จับกุม-แจ้ง 112 นักกิจกรรมและเยาวชน เหตุชูป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” ระบุมีข้อความอาฆาตมาดร้าย ก่อนศาลให้ประกัน
02/01/2565
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลา 21.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานกรณีตำรวจจับกุม “ภูมิ หัวลำโพง” (นามสมมติ) นักกิจกรรมอายุ 18 ปี และ “ไอซ์” (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 14 ปี ไปที่ สน.ดุสิต เหตุรวมตัวทำกิจกรรมชูป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” ที่บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ขบวนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 จะเสด็จผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าควบคุมตัว จนทำให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บบริเวณมือและข้อมือ
เวลาประมาณ 22.00 น. หลังทนายความได้ติดตามไป พบภูมิ ไอซ์ และตำรวจหลายนายที่หน้า สน.ดุสิต โดยตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนแต่อย่างใด และพยายามเชิญตัวพวกเขากลับเข้าไปใน สน. ดุสิต เพื่อตรวจสอบป้ายผ้าดังกล่าว รวมทั้งนอกจากนี้ยังแจ้งว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ภูมิยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ขัดคำสั่ง เนื่องจากตำรวจใช้คำว่า “เชิญ” ซึ่งเขามีสิทธิที่จะทำตามหรือไม่ก็ได้ ในส่วนของป้ายผ้าก็ขอให้ตรวจสอบที่ถนนได้เลย ก่อนคลี่ป้ายผ้าออกต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชนอิสระ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายรีบเข้าไปฉุดกระฉากป้ายผ้าอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะยื้อแย่งป้ายผ้าจากภูมิ ประชาชนบางส่วนได้เข้าช่วยกันห้ามปรามเจ้าหน้าที่ จนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่หลุด 1 รายคลิปขณะที่ตร.สน.ดุสิต กำลังเข้ายึดป้าย พร้อมบอกว่า “อย่าทำร้ายเจ้าหน้าที่”
— Arsa.Plodaek (@plodaek) December 30, 2021
.#ยกเลิก112 pic.twitter.com/ZH7KbRx7yQ
ภายหลังขณะที่ภูมิและไอซ์ยินยอมเข้าไปใน สน.ดุสิต พร้อมด้วยทนายความ เพื่อเสียค่าปรับข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามที่ผู้กำกับ สน.ดุสิต แจ้งแต่แรก แต่ผู้กำกับกลับแจ้งใหม่ว่า ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ดำเนินคดีมาตรา 112
ต่อมา เวลาประมาณ 23.55 น. หลังทำบันทึกการจับกุมเสร็จ ตำรวจได้แจ้งกับทนายความว่า จะพาผู้ต้องหาทั้งสองไปสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แทน เนื่องจากกลัวประชาชนและสื่อมวลชนไลฟ์สดแล้วจะเกิดความวุ่นวาย ส่วนประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายดังกล่าว ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรับการรักษาต่อไป
ตร. แจ้ง 112 เหตุป้ายข้อความมีลักษณะอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
ในส่วนของบันทึกจับกุมในคดีระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมครั้งนี้ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับ สน.ดุสิต, ว่าที่ พ.ต.ต.สุพัฒน์ ดิสระ สารวัตรปราบปราม สน.ดุสิต, พ.ต.ต. ภัทร บุญอารักษ์, ส.ต.ท.พงศกร คําภาเขียว กองกำกับการสืบสวน จากกองบังคับการตำรวจนครบาล และ ด.ต.เพียรชัย ขะบุญรัมย์ ผู้บังคับหมู่การจราจร สน.ดุสิต
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอ้างว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 20.20 น. ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เตรียมความพร้อมในเส้นทางขบวนเสด็จ บริเวณแยกพระรูป ได้พบภูมิกับไอซ์ ซึ่ง เป็นบุคคลเฝ้าระวัง โดยหนึ่งในนั้นใส่เสื้อยืดสีขาวข้อความสีแดงว่า “หมดเวลา112” เจ้าที่ตํารวจจราจรจึงได้แจ้งว่า ให้ออกจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากใกล้เวลาขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ยอมออกจากบริเวณดังกล่าว และพร้อมที่จะเตรียมกางออกเพื่อชูป้ายผ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งวิทยุให้สายตรวจ สน.ดุสิต เข้าตรวจสอบผู้ต้องหาทั้งสองราย ที่กำลังเดินทางไปยังบริเวณป้ายรถประจําทาง ตรงกันข้ามประตูสนามเสือป่าฝั่งธนาคารทหารไทยธนชาติ
หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นบุคคลเฝ้าระวังที่มีประวัติและพฤติกรรมในการเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้ง จึงได้ควบคุมตัว ภูมิและไอซ์มายัง สน.ดุสิต ก่อนที่ทั้งสองจะเดินหนีออกมายังบริเวณปากซอยสุคันธาราม พร้อมแสดงป้ายผ้าที่มีข้อความมีลักษณะอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ในชั้นสอบสวน ภูมิให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 31 มกราคม 2565 รวมถึงไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุมข้างต้น กรณีไอซ์ยังไม่ถูกสอบปากคำ แต่จะถูกนำตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางฯ เพื่อตรวจสอบการจับในวันรุ่งขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดป้ายผ้าของผู้ต้องหาไว้เป็นของกลาง รวมถึงยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาทั้งสองไว้และจะให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มาตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ ข้อความบนป้ายผ้าที่ถูกกล่าวหาว่ามีลักษณะอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แต่บันทึกการจับกุมไม่ได้ระบุถึงข้อความดังกล่าวนั้น คือข้อความ “ไอ้ษัตริย์ ปล่อยเพื่อนกู”
ศาลอนุญาตให้ประกันผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กรณีเยาวชน ศาลระบุการตรวจสอบการจับเป็นไปโดยชอบ แม้ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บระหว่างจับกุม
ในวันนี้ (31 ธ.ค. 64) เวลา 08.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้นำตัวภูมิไปที่ศาลอาญาฯ เพื่อขอฝากขัง ส่วนไอซ์ได้ถูกนำตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อตรวจสอบการจับและขออำนาจควบคุมตัว ก่อนจะถูกพาไปสอบคำให้การต่อที่ สน.ดุสิต โดยมีที่ปรึกษาทางกฎหมายและผู้ไว้วางใจติดตามไปด้วย
ต่อมา เวลา 12.16 น. ศาลเยาวชนฯ เห็นว่าการตรวจสอบการจับกุมเยาวชนของไอซ์ เป็นไปด้วยชอบ แม้ในระหว่างการจับกุม เจ้าหน้าที่จะใช้ความรุนแรงโดยการกระชากตัวและอุ้มผู้ต้องหาขึ้นรถตำรวจ จนทำให้เกิดบาดแผลบวมที่ข้อมือและอาการมึนศีรษะก็ตาม
ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวไอซ์ โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และนัดมารายงานตัวที่สถานพินิจฯ ในวันที่ 6 มกราคม 2565 และให้นายประกันนำตัวผู้ต้องหามารายงานตัว ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
ด้านภูมิศาลอาญาฯ อนุญาตให้ประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข และให้วางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 90,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และนัดรายงานตัวครั้งต่อไปในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565
ทั้งนี้ ทางทนายความได้เปิดเผยว่า ไอซ์แจ้งว่าหลังถูกจับกุมมีอาการมึนหัว เพราะถูกตำรวจใช้กำลังบังคับอุ้มตัวมา จึงได้ไอซ์ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงลักษณะการจับกุมที่รุนแรงและบันทึกลงในคำให้การของผู้ต้องหาไว้ด้วย