
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง
17 hours ago
·
ทั้งหมดที่เขาบอกจะยกเครื่องที่เขียนมาไม่รู้กี่ข้อต่อกี่ข้อเนี่ย มันเป็นสิ่งที่พรรคนี้เคยทำมาแล้ว แล้วจริงๆ มันก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย ในยุค เศรษฐา แพทองธาร ก็พูดมาแล้ว แล้วที่มันเป็นเรื่องน่าโหดร้ายมากเลยคือสิ่งที่เขาเคยพูดมาแล้วมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ
.
ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ กล่าวถึง พรรคเพื่อไทยที่เตรียมเปิดเวทีใหญ่ในวันที่ 7 ต.ค. 2568 ภายใต้สโลแกน “เพื่อไทยจะกลับมา” และ “ยกเครื่องเพื่อไทย” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และผลงาน ในรายการ The Politics เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568
#ThePolitics
·
ทั้งหมดที่เขาบอกจะยกเครื่องที่เขียนมาไม่รู้กี่ข้อต่อกี่ข้อเนี่ย มันเป็นสิ่งที่พรรคนี้เคยทำมาแล้ว แล้วจริงๆ มันก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย ในยุค เศรษฐา แพทองธาร ก็พูดมาแล้ว แล้วที่มันเป็นเรื่องน่าโหดร้ายมากเลยคือสิ่งที่เขาเคยพูดมาแล้วมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ
.
ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ กล่าวถึง พรรคเพื่อไทยที่เตรียมเปิดเวทีใหญ่ในวันที่ 7 ต.ค. 2568 ภายใต้สโลแกน “เพื่อไทยจะกลับมา” และ “ยกเครื่องเพื่อไทย” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และผลงาน ในรายการ The Politics เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568
#ThePolitics
.....
Pavin Chachavalpongpun
9 hours ago
·
ไดโนเสาร์มันไม่รู้ตัวเองหรอกว่ามันจะสูญพันธุ์...
ข้อความของแพทองธาร ในงาน “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” แสดงให้เห็นถึงความพยายามของพรรคในการสร้างภาพลักษณ์การฟื้นตัวและความพร้อมหลังเผชิญความผันผวนทางการเมืองครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม การประกาศ "ยกเครื่อง" ในครั้งนี้ ดิชั้นยังคงมีข้อสังเกตและคำวิจารณ์หลายอย่างที่เราต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ภายใต้คำประกาศที่ท้าทายว่า “เลือดเพื่อไทยจะไม่มีวันเหือดแห้ง” และการนำเสนอโครงสร้างพรรคใหม่ที่เน้นความโปร่งใสและกระจายอำนาจ ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตาค่ะ
...แต่อีกด้านหนึ่งกลับปรากฏว่า รายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ล็อตแรกที่เปิดตัวออกมายังคงเต็มไปด้วยบุคคลที่มีอายุมากและผู้เล่นหน้าเดิมๆ ซึ่งเมื่อรวมอายุของบรรดาแถวหน้าแล้วอาจมีตัวเลขรวมกันเกือบพันปี ก่อนสุโขทัยจะเกิดด้วยซ้ำ สถานการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามทันทีว่า พรรคจะ "ยกเครื่อง" ได้จริงหรือ หากยังคงพึ่งพาฐานอำนาจและประสบการณ์เดิมๆ เป็นหลัก ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะมีการตั้ง Moonshot Forum ซึ่งเป็นคำหรู เพื่อสร้างสรรค์นโยบายใหม่ แต่เนื้อหาที่นำเสนอออกมากลับเป็นแนวคิดเก่าๆ อย่างการเน้นเศรษฐกิจฐานราก การเกษตร และอัญมณี ที่เป็นนโยบายหลักของพรรคมานานแล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาเรื่อง "ยาแรง" หรือ "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ที่จะทำให้พรรคกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนยุคไทยรักไทย
...นอกจากนี้ การที่พรรคเผชิญกับภาวะที่สมาชิกคนสำคัญหลายคนตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคคู่แข่งอย่างภูมิใจไทย ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาเอกภาพภายในและการบริหารจัดการที่ขาดประสิทธิภาพในโครงสร้างเดิม การประกาศให้สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงและเป็นผู้เล่นหลักในยุคก่อน มาคุมทัพเลือกตั้ง ยิ่งชี้ชัดว่าพรรคยังคงต้องพึ่งพาคนเก่าและสูตรสำเร็จเดิมเพื่อสู้ศึก แถมอวดว่าตะได้ 200 เสียง เพราะพรรคส้มกระแสตก (ค่ะตกจริง จากการหนุนอีหนู แต่เพื่อไทยตกว่า ตั้งแต่ข้ามขั้ว เรื่องอังเคิล และนโยบายล้มเหลวอื่นๆ) แม้จะพยายามโชว์นวัตกรรมใหม่ๆ ก็ตาม ดังนั้น สำหรับดิชั้น การ "ยกเครื่อง" ที่ประกาศออกมา จึงดูเหมือนเป็นเพียงการปรับโฉมภายนอกและเสริมกำลังคนเก่าในตำแหน่งสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับฐานเสียงเดิม มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและแนวคิดอย่างถึงรากถึงโคนตามที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้
...ไดโนเสาร์ก็คือไดโนเสาร์ค่ะ
·
ไดโนเสาร์มันไม่รู้ตัวเองหรอกว่ามันจะสูญพันธุ์...
ข้อความของแพทองธาร ในงาน “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” แสดงให้เห็นถึงความพยายามของพรรคในการสร้างภาพลักษณ์การฟื้นตัวและความพร้อมหลังเผชิญความผันผวนทางการเมืองครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม การประกาศ "ยกเครื่อง" ในครั้งนี้ ดิชั้นยังคงมีข้อสังเกตและคำวิจารณ์หลายอย่างที่เราต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ภายใต้คำประกาศที่ท้าทายว่า “เลือดเพื่อไทยจะไม่มีวันเหือดแห้ง” และการนำเสนอโครงสร้างพรรคใหม่ที่เน้นความโปร่งใสและกระจายอำนาจ ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตาค่ะ
...แต่อีกด้านหนึ่งกลับปรากฏว่า รายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ล็อตแรกที่เปิดตัวออกมายังคงเต็มไปด้วยบุคคลที่มีอายุมากและผู้เล่นหน้าเดิมๆ ซึ่งเมื่อรวมอายุของบรรดาแถวหน้าแล้วอาจมีตัวเลขรวมกันเกือบพันปี ก่อนสุโขทัยจะเกิดด้วยซ้ำ สถานการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามทันทีว่า พรรคจะ "ยกเครื่อง" ได้จริงหรือ หากยังคงพึ่งพาฐานอำนาจและประสบการณ์เดิมๆ เป็นหลัก ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะมีการตั้ง Moonshot Forum ซึ่งเป็นคำหรู เพื่อสร้างสรรค์นโยบายใหม่ แต่เนื้อหาที่นำเสนอออกมากลับเป็นแนวคิดเก่าๆ อย่างการเน้นเศรษฐกิจฐานราก การเกษตร และอัญมณี ที่เป็นนโยบายหลักของพรรคมานานแล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาเรื่อง "ยาแรง" หรือ "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ที่จะทำให้พรรคกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนยุคไทยรักไทย
...นอกจากนี้ การที่พรรคเผชิญกับภาวะที่สมาชิกคนสำคัญหลายคนตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคคู่แข่งอย่างภูมิใจไทย ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาเอกภาพภายในและการบริหารจัดการที่ขาดประสิทธิภาพในโครงสร้างเดิม การประกาศให้สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงและเป็นผู้เล่นหลักในยุคก่อน มาคุมทัพเลือกตั้ง ยิ่งชี้ชัดว่าพรรคยังคงต้องพึ่งพาคนเก่าและสูตรสำเร็จเดิมเพื่อสู้ศึก แถมอวดว่าตะได้ 200 เสียง เพราะพรรคส้มกระแสตก (ค่ะตกจริง จากการหนุนอีหนู แต่เพื่อไทยตกว่า ตั้งแต่ข้ามขั้ว เรื่องอังเคิล และนโยบายล้มเหลวอื่นๆ) แม้จะพยายามโชว์นวัตกรรมใหม่ๆ ก็ตาม ดังนั้น สำหรับดิชั้น การ "ยกเครื่อง" ที่ประกาศออกมา จึงดูเหมือนเป็นเพียงการปรับโฉมภายนอกและเสริมกำลังคนเก่าในตำแหน่งสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับฐานเสียงเดิม มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและแนวคิดอย่างถึงรากถึงโคนตามที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้
...ไดโนเสาร์ก็คือไดโนเสาร์ค่ะ
ดูดสส.กันโหดมาก ส่งข่าวเปิดตัวกันตอนพรรคเดิมประกาศชื่อเป็นผู้สมัครเลยมั้้ง สคริปต์พิธีกรตัดชื่อออกไม่ทัน ยืนยิ้มแห้งกันยกจังหวัด pic.twitter.com/dXChiTaPOU
— MemeForwardParty (@MemeForward) October 7, 2025