วันพฤหัสบดี, กันยายน 11, 2568

ปลาหมอคางดำ แทนที่จะสืบสวนลงโทษผู้ก่อปัญหา คนแฉกลับโดนเอาผิด

https://www.facebook.com/biothai.net/posts/pfbid0SUuzfhqEkdaHCBnE4A11myhbgM3mN3LAHfe7qLBf9M2fUdG8k6Fr4nCC5zwUvayol

BIOTHAI
..........(1)..........
บันทึกวันที่ 10 กันยายน 2568 อัยการนนท์มีคำสั่งฟ้อง เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี และมูลนิธิชีววิถี ที่เปิดเผยที่มาของการระบาดปลาหมอคางดำ
++++++
วันนี้ (10 ก.ย. 2568) เครือข่ายเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ จากบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และสมุทรสงคราม เป็นตัวแทนเกษตรกรจาก 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ พร้อมทั้ง เลขาธิการ สภาองค์กรของผู้บริโภค ผู้อำนวยการ มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) เลขาธิการ และทีมทนายความจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ทีมทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ และมูลนิธิชีววิถี ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี หลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้อง จากการแจ้งความดำเนินคดีของบริษัทซีพีเอฟในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
.
ซีพีเอฟฟ้องนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ และมูลนิธิชีววิถี อันเนื่องมาจากการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของปลาหมอคางดำที่เชื่อมโยงกับฟาร์มยี่สาร ของซีพีเอฟที่ จ.สมุทรสงคราม ในระหว่างการประชุมวิชาการเพื่อแก้ปัญหาปลาหมอคางดำเมื่อเดือนกันยายน ปี 2567
.
ปลาหมอคางดำถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2553 โดยซีพีเอฟ เพื่อนำมาเลี้ยงที่ฟาร์มยี่สาร สมุทรสงคราม ก่อนที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวพบการแพร่ระบาดของปลาดังกล่าวในช่วงปี 2554 และเริ่มกระจายออกไปอย่างกว้างขวางในปี 2560 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในเขตน้ำกร่อยอย่างหนักใน 4 จังหวัดอ่าวไทยตอนบน
.
ชาวบ้านได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในปี 2560 และการศึกษาของกสม.พบว่า บริษัทซีพีเอฟละเมิดหลักเกณฑ์ความปลอดภัยทางชีวภาพ บริษัทปฏิเสธว่าปลาหมอคางดำที่บริษัทนำเข้ามาได้ตายไปทั้งหมดภายในไม่กี่วัน และนำตัวอย่างปลาส่งให้กรมประมง แต่กรมประมงปฏิเสธว่าไม่ได้มีการส่งตัวอย่างและไม่ปรากฎหลักฐานการส่งคืนจากฐานข้อมูลของกรมประมง
.
มูลนิธิชีววิถีได้นำเสนอข้อมูลซึ่งอ้างอิงข้อมูลหลายรายการเพื่อชี้ว่าการระบาดของปลาหมอคางดำมีศูนย์กลางอยู่ที่ฟาร์มยี่สารของซีพีเอฟ ในงานวิชาการที่จัดขึ้นในปี 2567 จนเป็นที่มาของการฟ้องร้องคดีต่อมูลนิธิ
.
คณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้แต่งตั้ง "คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย" พบข้อมูลสำคัญหลายประการที่บ่งชี้ที่มาของการระบาดของปลาหมอคางดำสอดคล้องกับการเผยแพร่ข้อมูลของมูลนิธิชีววิถี
.
ปัจจุบันปลาหมอคางดำระบาดไปแล้วกว่า 19 จังหวัด สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตน้ำกร่อย จากการประเมินเบื้องต้นโดยผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของสมาคมส่งเสริมกิจการประมงไทยอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท/ปี ไม่รวมผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และบริการทางนิเวศอื่นๆ


BIOTHAI
..........(1)..........
องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร เช่น Protection International, Greenpeace International, GRAIN, มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา รวมทั้งคณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาชาติ ได้ให้ความสนใจคดีนี้อย่างมาก เนื่องจากเข้าข่ายเป็น SLAPP ( Strategic Lawsuit Against Public Participation) หรือ คดีฟ้องร้องเชิงกลยุทธ์เพื่อยับยั้งการมีส่วนร่วมของสาธารณะ ซึ่งผู้มีอำนาจ ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำให้ นักเคลื่อนไหว นักข่าว หรือประชาชนทั่วไปที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หรือตรวจสอบการทำงานของผู้มีอำนาจต้องหยุดชะงักลง
.
ศาลจังหวัดนนท์ได้ให้ประกันตัวในวงเงิน 60,000 บาท (คดีละ 30,000 บาท) โดยศาลได้นัดหมายเพื่อแจ้งการคุ้มครองสิทธิในวันที่ 22 เดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้
.
อนึ่งคณะทำงานเกี่ยวกับ SLAPP ของหลายองค์กรและตัวแทนของมูลนิธิชีววิถีจะเดินทางไปให้ข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญพิเศษขององค์การสหประชาชาติ เกี่ยวกับการฟ้องร้องของบริษัทเอกชนดังกล่าวในสัปดาห์หน้า และจะมีการนำเสนอการฟ้องร้องปิดปากกรณีปลาหมอคางดำดังกล่าวในที่ประชุมใหญ่ขององค์กรสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ในปลายปีนี้