วันจันทร์, มกราคม 17, 2565

จาตุรนต์อยากให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยฮั๊วกัน เพื่อให้ “มีศักยภาพมากกว่า”นี้ (ยากนะ !)


Atukkit Sawangsuk
21h ·

เอาง่ายๆ นะถ้าพูดคุยตกลงกัน
พรรคเพื่อไทยยอมหรือไม่ ที่จะไม่ส่งสมัครในเขตที่อนาคตใหม่ชนะ
ไม่มีทางหรอก เพื่อไทยคงจะตกลงว่า
เพื่อไม่ต้องตัดคะแนนกัน พี่ยกภาคใต้ให้หมดเลยนะน้อง ที่อื่นพี่ขอหมด
:
นอกเหนือจากนั้น ต่อให้ตกลงกันได้
สมมติยกขอนแก่นเขต 1
ปทุมเขตธรรมศาสตร์ ให้ก้าวไกล
คิดหรือว่าผู้สมัครพรรคเพื่อไทยจะยอม
กลุ่มก๊วนเจ้าของพื้นที่จะยอม
:
ผู้สมัครก้าวไกลส่วนใหญ่เป็นหน้าใหม่ บอกให้ถอยไม่ยากนัก
แต่ผู้สมัครเพื่อไทยส่วนใหญ่คือนักการเมืองอาชีพ ปี่กลองขึ้นพรรคไม่ให้กรูลง?
วิสัยนักการเมืองก็จะโวยดูไบ ไม่ให้ลง เดี๋ยวไปสมัครพรรคไทยสร้างไทย หรือไปพรรคอื่นก็ได้
พรรคกระอักกระอ่วนเกรงใจก็ไปตามง้อ ฯลฯ
:
เหตุการณ์นี้เกิดมาแล้ว
พรรคเพื่อไทยกับไทยรักษาชาติไง
ขนาดนายคนเดียวกัน แยกกันเพื่อยุทธศาสตร์
สมัยที่แล้วยังตกลงกันไม่ได้ หลายสิบเขต หรือร่วมร้อยเขตมั้ง ไม่มีใครยอมใคร
...
Chaturon Chaisang
20h ·
ข้อความด้านล่างนี้สิ่งคือที่ผมปราศรัยที่ชุมชนเสนานิคม 2 คำว่า “มีศักยภาพมากกว่า” หมายถึงในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ในเขตเลือกตั้งนี้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ขอเชิญชวนให้คิดกันอย่างเสรีครับ
ส่วนในการเลือกตั้งทั่วไปในอนาคตผมยังไม่ได้เสนออะไรเลยครับ คงเป็นโจทย์ที่จะต้องช่วยกันคิดต่อไปครับ
………..
14 มกราคม 2565
ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ ซึ่งความจริงที่มาเลเซียเวลาเลือกตั้งพรรคฝ่ายค้านเขาคุยกัน เขาประสานงานกัน จนกระทั่งชนะจัดตั้งรัฐบาลได้มาแล้ว แต่ของเราพรรคฝ่ายประชาธิปไตยยังไม่ได้คุยกัน
แต่เราก็ไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน แล้วก็เข้าใจนะครับว่าต่างคนต่างส่งผู้สมัคร แต่ต้องยอมรับว่ามันทำให้ตัดคะแนนกัน แล้วรัฐบาลอาจเอาไปกิน ทั้งๆที่ประชาชนไม่ชอบ
จึงต้องฝากให้เป็นหน้าที่ของทุกท่านที่รักประชาธิปไตย ต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะจะต้องดูก็คือว่าพรรคไหนในฝ่ายประชาธิปไตยมีศักยภาพมากกว่ากัน
การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบคะแนนตกน้ำไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บทุกคะแนนเพราะไม่มีปาร์ตี้ลิสต์ครับ เพราะฉะนั้นถ้าเห็นว่าใครจะชนะได้ต้องช่วยสนับสนุนคนนั้นให้ชนะไปเลย และมันยังเป็นข้อเท็จจริงด้วยว่าสุรชาติ เทียนทองมีศักยภาพมากกว่าาคนอื่น เราก็ต้องช่วยกันสนับสนุนเข้าสภาให้ได้ครับ
...
Case in point

Nattharavut Kunishe Muangsuk
18h ·
สุดท้าย เลือกตั้งซ่อมภาคใต้ ทั้งชุมพร สงขลา เป็นเกมวัดพลังของประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ ทั้งสองพรรคไม่มองก้าวไกลเป็นคู่แข่งแย่งคะแนนเลย เพราะเขาประเมินแล้วว่า คนใต้ส่วนใหญ่ใฝ่แนวทางการเมืองแบบสองพรรค(ส่วนพรรคกล้าคือประชาธิปัตย์ลอกคราบ ไม่มีพลังพอจะไปทำอะไรได้) ไม่เอาพรรคการเมืองที่ชูจุดยืนปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ปฏิรูปกองทัพ หรือแก้ไขโครงสร้างปกครองประเทศ ฯลฯ
อันนี้มองได้ในมุมการวิเคราะห์ฐานเสียงตัวเองให้ขาดเพื่อค้นหาคู่ต่อสู้ที่แท้จริง แต่อีกมุมก็ดูถูกว่าคนใต้พอใจกับวัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ แบบเสาไฟฟ้าประชาธิปัตย์ หรือมีโครงสร้างอำนาจห่อคลุมแบบพลังประชารัฐ ไม่ใฝ่ใจหาแนวทางใหม่ๆ ที่พาคนใต้ออกจากมายาคติการเมืองเดิมๆ
ชอบพูดกันว่า นิสัยคนใต้คือชอบวิจารณ์การเมืองในวงกาแฟ จริงๆ ต้องใช้คำว่า นินทา มากกว่า เพราะคำวิจารณ์ก่นด่ามีให้แต่คนที่ตัวเองเกลียดชัง พอฝั่งการเมืองที่ตัวเองเลือกทำผิดก็นั่งนินทากันเข้มข้น พอหัวคะแนนมานั่งก็เงียบกริบ แถมขอให้เขาเลี้ยงกาแฟอีก
ตำนานลุงตะโกนขุย(ด่า)แม่นายชวนในเวทีปราศรัยเลยถูกเล่าขานไม่จบ เพราะไม่ใช่กี่คนที่กล้าทำ ถ้ากล้าจริงประชาธิปัตย์คงยึดครองภาคใต้ไม่ได้นมนาน ทั้งที่คุมกระทรวงเศรษฐกิจมาหลายสมัย ถ้ามีวิสัยทัศน์ภาคใต้ควรเจริญกว่านี้ หาดใหญ่คงไม่แทบร้างอย่างปัจจุบัน
ใครบอกคนใต้ใจเต็ม ตรงไปตรงมา ไม่ทนกับความอยุติธรรม ไม่ยอมขายเสียง แค่เรื่องเล่ายกหางตัวเองให้ดูสูงส่งกว่าคนภาคอื่น
ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ สองพรรคร่วมรัฐบาลมาโจมตีกันในสนามเลือกตัังซ่อมสะท้อนอะไรได้ลึกอยู่ โดยเฉพาะนิสัยใจคอฐานเสียงแถบนี้ ที่แน่ๆ มูลค่าต่อเสียงพุ่งกระฉูดกว่าตอนเลือกตั้งใหญ่หลายเท่าตัว