
Suwagee Klampaiboon
19 hours ago
·
..."ชาวใต้ผู้ยังคงยึดมั่นในความคิดและความเชื่อเดิมๆที่ส่งต่อกันมายาวนาน ต้องพิจารณากันได้แล้วนะคะว่า น่าจะต้องมีอะไรผิดปกติ ที่โชว์มาเป็นสถิติ
ถ้านักการเมืองที่พวกท่านเลือกไม่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและฐานะ ทั้งที่ครอบครัวนักการเมืองภายใต้พรรคการเมืองที่เลือกมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย รวยกระจุก
แต่สัดส่วนคนจนในภาคใต้ติด 7 ใน 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงสุดของประเทศ"...
...................
ข้อความนี้ตัดมาจาก comment
By .. กุลชาติ กุลสุวรรณ์ ..
ในอดีต (ประมาณ 30-40ปี)คนใต้เป็นคนที่ได้รับการศึกษาสูงมากกว่าภาคอื่นๆ เป็นภาคที่มี IQ สูง (ยกเว้นภาคกลาง) มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ข้าราชการระดับสูงมักเป็นคนใต้ มักจ้างแรงงานจากทางภาคเหนือและภาคอีสาน ที่มีความยากจนสูง มาเป็นแรงงาน เช่น การรับจ้างกรีดยาง แม่บ้าน กรรมกรทั่วไป
จึงทำให้คนใต้บางคน (ย้ำบางคน) เยียด บูลลี่คนเหนือ คนอีสาน หรือภาคอื่น ว่าพวกกรรมกร พวกกินไม่เลือก พวกคนจน ส่วนคนใต้กินหลากหลาย เป็นต้น
แต่วันเวลาเปลี่ยนไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง ฐานะความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไป ประชากรเคลื่อนย้ายรวมกันทุกภาค เป็นญาติพี่น้องกันหมด อาจจะยังมีบางคนที่ยังคงติดหล่มในความคิดของตัวเอง คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น
เนื้อหาข้อมูลเพิ่มเติมจากลิงค์นี้


https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1103631
https://www.facebook.com/photo?fbid=10161311068141841&set=a.10152051646016841
.....
Nattharavut Kunishe Muangsuk
17 hours ago
·
การที่ภูมิใจไทยคะแนนนิยมตก ในช่วงรับมือสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบทบาทของรัฐ ค่อนข้างมีปัญหามากๆ จนจะเรียกได้ว่า ในช่วงวิกฤต ประชาชนดูแลกันเองชัดเจนกว่าหน่วยงานของรัฐ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น
หากเรามองว่า กู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ = ประชาชน เพราะเป็นภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนด้วยเงินบริจาค มีบทบาทอย่างมากในการเผชิญเหตุ และบรรเทาทุกข์ ในขณะที่บทบาทของรัฐ ตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงท้องถิ่น ขยับช้า และแทบจะไม่มีความพร้อมใดๆ ในการรับมือวิกฤต
เอาแค่ช่วงทีมข่าวไทยพีบีเอส ติดเกาะอยุ่กลางกระแสน้ำพร้อมประชาชนอีก 18 ชีวิต ผมโทรไปหาหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานนะครับ แต่ไม่มีความพร้อมของเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ และบางหน่วยงานบอกผมเลยว่า
"ไม่มีเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญการขับเรือในสถานการณ์น้ำเชี่ยว" คำตอบแบบนี้ทำให้ผมเหวอเหมือนกัน
ผิดกับโทรหากู้ภัย หลายหน่วยงาน พร้อมเข้าพื้นที่ เพียงแค่อุปกรณ์อาจจะไม่พร้อมมาก เข้าไม่ถึงตัว แต่ไปรออยู่ในจุดที่ใกล้ที่สุด เพื่อเตรียมเข้าพื้นที่หลังอากาศเปิดกว่านี้สักนิด (วันรุ่งขึ้น ก็มีกู้ภัยหน่วยหนึ่งเข้าช่วยเหลือได้)
หน่วยกู้ภัยของ ปภ. บรรเทาสาธารณภัยของรัฐ จริงๆ มีความรู้ มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และงบประมาณ จริงๆ ปภ.ควรแยกเป็นอิสระจากกระทรวงมหาดไทย เพราะแนวโน้มภัยพิบัติจะมาถี่ขึ้น แต่ลักษณะโครงสร้างราชการครอบเอาไว้ มีอย่างที่ไหน น้ำท่วมหนัก ยังต้องไปอำนวยความสะดวกให้ผู้ใหญ่ หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น
ส่วนกู้ภัยเอกชน ของมูลนิธิสาธารณประโยชน์ต่างๆ ที่ประชาชนควักเงินบริจาค มันเท่ากับว่า ประชาชนก้าวหน้ากว่ารัฐไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเตรียมความพร้อมจัดการดูแลตัวเอง จนกู้ภัยทั่วประเทศมีจำนวนมากมาย เวลามีเหตุที่ไหนก็พร้อมจัดส่งไปช่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยกลุ่มนี้จะฝึกฝน ฝึกอบรม มีความรู้ในการเผชิญเหตุภัยพิบัติอย่างรอบด้าน เพียงแต่ที่เป็นจุดอ่อน คือสิทธิ สวัสดิการ ไม่ค่อยดี เราจะเห็นข่าวกู้ภัยกลุ่มนี้ทำงานหนัก จนถึงขั้นตายในหน้าที่ หัวใจวายกันอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่เรื่องศูนย์พักพิง มอ.หาดใหญ่ อันนี้ต้องยกนิ้วให้หน่วยงานที่ปรับตัวรับสถานการณ์รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ของ มอ.ยังต้องออกมาเบรกหน่วยงานรัฐว่าอย่ามาเคลม รัฐมีหน้าที่สนับสนุน แต่ช่วงแรกพวกเขาพึ่งพาตัวเอง และขอบริจาคสนับสนุนจากประชาชนอยู่เลย
การรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่ กลไกรัฐเชื่องช้าและไม่มีความพร้อมขนาดนี้ แต่ประชาชนก้าวหน้ากว่า ควรเป็นบทเรียนที่ต้องส่งผลสะเทือนถึงรัฐบาล แต่เปล่าเลย .... แถมยังรักประชาธิปัตย์ ชอบอภิสิทธิ์ อยู่อีก เฮ้อ
https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/10164257329623582
Nattharavut Kunishe Muangsuk
17 hours ago
·
การที่ภูมิใจไทยคะแนนนิยมตก ในช่วงรับมือสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบทบาทของรัฐ ค่อนข้างมีปัญหามากๆ จนจะเรียกได้ว่า ในช่วงวิกฤต ประชาชนดูแลกันเองชัดเจนกว่าหน่วยงานของรัฐ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น
หากเรามองว่า กู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ = ประชาชน เพราะเป็นภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนด้วยเงินบริจาค มีบทบาทอย่างมากในการเผชิญเหตุ และบรรเทาทุกข์ ในขณะที่บทบาทของรัฐ ตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงท้องถิ่น ขยับช้า และแทบจะไม่มีความพร้อมใดๆ ในการรับมือวิกฤต
เอาแค่ช่วงทีมข่าวไทยพีบีเอส ติดเกาะอยุ่กลางกระแสน้ำพร้อมประชาชนอีก 18 ชีวิต ผมโทรไปหาหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานนะครับ แต่ไม่มีความพร้อมของเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ และบางหน่วยงานบอกผมเลยว่า
"ไม่มีเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญการขับเรือในสถานการณ์น้ำเชี่ยว" คำตอบแบบนี้ทำให้ผมเหวอเหมือนกัน
ผิดกับโทรหากู้ภัย หลายหน่วยงาน พร้อมเข้าพื้นที่ เพียงแค่อุปกรณ์อาจจะไม่พร้อมมาก เข้าไม่ถึงตัว แต่ไปรออยู่ในจุดที่ใกล้ที่สุด เพื่อเตรียมเข้าพื้นที่หลังอากาศเปิดกว่านี้สักนิด (วันรุ่งขึ้น ก็มีกู้ภัยหน่วยหนึ่งเข้าช่วยเหลือได้)
หน่วยกู้ภัยของ ปภ. บรรเทาสาธารณภัยของรัฐ จริงๆ มีความรู้ มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และงบประมาณ จริงๆ ปภ.ควรแยกเป็นอิสระจากกระทรวงมหาดไทย เพราะแนวโน้มภัยพิบัติจะมาถี่ขึ้น แต่ลักษณะโครงสร้างราชการครอบเอาไว้ มีอย่างที่ไหน น้ำท่วมหนัก ยังต้องไปอำนวยความสะดวกให้ผู้ใหญ่ หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น
ส่วนกู้ภัยเอกชน ของมูลนิธิสาธารณประโยชน์ต่างๆ ที่ประชาชนควักเงินบริจาค มันเท่ากับว่า ประชาชนก้าวหน้ากว่ารัฐไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเตรียมความพร้อมจัดการดูแลตัวเอง จนกู้ภัยทั่วประเทศมีจำนวนมากมาย เวลามีเหตุที่ไหนก็พร้อมจัดส่งไปช่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยกลุ่มนี้จะฝึกฝน ฝึกอบรม มีความรู้ในการเผชิญเหตุภัยพิบัติอย่างรอบด้าน เพียงแต่ที่เป็นจุดอ่อน คือสิทธิ สวัสดิการ ไม่ค่อยดี เราจะเห็นข่าวกู้ภัยกลุ่มนี้ทำงานหนัก จนถึงขั้นตายในหน้าที่ หัวใจวายกันอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่เรื่องศูนย์พักพิง มอ.หาดใหญ่ อันนี้ต้องยกนิ้วให้หน่วยงานที่ปรับตัวรับสถานการณ์รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ของ มอ.ยังต้องออกมาเบรกหน่วยงานรัฐว่าอย่ามาเคลม รัฐมีหน้าที่สนับสนุน แต่ช่วงแรกพวกเขาพึ่งพาตัวเอง และขอบริจาคสนับสนุนจากประชาชนอยู่เลย
การรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่ กลไกรัฐเชื่องช้าและไม่มีความพร้อมขนาดนี้ แต่ประชาชนก้าวหน้ากว่า ควรเป็นบทเรียนที่ต้องส่งผลสะเทือนถึงรัฐบาล แต่เปล่าเลย .... แถมยังรักประชาธิปัตย์ ชอบอภิสิทธิ์ อยู่อีก เฮ้อ
https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/10164257329623582