นี้ ฉะนั้นประเทศก็เริ่มต้นไม่ได้
นายจตุพร กล่าวว่า คณะหลอมรวมฯ จะทำความคิดกับกลุ่มต่างๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยทุกวันจะเสวนาแลกเปลี่ยนความคิด จัดรายการสื่อสารอารมณ์ บ่มเพาะความรู้สึกในเวลา 08.00 น.ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ไปถึง 16 ตุลาคม จากนั้นหลัง 16 ตุลาคมจะมีมาตรการออกมาเป็นระยะ รวมทั้งจะนัดใหญ่อีกรอบ การเว้นช่วงเวลา 2 สัปดาห์เช่นนั้น เพื่อต้องการให้ประชาชนระดมอารมณ์สาปแช่ง 3 ป. ให้เดือดระอุไปเรื่อยๆ
“วันนี้สังคมไทยเดินมาถึงจุดเดียวกันคือ รวมกันล้างบาง โครตโกง ปล้นชาติ พี่น้องคนไทยทั้งประเทศถ้าทนกับ 3 ป.ได้ ผมก็เคารพการตัดสินใจ แต่ถ้าอดทนไม่ได้แล้ว เราพร้อมกันวันไหนที่จะเอาพล.อ.ประยุทธ์ กับพวก 3 ป.ออกไป ให้เหมือน 14 ตุลาจัดการกับ 3 ทรราช และเช่นเดียวกับพฤษภาทมิฬ 2535 ที่จัดการคณะทหารรหัส 0143
“วันนี้ขอให้ค่อยๆ คิดกัน แล้วร่วมกดดัน สาปแช่ง เราจะรอเวลาจนกว่ามันจะโยนผ้าขาวเอง พวกนี้ต้องไปโดยประชาชนจึงจะสะใจ ส่วนจะบวชเณรเป็นสามเณรประยุทธ์ก็ว่ากันไป ดังนั้น เราต้องมีความหวัง มีความมุ่งหมาย พวก 3 ป.ไม่มีวันไปดี ต้องใช้มือกับตีนประชาชนเท่านั้นจึงจะไป เราประชาชนต้องไม่ผลีผลามในการสู้กับพวก 3 ป.เจ้าเล่ห์”
ประเทศไทยต้องมาก่อน