วันอังคาร, ตุลาคม 21, 2568

อ.ปวิน สรุปการปะทะวิวาทะระหว่าง สส ไอซ์ กัน จอมหลัง ในรายการ "คุยนอกจอ" ของคุณสรยุทธ์


[คลิปเต็ม] ไอซ์ รักชนก (ถาม) VS กัน จอมพลัง (ตอบ) ดรามาปัญหาชายแดนสู่การเมือง?

สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

15 hours ago 
#กรรมกรข่าวคุยนอกจอ #สรยุทธสุทัศนะจินดา #คุยนอกจอ

[คลิปเต็ม] ไอซ์ รักชนก (ถาม) VS กัน จอมพลัง (ตอบ) ดรามาปัญหาชายแดนสู่การเมือง?

https://www.youtube.com/watch?v=dt8Pv2agRqQ
.....

Pavin Chachavalpongpun
16 hours ago
·
ขอสรุปการปะทะวิวาทะระหว่าง สส ไอซ์ Rukchanok Srinork และกันจอมหลัง ในรายการ "คุยนอกจอ" ของคุณสรยุทธ์นะคะ ก่อนอื่น ดิชั้นขอพูดว่าถึงปรากฏการณ์ “กันจอมพลัง” ในฐานะเครื่องมือทางอำนาจและการเมืองของอุดมการณ์ชาตินิยม กันจอมพลังได้ก้าวข้ามจากการเป็นนักกิจกรรมไปสู่การเป็นตัวแสดงทางการเมืองเชิงสัญลักษณ์ ที่สะท้อนการผสานอำนาจของรัฐเงา เครือข่ายผลประโยชน์ และการใช้สื่อเป็นอาวุธ การวิเคราะห์นี้ของดิชั้น มุ่งเน้นการทำความเข้าใจบทบาทของกันจอมพลัง ในฐานะกลไกที่ถูกใช้ในการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาโครงสร้างอำนาจที่แท้จริงค่ะ
แต่ก่อนอื่น เรามาดูบทบาทของ สส ไอซ์ รักชนก ค่ะ ต้องยอมรับว่า ไอซ์กลายมาเป็นกลไกฝ่ายค้าน (ที่สำคัญอีก 1 คน) ในการจุดประกายการตรวจสอบอำนาจ การเผชิญหน้าในรายการคุยนอกจอ ซึ่งมี สส ไอซ์ ในฐานะผู้ตั้งคำถามหลัก ถือเป็นการใช้เวทีสื่อมวลชนเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ เพื่อตรวจสอบบุคคลสาธารณะที่ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม บทบาทของ สส ไอซ์ สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านนอกสภาฯ ที่มุ่งเน้นการตั้งคำถามเชิงโครงสร้างและข้อเท็จจริงทางการเมือง โดยเฉพาะ:
1. สส ไอซ์ไม่ได้สนใจแค่เรื่องดราม่าส่วนตัว แต่ผลักดันให้การสนทนามุ่งไปที่ประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน (สัญญาภาครัฐ, การใช้ทรัพยากรรัฐ) และความเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ
2. ต้องยอมรับว่า สส ไอซ์ ตั้งคำถามที่คม ชัด และมีข้อมูล ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนมวลชนที่สงสัยในความโปร่งใสทางการเงินและผลประโยชน์ทางการเมืองของกันจอมพลังได้อย่างดีเยี่ยม
3. สส ไอซ์ได้ตั้งคำถามที่ชัดเจนในประเด็นความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจระดับสูงในรัฐบาล ช่วยเปิดหน้าต่างให้สังคมสามารถวิเคราะห์ปรากฏการณ์ของกันจอมพลังในมิติทางการเมืองได้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การชื่นชมในฐานะ "ฮีโร่" เท่านั้น
...เอาล่ะ ขอขยายความข้างต้นในส่วนที่ สส ไอซ์ ตั้งคำถามต่อกันจอมพลัง ดังนี้ เรื่องแรกคือการที่กันจอมพลังกล่าวอ้างว่าตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏเรื่องการรับงานจากหน่วยงานภาครัฐ บริษัทของกันจอมพลังมีการรับสัญญางานเฉพาะเจาะจงจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้มีอำนาจที่กันจอมพลังใกล้ชิดกำกับดูแลอยู่ การได้รับงานในลักษณะที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีเจตนาหลีกเลี่ยงการประมูล รวมถึงการได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงและใช้ทรัพยากรของรัฐ เช่น เฮลิคอปเตอร์ เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ล้วนแล้วแต่เป็นการได้รับประโยชน์โดยตรงจากกลไกทางการเมืองและภาษีของประชาชน ซึ่งการกระทำเหล่านี้ทำให้ความพยายามในการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองไร้น้ำหนักลงอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง สส ไอซ์ ได้ชี้ถึงประเด็นนี้อย่างชัดเจน
...สส ไอซ์ยังพูดถึงเรื่องฐานอำนาจของกันจอมพลังที่มาจากศรัทธามวลชน ที่หลั่งไหลผ่านเงินบริจาคจำนวนมหาศาล ทว่าความศรัทธานี้กลับถูกบดบังด้วยความไม่โปร่งใสทางการเงิน การขาดการเปิดเผยยอดบริจาครวม รายละเอียดการใช้จ่าย และยอดคงเหลือ ถือเป็นการละเลยหลักธรรมาภิบาลพื้นฐานของการทำงานสาธารณะ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบและการดำเนินคดีทางกฎหมายในอนาคต ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับโครงการระดมทุนที่ไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินได้อย่างชัดเจน การบริหารจัดการเงินทุนโดยไม่มีกลไกตรวจสอบภายนอกที่ชัดเจนย่อมสร้างคำถามว่า ทุนก้อนนี้กำลังถูกใช้เพื่อเสริมสร้างความชอบธรรมให้แก่กิจกรรมทางการเมืองที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่
...นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามถึงการที่กันจอมพลังทำหน้าที่เป็น "อินฟลูเอนเซอร์ทางการเมือง" ที่ทรงอิทธิพลในการผลิตซ้ำและปลุกเร้าอุดมการณ์ชาตินิยมแบบอนุรักษ์นิยม การใช้ถ้อยคำที่ยึดโยงกับ "ความรักชาติ" หรือ "การเสียสละ" เพื่อสร้างเกราะป้องกันตัวเองและโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง (เช่น นักสิทธิมนุษยชน หรือกลุ่มที่ถูกมองว่าไม่รักชาติ) ทำให้มวลชนจำนวนมากตอบสนองด้วยความโกรธแค้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านการไตร่ตรองเหตุผล สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า กันจอมพลังคือเครื่องมือทางวัฒนธรรมที่กลุ่มอำนาจเดิมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองและชี้นำความคิดเห็นของสาธารณะในประเด็นที่อ่อนไหว
...อีกประเด็นที่ สส ไอซ์ เจาะได้ดีคือการที่กันจอมพลังนิ่งเฉยในประเด็นสแกมเมอร์ กันจอมพลังได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าพื้นที่ชายแดนอย่างง่ายดาย สส ไอซ์ชวนให้ตั้งคำถามถึงเครือข่ายอำนาจที่ค้ำจุน หรือรัฐเงาที่อยู่เบื้องหลัง ปฏิบัติการรถดูดส้วมและเพลงผีอาจถูกใช้ในการเบี่ยงเบนความสนใจสาธารณะไปจากปัญหาสแกมเมอร์ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาก็เป็นได้ สิ่งที่สำคัญกว่าคือความนิ่งเฉยของรัฐบาล โดยเฉพาะผู้มีอำนาจระดับสูงในพรรคการเมืองที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายผลประโยชน์ของกลุ่มสแกมเมอร์ การไม่แสดงความร่วมมือในการปราบปรามอย่างจริงจังทั้งที่มีอำนาจเต็ม ย่อมถูกตีความได้ว่าเป็นการปล่อยปละละเลย และเป็นการกระทำที่อำมหิตที่สุดต่อประชาชนที่ถูกหลอกและถูกทอดทิ้งให้เผชิญความทุกข์ทรมาน สส ไอซ์แตะเรื่องนี้ค่ะ
...โดยรวม สส ไอซ์เรียกร้องให้กันจอมพลัง ใช้ความกล้าหาญและความโกรธแค้นที่เคยมีต่อฝ่ายเห็นต่าง หันมาท้าทายและเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจที่นิ่งเฉยต่อปัญหาสแกมเมอร์ นั่นคือบทพิสูจน์ที่แท้จริงว่าเค้าต่อสู้เพื่อชาติและประชาชนอย่างไม่มีเงื่อนไขแค่ไหน หรือเป็นเพียงกลไกหนึ่งที่ถูกใช้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชนชั้นนำที่อำพรางอยู่ภายใต้ร่มเงาของวาทกรรมรักชาติ
...อันนี้ ให้ สส ไอซ์ 10 10 10 ส่วนสรยุทธ์ทำหน้าที่บาลานซ์ได้อย่างดีค่ะ


https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/24188349510840151
https://www.youtube.com/watch?v=dt8Pv2agRqQ