วันพุธ, กันยายน 11, 2567

ผู้ให้เช่าศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ยันเด็กเมียนมาร้องเพลงชาติไทยด้วย ทุกคนรักประเทศไทย ย้ำเจตนาเพื่อเปิดพื้นที่ให้โอกาสทางการศึกษา วอนหยุดล่าแม่มด


The Reporters
19 hours ago 
·
UPDATE: ผู้ให้เช่าศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ยันเด็กเมียนมาร้องเพลงชาติไทยด้วย ทุกคนรักประเทศไทย ย้ำเจตนาเพื่อเปิดพื้นที่ให้โอกาสทางการศึกษา วอนหยุดล่าแม่มด
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 The Reporters จัดวงพูดคุยทำความเข้าใจกรณีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ให้กับเด็กที่เป็นลูกแรงงานข้ามชาติ โดยนายรัฐภัทร์ พัฒนาศิริรักษ์​ผู้ให้เช่าสถานที่ ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชี้แจงถึงกรณีการถูกปิดศูนย์เป็นครั้งแรก
นายรัฐภัทร์ เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ซึ่งเดิมสถานนี้แห่งนี้เคยประกอบกิจการเป็นโรงเรียนเอกชน และยุติกิจการไปเมื่อปี 2562 ระหว่างที่พื้นที่นี้ไม่ได้ใช้งาน เคยมีส่วนราชการมาขอเช่าใช้พื้นที่ เช่น กรมการจัดหางาน ทำให้มีแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา คุ้นเคยกับสถานที่เพราะเคยมาต่อใบอนุญาตจำนวนมาก จนกระทั่งประมาณเดือน กรกฎาคม 2565 มีครูและผู้ปกครองชาวเมียนมา แจ้งมาว่าจะขอใช้สถานที่เพื่อสอนหนังสือให้เด็ก วันที่มานัดเจอ ตนเองก็ลังเลว่าให้ใช้สถานที่หรือไม่ ผู้ปกครองคนหนึ่งกล่าวว่า
"นายหัวให้เช่าที่เถอะ ตอนนี้เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ ไปเรียนอยู่ในสวนปาล์ม สวนยาง ไม่ปลอดภัย ขอให้เช่าที่เถอะ เด็กไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนถูกปิดตา เหมือนคนตาบอด เป็นครูและผู้ปกครองชาวเมียนมาที่พูดไทยได้มาพูดกับผม ผมจึงตัดสินใจให้เช่าใช้เพื่อสอนหนังสือเด็ก เหมือนเช่าห้องใช้ห้องประชุม ประมาณ 150 คน ซึ่งในวันแรกเด็กมาเยอะกว่าที่คิดไว้ประมาณ เกือบ 200 คน"
นายรัฐภัทร์ กล่าวถึงที่มาที่ให้ครูและผู้ปกครองชาวเมียนมา เช่าสถานที่ให้เด็กที่เป็นลูกหลานแรงงานชาวเมียนมา ได้เรียนหนังสือ ซึ่งเมื่อสอบถามไปเขามีปัญหาหลายอย่างที่มาขอเช่าสถานที่ ตนเองจึงคุยกับครูและผู้ปกครองให้ไปแจ้งส่วนราชการให้รับทราบ ซึ่งช่วง 2 เดือนแรก ตนเองและครู ตระเวนไปขอเข้าไปส่วนราชการไม่ต่ำกว่า 4-5 แห่ง บางส่วนเข้าใจและแสดงความห่วงใยในเรื่องความมั่นคง บางคนบอกว่าดี อย่างน้อยให้เด็กได้เรียนหนังสือ
"ผมถามซยา หรือครูชาวเมียนมาว่า ก่อนหน้านี้ดูแลเด็กอย่างไร ซยา เคยเป็นครูในเมียนมา เมื่อมาไทยก็เป็นแค่ลูกจ้าง เป็นกรรมกร เมื่อมีความสามารถ ผู้ปกครองจึงฝากเด็กมาเรียน ตอนเลิกงาน ซยาสอนอยู่ในสวนปาล์ม สอนไปสักพักผู้ปกครองก็ฝากเด็กมาเรื่อย ๆ ฝนตกเด็กเข้าร่ม ไม่มีห้องน้ำ ผมไปดูสวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มเล็ก ๆ เด็กไม่มีที่สอนหนังสือ เป็นจุดเริ่มต้นให้ซยาหรือ ครูคนนี้ มาสอนหนังสือ"
นายรัฐภัทร์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นตนเองและครูชาวเมียนมาได้เข้าพบส่วนราชการ เพื่อหาแนวทางที่จะเปิดศูนย์การเรียนให้ถูกต้อง ซึ่งดำเนินการมาเรื่อย ๆ และมีข้อร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ก็มีการเชิญประชุมกับส่วนราชการ ครูชาวเมียนมาก็เคยประชุมกับส่วนราชการ มีการแนะนำให้ศูนย์การเรียน จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน ทางครูก็ขอจัดตั้งไปแล้ว ก็พิจารณาหลักสูตรการเรียน แต่แผนการเรียนไม่ผ่านการอนุมัติ ทางศูนย์ฯได้ทำหนังสือไปพยายามทำให้ถูกต้อง และระหว่างนี้ส่วนราชการมาตรวจเยี่ยมหลายครั้ง หน่วยงานสาธารณสุข ก็มีขอฉีดวัคซีน ยากำจัดยุงลาย ยืนยันได้ว่าศูนย์การเรียนแห่งนี้อยู่ในหูในตาของส่วนราชการ ในสุราษฎร์ธานี และชาวบ้านมาโดยตลอด
"หลังจากนั้นมีการพูดคุยเป็นระยะ ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดก็พูดคุยจะดำเนินการให้ถูกต้อง ครั้งสุดท้าย เรายื่นหนังสือแจ้งความประสงค์การจัดตั้งศูนย์การเรียน ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 23 ส.ค.67 ได้ยื่นขอความประสงค์ เปลี่ยนเป็นศูนย์การเรียนเมตตาธรรม แต่ถูกปฏิเสธไม่รับเอกสาร ด้วยอ้างเหตุว่ายังไม่อยู่ในช่วงการพิจารณาเอกสาร หากเอกสารหายไม่รับผิดชอบ จนเกิดเหตุเรื่องคลิปร้องเพลงชาติ เมียนมา หลุดจนนำไปสู่การปิดศูนย์การเรียน"
นายรัฐภัทร์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นผู้ให้เช่าสถานที่ไม่ได้จัดตั้งกับเขา แต่รับรู้มาโดยตลอด เรารับรู้รับทราบมาตลอด ขอยืนยันต่อประเทศไทยว่าศูนย์การเรียนแห่งนี้ไม่ได้ลักลอบเปิด และไม่เคยมีคำสั่งปิดมาก่อน และไม่เคยปิดมาอีก 10 ครั้งอย่างที่ถูกกล่าวหา ยังคงเปิดมาโดยตลอด
"ระหว่างดำเนินการตลอด 2 ปี ครูใหญ่โทรหาตลอด ว่าขอห้องเพิ่ม เพราะเด็กมากขึ้น เหตุที่ให้เช่าเพิ่ม เพราะเด็กเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าเด็กเหล่านี้ขาดโอกาสจริง ๆ ผมเป็นเจ้าของสถานที่ ที่นี่เคยเป็นห้องเรียนมาก่อน ผมไม่อยากให้ห้องเรียนที่เคยให้การเรียนเด็ก ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ก็ย้ำไปว่าให้ใช้สำหรับเด็กเท่านั้น"
นายรัฐภัทร์ ชี้แจงกรณีที่เด็กร้องเพลงชาติเมียนมา และกลายเป็นกระแสดราม่าในโซเซียลมีเดียนั้น ยืนยันว่า ในสภาพจริงทุกวันเด็กมีการร้องเพลงชาติไทย ตามด้วย เพลงชาติเมียนมา และ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สวดมนต์ นั่งสมาธิ 20 นาที ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากครูใหญ่ ถ่ายคลิปลงใน Tiktok เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาและคลิปถูกแชร์ไปในสื่อเมียนมา และถูกแชร์โดยสื่อไทย และนำไปตัดต่อข้อความให้เหลือท่อนเดียว จนเกิดปรากฏการณ์ที่เห็นตอนนี้
"ผมในฐานะผู้เช่าสถานที่ ต้องขอโทษที่ไม่รู้ว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะปกติจะไปโรงเรียนในภายหลังการเข้าเรียนตอนเช้า และเข้าใจดีว่าคลิปนี้อาจทำให้คนไทยหลายส่วนไม่สบายใจกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่หากเราคิดว่ามันคือการผสมผสานทางวัฒนธรรม เด็กมีสิทธินึกถึงเรื่องชาติของเขา อย่างผมมีเชื้อสายไทย-จีน-มอญ ผมก็ไม่ใช่คนไทยแท้ แต่เรารักประเทศไทย รักชาติไทย เพราะการศึกษา ถ้าบรรพบุรุษผมในเวลานั้นไม่ได้รับการศึกษาจากประเทศไทยผมก็คงไม่มีวันนี้ และมาช่วยเพื่อนมนุษย์ต่อ ทำไมเราไม่ให้การศึกษาเด็กเหล่านี้มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และพัฒนาประเทศไทย"
นายรัฐภัทร์ กล่าวว่าถ้าเราเอาแค่ร้องเพลงชาติมาเป็นชนวนเหตุจะเป็นการล่าแม่มดไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าใครจะเข้ามาในประเทศไทยแต่ถ้าคิดว่าเป็นการผสมผสานวัฒนธรรม ในการอยู่ร่วมกับประเทศไทย
"พวกเขารักประเทศไทย เขารักคนไทย ไปพบเขาทุกครั้งเขาจะดีใจมาก ตั้งแต่วันแรก ผู้ปกครองขอบคุณผม เพราะเขาลำบากมากที่อยู่ในประเทศนี้ ลูก ๆ ไม่ได้เรียนหนังสือ เขาขอบคุณมาก ที่ลูกได้เรียนหนังสือ"
นายรัฐภัทร์ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีกิจกรรมสำคัญของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นวันเฉลิมฯ วันชาติที่เกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ ทำเหมือนคนไทย มีการวางพานพุ่ม เคารพพระมหากษัตริย์ไทย มีพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับชุมชน ไปช่วยชุมชนเก็บขยะ วันปีใหม่ เดินทักทายชาวบ้าน กิจกรรมจิตอาสา ก็มี เวลามีงานต่าง ๆ ทางศูนย์การเรียนฯ ยินดีส่งเด็กไปร่วมแสดง เขาจัดกิจกรรมที่ศูนย์การเรียน เหมือนวิชาการ มีชุดการแสดงของไทย ให้เด็กมาโชว์ความสามารถ
"ผมกล้าบอกกับทุกคนว่าเขารักประเทศไทย เขารู้สึกขอบคุณประเทศไทย ในวันที่ครูถูกสอบสวน ผมพูดภาษาเมียนมาว่า อาบีแดะ ทำให้ครู หรือซยามะ ยกมือขอบคุณด้วยน้ำตา เพราะได้กำลังใจ ผมจึงให้กำลังใจครูทุกคนครับ" นายรัฐภัทร์​ กล่าวย้ำ
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ

(https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/pfbid0R4N6Jtj7gyTBTLNUZHDZAPXwEqo3QMHwdy3ZTSpz8Z25zRpgGTfzTQdk3Chsz7Eol)