วันพฤหัสบดี, เมษายน 20, 2566

ใครที่บ่นเรื่องค่าไฟแพง อย่าพลาดเรื่องนี้ ในวิกฤติของเพื่อนร่วมชาติก็เป้นโอกาสของบรรดานายทุนพลังงานหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี หรือเสี่ยกลาง เจ้าของ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF

ภาพจากประชาชาติธุรกิจ

Thanapol Eawsakul
20h

คนไทยช่วยลงขันส่งให้ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี หรือเสี่ยกลาง เจ้าของ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี หรือ GULF เป็นเศรษฐีอันดับที่ 161 ของโลกจากการจับอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ประจำปี 2565
.................
เห็นหลายคนบ่นเรื่องค่าไฟแพง แต่ในวิกฤติของเพื่อนร่วมชาติก็เป้นโอกาสของบรรดานายทุนพลังงานหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี หรือเสี่ยกลาง เจ้าของ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF
ถ้าดูประวัติการทำธุรกิจของสารัชถ์ รัตนาวะดี นับว่าน่าสนใจมาก
ย้อนหลับไปเพียง 29 ปีที่แล้ว สารัชถ์ รัตนาวะดี ก่อตั้ง บริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า ในปี 2537 ขณะอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น โดยสารัชถ์ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่
จากบริษัทพลังงาน ถ่า่นหิน ที่ก่อตั้งในรัฐบาลชวน หลีกภัยสมัยแรก แต่มาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในสมัยรัฐบาบทักษิณชินวัตรเมื่อ
กลุ่มกัลฟ์เข้ามามีส่วนร่วมในช่วงเริ่มต้น คือโรงไฟฟ้าบ่อนอก ที่ ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าการลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ซี่งบริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด เซ็นสัญญากับ กฟผ. ในเดือนกรกฎาคม 2540 เพื่อซื้อขายไฟฟ้าเป็นเวลา 25 ปี มีกำลังการผลิต 734 เมกะวัตต์ ใช้ถ่านหินที่มีปริมาณกำมะถันต่ำเป็นเชื้อเพลิง กำหนดก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ ส่งไฟฟ้าเข้าระบบ กฟผ. ในปี 2546
แต่ผลจากการถูกชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านอย่างหนัก ทำให้โครงการเดินหน้าไม่สำเร็จ รัฐบาลของนายทักษิณ จึงตัดสินใจยกเลิกโรงไฟฟ้าบ่อนอก
จากวิกฤติเป้นโอกาเมื่อ สารัชถ์ว โดยต่อรองขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2) พร้อมเปลี่ยนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาใช้ก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,468 เมกะวัตต์ แลกกับการไม่เรียกค่าเสียหายจากภาครัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท
จากนั้นกัลฟ์ก็เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าและขายให้กับภาครัฐอยู่เรื่อย ๆ ทั้งโรงไฟฟ้าแก่งคอย 1 จ.สระบุรี มีกำลังการผลิต 107 เมกะวัตต์ ในปี 2541 โรงไฟฟ้าสมุทรปราการ มีกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ ในปี 2542 โรงไฟฟ้าหนองแค มีกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ ในปี 2543 ฯลฯ
ปัจจุบัน กัลฟ์มีโรงไฟฟ้าซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติ ทั้งที่ให้บริการเชิงพาณิชย์และและอยู่ระหว่างก่อสร้าง ในประเทศ 25 โรง มีกำลังการผลิต 5,568 เมกะวัตต์ โดย 88% ขายให้กับ กฟผ. และ 12% ขายให้ลูกค้าอุตสาหกรรม และในปี 2570 กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 12,528 เมกะวัตต์ และในต่างประเทศ อีก 1 โรง อยู่ที่ประเทศโอมาน มีกำลังการผลิต 326 เมกะวัตต์ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
สารัชถ์ก่อตั้ง "บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์" จำกัด ขึ้นมาในปี 2554 เพื่อเป็น holding company ถือหุ้นบริษัทต่างๆ ในเครือ พร้อมกับขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ในราคาหุ้นละ 45 บาท ช่วงธันวาคม 2560 เพื่อระดมเงินทุน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ผลคือ ไม่เพียงทำให้ GULF กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดติดท็อปเทนของประเทศหลายปีติดต่อกัน ยังทำให้ชื่อของนายสารัชถ์ติดโผ มหาเศรษฐีไทย"ของฟอร์บสเป็นครั้งแรกในปี 2561 ในอันดับ 7 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.06 แสนล้านบาท
สารัชถ์ รัตนาวะดี แม่ทัพกัลฟ์ ผู้กว้างขวางในธุรกิจพลังงาน และมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของไทย
https://www.bbc.com/thai/thailand-58111226...
เมื่อมาดูความมั่งคั่งของ สารัชถ์ รัตนาวะดี ปรากฏในนิตยสารฟอร์บส ในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นครั้งแรกในปี 2561 ด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 1.06 แสนล้านบาท ปีเดียวกับที่เขาถูกจัดอันดับว่าเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ของประเทศ จากการจัดอันดับโดยวารสารการเงินธนาคาร รองจาก นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ จากกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ
.
ทรัพย์สินของสารัชถ์เพิ่มขึ้นเป็น 1.66 แสนล้านบาทในปี 2562 แตะหลัก 2 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรกในปี 2563 และมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 4.29 แสนล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับ 1 แซงหน้า ธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือซีพี และเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งกลุ่มช้าง เป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี 2565 ด้วยมูลค่า ‘หุ้น’ ที่สารัชถ์ลงทุนไว้มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเลือกเทกโอเวอร์ได้ถูกข้าง ขณะที่สองเจ้าสัวเชื้อสายจีนโพ้นทะเลนั้น กิจการหลายอย่าง ไม่ได้มีมูลค่าหุ้นหวือหวาเท่ากับสารัชถ์ ซ้ำยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
.
การเติบโตของ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ บนเส้นทาง ‘มหาเศรษฐี’ ไทย
https://www.facebook.com/.../a.16365331.../3055487494742934/
การเติบโตชองทุนพลังงานไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีอะไรเลย แต่ผลมาจากนโยบายรัฐที่เอื้อกลุ่มทุนพลังงาน
จากการอภิปรายของเบญจา แสงจันทร์ เรื่อง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan: PDP) ก็ถูกเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างผิดปกติ โดยมีการแก้ไขในรายละเอียดอยู่บ่อยครั้ง และปัจจัยที่ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองล้นเกิน จนประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพง อยุ่ในปัจจุบันนี้
ซึ่งภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เบญจา และพรรคก้าวไกล ถูกฟ้องร้องรในข้อหาหมิ่นประมาทจาก‘กรรมการบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)’ เป็นเงินถึง 100 ล้านบาท
พลัง(งาน)ประชารัฐ
https://www.moveforwardparty.org/news/mfpcensure2021/2231/
เอื้อนายทุนไม่ลืมหูลืมตา จนคนไทยจ่ายค่าไฟแพงกว่าสิงคโปร์!
https://www.youtube.com/watch?v=eDqNeCoM9wQ...
แต่ทั้งหมดนี้ ความร่ำรวยของ สารัชถ์ รัตนาวะดี จนขึ้นมาเป็นเศรษฐีอันดับที่ 161 ของโลกจากการจับอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ประจำปี 2565
เป็นผลมาจากการลงขันจ่ายค่าไฟของคนไทยทุกคน

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/6376684269065025)
.....
ภัควดี วีระภาสพงษ์
16h ·
มันโตก้าวกระโดดในช่วง 8 ปีของประยุทธ์นี่แหละ