วันเสาร์, มิถุนายน 11, 2565

ดนตรีในสวนของ ทบ. 'บุ่มบ่าม' คนน้อย กัญชาเสรีภูมิใจไทย 'ลุกลี้ลุกลน'

การจัดดนตรีในสวนของทัพบก เพื่อต้านกระแส ชัชชาติฟีเวอร์(เหตุผลลึกๆ อย่างนี้ อย่าเถียง) แม้จะเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ดีอยู่ แต่ก็เป็นสิ่งไม่จำเป็น สำหรับ ทบ.น่ะนะ เรื่องที่ต้องทำและควรทำมีอยู่เยอะแยะ ไม่แตะ

เพราะ กทม.เขาทำดีแล้ว ดีกว่า และเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ไม่จำเป็นต้องให้ ทบ.มาเพิ่ม และ/หรือ แข่ง แต่ถ้าอยากจะขอแบ่งแสง ก็ควรทำอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ไปขอเสริมกับ กทม.เขา ไม่ใช่อวดเก่ง เบ่ง แย่งทำ

ในเมื่อทำแล้วชาวบ้านไม่ค่อยตื่นเต้น ผู้คนโหรงเหรงเทียบไม่ได้เลยกับของ กทม. โดยเฉพาะวันที่ชัชชาติไปร่วมที่สวนลุมฯ แม้นว่าดนตรีวงย่อมของดุริยางค์ ทบ.จะใช้ทหารหญิงจิ้มลิ้มบรรเลงเพลงไม่คร่ำครึ เหมาะบรรยากาศรื่นรมย์ของสวนเบญจกิติ

ก็มีเสียงวิจารณ์จากชาวบ้านหนักอยู่ ตั้งแต่การเปรียบเทียบว่า “ต่างกันราวฟ้ากับเหว” บ้าง “อยากบอกกงๆ ขี้เกลียดยืนตรงว่ะ” (จากถ้อยความของ Aporn Pakshanont) พิธีรีตองมากจนคนชมคนฟังไม่ผ่อนคลาย ไม่สร้างความสุขสักเท่าไร

กับข้อวิจารณ์ของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ว่าการ “ทำได้ กับได้ทำ มีความแตกต่างกันมากกับผลคะแนนที่ออกมา” เนื่องเพราะฝีมือและชื่อเสียงของ สุกรี เจริญสุข คนจัด รายการ กทม.เหนือชั้นกว่า

แต่จะว่าทีม กทม.ชุดใหม่นี่จะ ฮิปเก๋ไก๋ไปเสียทั้งหมด ต้อง เอาด้วย ทุกงานดนตรี ทุกสวนก็หาไม่ เมื่อวานนี้ กทม.โดยรองผู้ว่าฯ ศานนท์ หวังสร้างบุญ (หลังจากปรึกษาผู่ว่าฯ ชัชชาติ ซึ่งยังอยู่ที่ซีแอ๊ตเติ้ลแล้ว) ได้ยับยั้งงานดนตรีในสวนป้อมมหากาฬไว้ก่อน

ทั้งนี้เป็นเพียงรายการเดียว (วันที่ ๑๘ มิ.ย.) ที่ยับยั้ง ในซีรี่ส์ดนตรีในสวนของสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวหลายแห่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มิ.ย.ไปจนถึง ๓ ก.ค. ด้วยเหตุผลว่าสวนรอบมหากาฬมีประวัติเหตุการณ์ละเอียดอ่อน กินใจชาวบ้าน

บริเวณดังกล่าวเคยเป็นชุมชนอยู่อาศัยสืบเนื่อมาช้านาน ครั้นทางการต้องการสร้างสวนสาธารณะ สร้างความโดดเด่นและภาพลักษณ์ของป้อมมหากาฬ ก็ทำการขับไล่ชาวบ้านกว่า ๓๐๐ คนออกไป เมื่อ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๑ ชาวชุมชนพยายามคัดค้านไม่เป็นผล

“ไม่ใช่จัดเพียงงานรื่นเริงอย่างเดียว โดยไม่ได้คิดถึงประวัติศาสตร์ นี่คือประเด็นสำคัญ” ศานนท์กล่าวถึงเหตุผลในการยับยั้งดนตรีในสวนมหากาฬ “ถามว่าต้องเดินหน้าหรือไม่ ก็ต้องเดินไปข้างหน้า เราจะมาแช่แข็งอยู่ในอดีต มันเป็นไปไม่ได้

แต่จะเดินอย่างไรให้ไม่ทิ้งและเคารพทุกคนที่เคยต่อสู้กันที่นี่ เราต้องมาคิดกันให้ละเอียดจริงๆ” นั่นคือกลับไปคิดกันใหม่ ว่าจะจัดงานในรูปแบบไหน ไม่ให้ย่ำยีประวัติศาสตร์และชีวิตจิตใจของการเป็นชุมชนในอดีตของบริเวณแห่งนั้น

นอกจากความบุ่มบ่ามของทหารในรัฐบาลนี้แล้ว ยังมีความลุกลี้ลุกลนของพรรค หลัก(อันดับสอง) ร่วมรัฐบาล ต่อนโยบาย ฮิปอีกอย่าง นั่นคือการปลดล็อคกัญชา ที่พอถึงกำหนดเปิดซื้อขายและปลูกใช้ได้สองวัน ต้นกัญชาก็งามสะพรั่งกับพรึ่บ

ถนนข้าวสารยามค่ำมี วี๊ดทรัครถขายกัญชา ปรุงและม้วนตามสั่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าคิวรอกันเต็ม “ขั้นตอนคือ มึงเลือกสายพันธุ์ เลือกเปเปอร์โรล แล้วแม่งยำพันลำให้ตรงนั้นเลย” กายหยาบ สิงห์โซเชียลนายหนึ่งเขียนเล่า

ข่าว Thai PBS@ThaiPBS รายงานว่า “ตลาดต้นกล้า #กัญชา คึกคัก...โดยที่ จ.พิษณุโลก มีประชาชนเลือกซื้อต้นกัญชาหลากหลาย ราคาเริ่มตั้งแต่ต้นอ่อนอายุ ๒ สัปดาห์ ต้นละ ๕๐ บาท ไปจนถึงต้นขนาด ๑ เมตร ต้นละ ๑,๐๐๐ บาท”

ส่วนเจ้าแนะนำของ Phanitta Sawaengthong ว่า “เปิดรับออเดอร์ ต้นกล้ากัญชาไทยหางกระรอก thai stick รับทำจำนวนด้วยค่ะ...ต้นละ ๗๐ บาทนะคะ ขนาด10 cm++ ขั้นต่ำ ๕๐ ต้นค่ะ” และถ้าซื้อ ๕ หมื่นต้นขึ้นไปขายครึ่งราคา ๓๕ บาท

เจ้านี้แถมรายละเอียด ขั้นตอนการลงทะเบียนปลูกกัญชาด้วยละ มิใย “ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบของกฏหมายกัญชาเสรีต่อสุขภาพเด็ก และวัยรุ่น” Sunai @sunaibkk #ส่องทวิตยามเช้า แจ้งเตือน

เรื่องที่ว่าถ้าเปิดกัญชาเสรีโดยที่กฎหมายสำหรับควบคุมการซื้อขาย การปลูก การใช้ ยังไม่ได้ออกมาไว้กำกับ เสี่ยงต่ออาการพี้สาธารณะ ก่ออุบัติเหตุบนท้องถนนและสถานประกอบการต่างๆ ข้อสำคัญ มอมเมา เยาวชนจน คุณปลื้มซัดหนัก

พรรคภูมิใจไทยก็บ้องตื้น ทำเป็นผิวบาง ประกาศจะฟ้องหมิ่นประมาทต่อผู้จัดรายการว้อยซ์ทีวีคนนี้ จน มล.ณัฐกร เทวกุล ต้องออกมาขอโทษว่าใช้ถ้อยคำรุนแรงไปหน่อย ปุดโธ่ ปุดถัง ยุคนี้ต้องว่ากันตรงๆ มัวแต่ หน้าเนื้อใจเสือ เผด็จการตีกินหมด

(https://matichon.co.th/local/quality-life/news_3392514, https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=5320963384634982&id=100001641182657 และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/pfbid022iPl)