พันเอกรุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกทัพภาค ๓ แก้ตัวแทนสัสดีอำเภอเมืองลำพูนว่า “ได้อธิบายให้ผู้ปกครองทราบถึงข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ ตามภาษาพูดที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ” แล้ว ควรทำอย่างไร แต่ “ทางญาติบอกว่ายุ่งยาก”
ที่ว่ายุ่งยากนั้นอย่างไร เขียนด้วยภาษาไทยที่เข้าใจง่ายก็คือ ถ้าป่วยจนไม่สามารถเดินทางไป ‘รับการตรวจเลือก’ ด้วยตนเองได้ ให้ผู้ปกครองนำเอกสารการป่วยและใบรับรองแพทย์ ไปแจ้งต่อกรรมการในวันตรวจเลือก จะได้รับการอนุโลม
แต่ก็ยังต้องไปตรวจเลือกใหม่ในครั้งต่อไป ถ้าไม่สามารถไปตรวจเลือกได้เพราะเป็นบุคคล “จำพวกที่ ๓” คือมีร่างกายไม่แข็งแรงพอเป็นทหารได้ เนื่องจากป่วยจนไม่สามารถรักษาให้หายได้ภายใน ๓๐ วัน ถึง ๓ ครั้งสามคราละก็ “ให้งดเรียก” ตัวไปเกณฑ์
แต่ มีข้อแม้ที่หินมากว่า จะนับจำนวนการเป็นจำพวกที่ ๓ สามครั้งนั้น นับเฉพาะ “ที่ได้ตัวมาตรวจเลือก ถ้าตัวไม่มาตรวจเลือกไม่นับครั้งให้” ผู้ปกครองของก๊อฟถึงได้บอกว่ามันยุ่งยากไง สัสดีก็แสนดีมีทางออกให้ ว่าถ้าอยากให้จบในครั้งนี้เลย
พาตัวลูกชายที่ว่าป่วยนั่นไปเข้ารับการเกณฑ์ให้จนได้ “จะอำนวยความสะดวกให้” ใช้บริการรับส่งผู้ป่วยของเทศบาล ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน คุณแม่ของอ๊อฟก็ทำตามนั้น กรรมการแพทย์ตรวจแล้วเห็นว่าเขากะโหลกยุบจริงก็ให้ผ่าน ใน ๑๐ นาฑี
ทว่าประเด็นงี่เง่าไม่ได้อยู่ตรงนั้น โฆษกทัพภาค ๓ มาแถลงตามหลัง “ให้ทุกท่านทราบว่า หากท่านมีเหตุจำเป็นซึ่งไม่สะดวกที่จะมาแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือกเหมือนกรณีดังกล่าว” ขอให้แจ้งมา จะไปทำการตรวจร่างกายให้ถึงบ้านหรือโรงพยาบาล
เหมือนกระทำความผิดสำเร็จแล้วมาขอแก้ทีหลัง มันต่างกับวัวหายล้อมคอก ตรงที่ปล่อยคนทำผิดลอยชาย จากการที่ผู้บังคับบัญชาบอกว่า “ได้ตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” จบนะ แทนที่จะบอกว่าระเบียบมันห่วยต้องแก้ไข
กลับบอกว่า ต่อไปไม่ต้องทำตามระเบียบก็ได้นะ เพื่อที่จะไม่ให้ทัวร์ลง ฮ่วย
(https://www.facebook.com/100001454030105/posts/QbXrLSu8KFab)
