วันศุกร์, เมษายน 07, 2566

ใครสงสัยเรื่องนโยบาย 10,000 บาทของเพื่อไทย ว่ามันจะดีหรือไม่ดี เวิร์คหรือไม่เวิร์ค ใช้เงินจากไหน และตัวเองจะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้จริงๆ หรือไม่อย่างไร ฟังแล้วพิจารณากันเอาเอง


พรรคเพื่อไทย
Yesterday

เศรษฐา แคนดิเดตนายก ฯ พรรคเพื่อไทย ย้ำ ทางเดียวที่จะแก้ไขความเหลื่อมล้ำเหล่าได้ คือภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เป็นสิ่งที่จุดประกายให้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อรับบทบาทในการแก้ไขความเหลื่อมล้ำเหล่าในสังคม เพื่อให้ลูกหลานได้มีสังคมและชีวิตที่ดีกว่า
.
พร้อมลงรายละเอียดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ทั้ง ‘การเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล’ และนโยบายการต่างประเทศเพื่อหาตลาดส่งออกสินค้าไทย
.
“การเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล”

การนำเทคโนโลยีการเงินมาใช้เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล พร้อมเติมเงิน ‘10,000 บาท’ ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้ใช้ซื้อของในชีวิตประจำวันได้จากร้านค้าในชุมชน กำหนดระยะเวลาชัดเจนภายใน 6 เดือน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ สร้างความเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจไทยลดช่องว่างทางรายได้ และท้ายที่สุดรัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น
.
“หาตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้าในไทย”

ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หรือสุราพื้นบ้าน รัฐบาลจากพรรคเพื่อไทยขออาสาพาสินค้าจากไทยไปให้ถึงตลาดทั่วโลก นำรายได้มหาศาลมาสู่ประชาชน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะยกระดับการเจรจาการทูตเพื่อเปิดโอกาส ของคนไทยให้มากขึ้น
.
พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการเจรจาการทูตว่า นอกจากเรื่องความอิสระของพาสปอร์ตไทยที่จะมากขึ้น ยังจะเน้นในด้านการท่องเที่ยวไทย ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้จ่ายในไทยได้ง่ายขึ้นเพื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนในประเทศ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและเอกชนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดในการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนไทย
.
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงนโยบายด้าน Soft Power โดยเน้นไปที่ภาครัฐต้องเพิ่มพื้นที่รองรับการแสดง Soft Power เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ต, งานศิลปิน, เทศกาลหนัง และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เมืองไทยกลายเป็นหมุดหมายที่ทั่วโลกอยากเข้ามาจัดการแสดงในประเทศไทย
.
“พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทัดเทียมระดับโลก”

ประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศ ทางราง และทางเรือ ให้สามารถรองรับผู้คนและสินค้าให้ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายสนามบิน ขยายโครงข่ายรถไฟให้เชื่อมเหนือจรดใต้ และเพิ่มความสามารถของท่าเรือ
โดยที่ไม่ละเลยทรัพยากรธรรมชาติ ต้องยึกหลักการบริหารจัดการให้เติบโตไปพร้อมกัน ทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพื้นที่ชลประทานต้องทำอย่างเป็นระบบ ปัญหา PM2.5 ที่เราเผชิญอยู่ ประชาชนไม่ควรต้องร้องขอจากรัฐ อากาศสะอาดที่เป็นพื้นฐานการดำรงชีวิต รัฐบาลที่ดีต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นตอทันที
.
เศรษฐาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ศัตรูของคนไทยคือความยากจน ความไม่เท่าเทียม ความลำบากของประชาชน ชัยชนะต่อสิ่งเหล่านั้น คือเป้าหมายที่แท้จริง และตนมีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาทำงานเพื่อที่น้องประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น จึงต้องขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนช่วยเป็นกำลัง ส่งเพื่อไทยไปจัดตั้งรัฐบาลให้มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มาจากพรรคเพื่อไทย โดยการเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อส่งต่ออนาคตที่มีแสงสว่าง มีความหวังให้ลูกหลานของเรา
.
#คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน #OneTeamforallThais
#หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน #5เมษา66