Aun Theeraphat
September 8
·
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ จากการพลิกองค์กรขาดทุนสู่กำไรพันล้าน วันนี้เธอกำลังถูกทดสอบว่าจะพลิกเศรษฐกิจไทยได้หรือไม่ ?
เวลาใครพูดถึง “หญิงเก่ง” ในโลกธุรกิจไทย ชื่อหนึ่งที่จะต้องถูกหยิบขึ้นมาเสมอ คือ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในฐานะ “แม่ทัพหญิงแห่งดุสิตธานี” ที่พวกเราชาวตลาดหุ้นรู้จักกันดี
วันนี้ คุณศุภจีถูกทาบทามขึ้นนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตำแหน่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องเกียรติยศ แต่เป็นบทพิสูจน์ใหม่ว่าจะนำประสบการณ์กว่า 30 ปีในธุรกิจระดับโลก มาสร้างผลลัพธ์เชิงนโยบายได้จริงหรือไม่
จุดเริ่มต้นและการศึกษา
• จบจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา
• จบ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• บินไปต่อ MBA สาขาการเงินและการบัญชีระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย Northrop รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ
• เสริมเขี้ยวเล็บด้วยหลักสูตรผู้บริหารชั้นสูง DCP, ACP และ นมธ. รุ่น 1
พื้นฐานด้าน “มนุษยศาสตร์” ผสานกับ “การเงินระดับโลก” ทำให้มีทั้งความเข้าใจผู้คน และความเข้มข้นด้านตัวเลขการเงิน
===
IBM กับตำนานหญิงเหล็กวัย 37
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ เริ่มต้นทำงานกับ IBM หลังเรียนจบปริญญาโท เติบโตในตำแหน่งต่าง ๆ จนก้าวขึ้นมาเป็น กรรมการผู้จัดการ IBM ประเทศไทย ในวัยเพียง 37 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ขององค์กร
ต่อมา เธอยังได้รับคัดเลือกให้ไปทำงานในระดับโลก ในฐานะ ผู้ช่วย CEO ของ IBM ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากสำหรับผู้บริหารจากเอเชีย
นี่คือบทพิสูจน์แรกว่า คุณศุภจี ไม่ได้เป็นเพียง “หญิงเก่ง” แต่คือ “มืออาชีพที่ยืนหยัดบนเวทีโลกได้อย่างแท้จริง”
===
ไทยคม พลิกขาดทุน 5 ปีสู่กำไรพันล้าน
จากเทคโนโลยีสู่ดาวเทียม คุณศุภจีก้าวมานั่งเก้าอี้ซีอีโอไทยคมในช่วงที่บริษัทจมขาดทุนต่อเนื่อง 5 ปีเต็ม
ผลลัพธ์คือ
• พลิกเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาสแรก
• ปีเดียวปิดกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท โต +548% YoY
• คว้ารางวัล “ผู้บริหารดาวเทียมยอดเยี่ยมแห่งปี” จาก APSCC
นี่คือฝีมือการฟื้นองค์กรแบบ textbook ที่นักบริหารทั่วโลกยกเป็น case study
=====
ดุสิตธานี ซีอีโอคนนอกตระกูลคนแรกใน 70 ปี
ปี 2559 คุณศุภจีถูกดึงเข้ามานำทัพ ดุสิตธานี บริษัทโรงแรมระดับตำนาน ที่ก่อตั้งมากว่า 70 ปี
• ซีอีโอคนแรกที่ไม่ได้มาจากตระกูลดุสิต และไม่ได้มี background ในวงการโรงแรม
• แต่เพียง 2 ปีแรก พลิกฟื้นกำไร 290 ล้านบาท (ปี 2561) และ 320 ล้านบาท (ปี 2562)
• ได้รับรางวัล ASEAN Entrepreneur Award 2019
ฝ่าวิกฤติ COVID-19 เมื่อโรงแรมปิดแต่ธุรกิจไม่หยุด
ขณะที่โรงแรมทั่วโลกเจ็บหนัก ดุสิตธานีภายใต้การนำของคุณศุภจีเลือก “สู้เชิงรุก”
• ลดต้นทุน จัดการสภาพคล่อง
• สร้างรายได้ใหม่ เช่น อาหารเดลิเวอรี่, บริการแม่บ้าน, Dusit Care Card
• เปิด Giving Project สอนทำอาหารออนไลน์ ส่งอาหารให้โรงพยาบาล
นี่ไม่ใช่แค่การบริหารธุรกิจ แต่คือการบริหาร “ความหวัง” ให้คนทั้งองค์กรอยู่รอด
แผน 9 ปี ฐาน ขยาย เก็บเกี่ยว
คุณศุภจีวางแผนธุรกิจดุสิตไว้ชัดเจน
• ช่วงแรก “สร้างฐาน”
• ต่อมา “ขยาย”
• ปลายทาง “เก็บเกี่ยว”
ปี 2568 - 2569 ตั้งเป้า รายได้โต 20 - 25% ต่อปี
และพร้อมรับรู้รายได้ก้อนใหญ่จากโครงการ Dusit Residences มูลค่า 16,000 ล้านบาท
ที่สำคัญ คุณศุภจีไม่อยากให้ดุสิตพึ่งพาโรงแรมเพียงอย่างเดียว จึงเดินหน้าแผน IPO ธุรกิจอาหาร ลดสัดส่วนรายได้จากโรงแรม 90% เหลือราว 67%
วิกฤติผู้ถือหุ้น ซื้อหุ้นเองเพื่อยืนยันความเชื่อมั่น
ปี 2568 เกิดแรงกระเพื่อมใหญ่ เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่อนุมัติงบการเงิน
คุณศุภจีตอบสนองด้วยการ ซื้อหุ้นดุสิต 100,000 หุ้น ในราคา 7.60 บาท เพื่อแสดงความมั่นใจต่ออนาคต
นี่คือ gesture ที่นักลงทุนเรียกว่า “Skin in the game” ลงทุนด้วยเงินตัวเอง ยืนข้างวิสัยทัศน์ที่ประกาศออกมา
เกียรติยศและการยอมรับระดับโลก เช่น
• Forbes Thailand “Power Businesswoman 2023”
• Forbes Asia “50 Over 50 Asia” ปี 2024
• ASEAN Entrepreneur Award 2019
• ผู้บริหารดาวเทียมยอดเยี่ยม APSCC
ทำไมถึงถูกทาบทามนั่ง รมว.พาณิชย์?
เพราะคุณศุภจีคือ “นักแก้ปัญหา” ที่พิสูจน์มาแล้วในสามอุตสาหกรรมใหญj
• เทคโนโลยี (IBM)
• ดาวเทียม (ไทยคม)
• โรงแรม–ท่องเที่ยว (ดุสิตธานี)
และในทุกแห่ง คุณศุภจีทำสิ่งเดียวกันคือ “ฟื้นองค์กรที่คนมองว่าไปต่อไม่ได้” ให้กลับมายืนได้ และเติบโต
=====
หากคุณศุภจี เป็น รมว.พาณิชย์ นโยบายที่ควรจับตามีอะไรบ้าง
เส้นทางของ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ พิสูจน์แล้วว่าถนัด “พลิกเกมธุรกิจ” จาก IBM สู่ไทยคม สู่ดุสิตธานี
แต่บนเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ นี่คือสนามใหม่ที่ต้อง “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย”
1. FTA (Free Trade Agreement) ยุคใหม่
• ด้วยแบกกราวด์จาก IBM และการทำงานระดับโลก คุณศุภจีมี “ความเข้าใจโครงสร้างการค้าโลก” และแนวคิดเชิงบูรณาการ
• หากเดินเกม FTA รุ่นใหม่ ไทยอาจได้เห็นการเร่งปิดดีลกับตลาดสำคัญ เช่น UAE, EU, และ Indo-Pacific
• เปิดตลาดใหม่ให้ผู้ส่งออกไทย ลดข้อจำกัดด้านภาษี และดึง supply chain มาปักหลักในไทย
2. ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร Thailand Kitchen of the World เวอร์ชัน 2.0
• ดุสิตธานีสอนเธอเรื่อง “อาหาร” และการสร้างแบรนด์ไทยในเวทีโลก
• หากนำประสบการณ์นี้มาสู่การเมือง การผลักดัน อาหาร-เกษตรแปรรูป ไปสู่ตลาดโลกอาจเป็น Key Strategy
• จับตาการยกระดับมาตรฐาน GAP, Organic, และ branding “Thai Food Premium”
3. SME Transformation จากท้องถิ่นสู่สากล
• จุดแข็งของคุณศุภจีคือ การทำให้ธุรกิจเล็กๆ รอดในวิกฤติ (ดูจาก Dusit Care Card, Giving Project)
• น่าจะดันนโยบายสนับสนุน SME Digital Transformation เช่น e-commerce, cross-border platform, การเข้าถึงแหล่งทุน
• เป้าหมาย: SMEs ไทยไม่ใช่แค่รอด แต่ “ไปต่างประเทศได้”
4. ดึงดูด FDI + สร้างความมั่นใจต่อต่างชาติ
• วิธีคิดแบบ “Skin in the game” ลงเงินเองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น อาจสะท้อนมายังการดึง FDI (Foreign Direct Investment)
• นโยบายที่จับ อาจเน้น “ความโปร่งใส + ความมั่นคงเชิงนโยบาย” เพื่อให้ต่างชาติเชื่อมั่นในการลงทุนในไทย
5. พาณิชย์ดิจิทัลและการค้าอนาคต
• คุณศุภจีมาจากสายเทคโนโลยี (IBM) คาดว่าจะผลักดัน “Digital Trade, Cross-border eCommerce, Blockchain ใน Supply Chain”
• ไทยอาจได้เห็น Sandbox การค้าดิจิทัล และมาตรฐานใหม่ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันกับจีน-เวียดนามได้
บทสรุป
“คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์” ไม่ได้เป็นแค่ผู้หญิงเก่งในวงการธุรกิจ แต่คือ สัญลักษณ์ของผู้นำที่ไม่เคยถอยแม้ในวิกฤติ
จากเด็กหญิงที่เรียนสังคมวิทยา จนถึงซีอีโอ IBM, ฟื้นไทยคม, พลิกดุสิต และวันนี้ก้าวสู่เวทีการเมือง
คำถามคือ
เมื่อเธอพิสูจน์ตัวเองมาแล้วทุกสนามธุรกิจ บนเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ ที่เต็มไปด้วยแรงเสียดทาน และระยะเวลาเพียง 4 เดือนจะเป็นเวทีที่พิสูจน์ได้หรือไม่ว่า “การแก้ปัญหาเชิงธุรกิจ” สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้จริง?
https://www.facebook.com/photo?fbid=1149024867119127&set=a.101772728511018
