นักข่าวคนหนึ่งถามถึงกรณีพรรคประชาชนจะยื่นทบทวนบทบาทอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าพวกตนทบทวนตัวเองอยู่แล้วเป็นระยะๆ มีการสัมมนาภายในกันอยู่ด้วย แต่เรื่องการกำหนดจริยธรรมนักการเมืองไม่ตอบ
เห็นได้ว่านี่เป็นการเบี่ยงประเด็นของประธาน ตลก.รธน.อีกครั้ง ทั้งที่หัวใจของปัญหาอยู่ที่ตุลาการศาลตีความกฎหมายเอามาใช้ออกคำสั่งตัดสิน ให้คุณให้โทษอย่างไม่คงเส้นคงวานัก สาเหตุหนึ่งอยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญนี้เอง
การเสนอแก้รัฐธรรมนูญสมัยนี้จึงเป็นฉันทามติของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แม้นว่าเป้าหมายที่ต่างฝ่ายมุ่งแก้จะไม่เหมือนกัน ทางรัฐบาลเพื่อไทยต้องการยุติพฤติกรรมรวินิจฉัยเกินกว่าถ้อยคำของตัวบท ขณะที่พรรคประชาชนมุ่งยุติผลพวงรัฐประหารเหนือศาลฯ
นอกเหนือจากนั้นก็มีการแก้ไขมาตรา ๑๖๐ (๔) (๕) และ (๗) เช่นแทนที่จะบอกว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ก็กำหนดให้ชัดเจนขึ้นว่าต้องมีการกระทำให้เห็นประจักษ์ว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือจะผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อเมื่อถูกดำเนินคดีอยู่
สำหรับฝ่ายค้าน โดยพรรคประชาชนได้ยื่นแก้ไขเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ยังเป็นพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะให้ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับ คสช. อันเป็นแม่บทครอบเหนือศาลรัฐธรรมนูญอยู่ คราวนี้เพิ่มอำนาจปฏิเสธรัฐประหาร
ประการสำคัญในร่างฯ ของพรรคประชาชน อยู่ที่การตีกรอบอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเกี่ยวกับจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคการเมือง หรือการสั่งรัฐมนตรียุติปฏิบัติหน้าที่ โดยให้มาตรฐานจริยธรรมของตุลาการและนักการเมืองเหมือนกัน
(https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/ZaoZndA4rRY, https://www.matichon.co.th/politics/news_4798709, https://prachatai.com/journal/2024/09/110736 และ https://x.com/MorningNewsTV3/status/1836770295413379357)
