ที่มา FB
Wassana J. Nanuam
"วิษณุ" เผย เริ่มรัชสมัยรัชกาลใหม่ ตั้งแต่ 13 ต.ค.59 แล้ว พระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะทำหลังการถวายพระเพลิง เผย "พระบรมโอรสาธิราชฯ" ทรงรับสั่งให้ทุกอย่างเป็นปกติ เหมือนพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศยังอยู่ แจง "พลเอกเปรม" เป็นผู้สำเร็จราชการฯ แต่ตั้งพระมหากษัตริย์ ไม่ได้/แจง "พล.อ.เปรม" จบภารกิจผู้สำเร็จราชการกลับมาเป็น ปธ.องคมนตรี ได้ และผู้สำเร็จราชการ มีอำนาจลงนาม รธน.ใหม่/ สมเด็จพระบรมฯ ทรงเผยความรู้สึกถึงพ่อ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนพระราชพิธีราชาภิเษกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลถาม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารฯ ว่า พิธีพระบรมศพจะใช้เวลานานเท่าไร เพราะเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ จะต้องใช้เวลาสักระยะในการดำเนินการตามธรรมเนียมราชประเพณีการถวายพระเพลิง
และโดยปกติจะไม่ทำกันในหน้าฝน จากการเทียบกับโบราณประเพณีในอดีต ท่านได้มีพระราชบัณฑูรว่า เรื่องหน้าฝนอะไรนั้นก็เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของช่างไปว่ากันเอง แต่น่าจะมีการบำเพ็ญพระราชกุศล กว่าจะถึงเวลาออกพระเมรุก็คงใช้เวลาประมาณ 1 ปี เป็นอย่างน้อย ตรงนี้ถือเป็นพระราโชบายที่รัฐบาลต้องทราบ เพื่อจะได้มาดำเนินการถูก ถ้าเร็ว งานสร้างพระเมรุก็ต้องเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อไปเทียบกับคราวพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ปี 2527-2528 หรือเทียบกับงานพระเมรุสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในปี 2538-2539 เทียบกับงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อประมาณปี 2551-2552
และงานสุดท้ายพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้าภคีนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปี 2554 นั้น หลังจากสวรรคตหรือสิ้นพระชมน์แล้ว การพระราชทานเพลิงพระบรมศพหรือพระศพนั้น จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วต่างกัน 5-6 เดือน 8-9 เดือนบ้าง อันนี้จำเป็นต้องขอรับพระราโชบาย ซึ่งได้พระราชทานพระราโชบายแล้วว่า น่าจะเป็นระยะเวลาที่ประชาชนชาวไทยจะต้องอาลัย และไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาบอกกันว่า จะถวายพระเพลิงช้าหรือเร็วอย่างไร เอาเป็นว่าจะอยู่ในระหว่างการบำเพ็ญพระราชกุศลอย่างนี้ ไปเป็นอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจริงๆ ก็เท่ากับเวลาที่รัฐบาลได้ประกาศให้ประชาชนไว้ทุกข์แล้ว อย่างอื่นเป็นเรื่องค่อยมาพูดกัน อย่างเช่น การกำหนดถวายพระเพลิงที่แน่ชัด การบรมราชาภิเษกที่จะเกิดขึ้น และอะไรต่ออะไรที่จะต้องตามมาหลังจากนั้น
นายวิษณุ กล่าวย้ำอีก ว่า การเชิญขึ้นครองราชย์กับการบรมราชาภิเษกคนละเรื่องกัน มันต่างกัน การเชิญขึ้นครองราชย์คือการสืบราชสันตติวงศ์ แต่บรมราชาภิเษกเป็นเรื่องของพระราชพิธี พูดง่ายๆ แบบฝรั่งคือการสวมมงกุฎ ในต่างประเทศเองก็ทิ้งเวลาเหมือนกัน อย่าง เจ้าชายจิกมี แห่งราชอาณาจักรภูฏานขึ้นรับราชสมบัติต่อ 1 ปี แล้วท่านขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ทันที แต่ท่านยังไม่สวมมงกุฎ เพราะโหรประเทศท่านคำนวณพระฤกษ์แล้ว ไม่มีศุภวาระดิถีมงคลในปีนั้น ก็ต้องทิ้งไป 1-2 ปี จึงจะไปถึงเวลาพระบรมราชาภิเษก ซึ่งประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือญี่ปุ่น ที่เป็นราชอาณาจักรที่มีสมเด็จพระราชาธิบดี ก็ใช้หลักทำนองเดียวกัน เพียงแต่ช้าหรือเร็วต่างกัน
สำหรับหลักการสร้างพระเมรุจะต้องเตรียมสถานที่ ต้องมีไม้ เตรียมราชรถ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา ถ้าจะให้ตอบต้องตอบว่าประมาณ 1 ปี ตามพระราโชบาย
เมื่อถามว่า จะมีการโยงกำหนดระหว่างถวายพระเพลิงกับการขึ้นบรมราชาภิเษก นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่โยง ไม่เกี่ยว ขอให้เอากรณีของรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่าง ท่านขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไธยในทุกอย่างได้เบ็ดเสร็จในวันที่รัชกาลที่ 8 สวรรคต พอสามทุ่ม ท่านก็เป็นพระมหากษัตริย์ และวันนั้นก็นับเป็นวันที่ 1 ปีที่ 1 ของรัชกาล แต่ต้องเรียกท่านว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ให้เรียกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ แล้วท่านก็กลับไปเรียนต่อ ผ่านไป 4 ปี ท่านศึกษาจบและเสด็จกลับประเทศไทย จึงมีการถวายพระเพลิง จากนั้น ตามด้วยการมีพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 หรือที่เรียกว่า วันฉัตรมงคล และถือเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่บัดนั้น ความเป็นจริงเราบอกว่า ทรงครองราชย์ 70 ปี เราไม่เคยนับจากวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 แต่เรานับจากวันที่ 1 ปีที่ 1 ซึ่งก็คือ 9 มิถุนายน 2489 เพราะฉะนั้นในกรณีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ก็จะเกิดตามหลักเดียวกัน
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นทั้งประธานองคมนตรี และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราว และรัฐธรรมนูญกำหนดว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานองคมนตรีไม่ได้ ซึ่งต้องทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ด้วยเหตุนี้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 25 กำหนดไว้ว่าให้คณะองคมนตรี ประชุมปรึกษาเลือกองคมนตรี 1 คน ขึ้นเป็นประธานองคมนตรี เพราะมีภารกิจที่จะต้องทำ เช่น มีเหตุเพทภัยเกิดขึ้น และเมื่อผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พ้นจากหน้าที่ ก็จะมาเป็นประธานองคมนตรีเหมือนเดิม โดยที่ไม่ต้องมีพระบรมราชโองการ ทุกอย่างเป็นไปโดยกฎหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีอำนาจลงนามในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญในอดีตก็เคยลงนามโดยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เช่น นายปรีดี พนมยงค์ เจ้าพระยายมราช พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา และกฎหมายต่างๆ การแต่งตั้งข้าราชการ ผู้สำเร็จราชการสามารถลงนามได้
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีข่าวลือว่า ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีอำนาจเสนอชื่อพระมหากษัตริย์ ยืนยันไม่จริง เพราะเป็นเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะต้องแจ้งไปยังประธานรัฐสภา หรือประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
จากนั้นจะมีการประชุม สนช. เพื่อมีมติรับทราบ จากนั้นประธาน สนช.จะเข้าเฝ้าเพื่ออัญเชิญขึ้นครองราชย์ จากนั้นจะประกาศให้ประชาชนชาวไทยรับทราบ บัดนั้นประเทศไทยจะมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยสมบูรณ์ และราชสมบัติจะไม่มีวันขาดตอนลง หมายความว่ารัชสมัยแห่งรัชกาลใหม่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป"
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ใช้ทั้งรัฐธรรมนูญและกฎมณเฑียรบาล รวมทั้งโบราณราชนิติประเพณี เพราะบางเรื่องรัฐธรรมนูญไม่มีคำตอบ เช่น รัชทายาทมาจากไหน เป็นใคร แต่เมื่อตั้งรัชทายาท รัชทายาทจะมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนขั้นตอนการดำเนินการจะใช้โบราณราชประเพณี
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า รัชทายาทไม่สามารถลงนามในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ เพราะพระรัชทายาทเป็นที่ 2 รองจากพระเจ้าอยู่หัว และไม่มีอำนาจใดๆ ยกเว้นในส่วนพระราชพิธีอย่างที่เห็นในพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะทรงบัญชาการในส่วนนี้ และทรงเอาพระทัยใส่อย่างมาก
ทั้งนี้ นายวิษณุ กล่าวช่วงท้ายด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ รับสั่งกับนายกฯ ว่า ขอให้ทุกอย่างในช่วงนี้ อย่างน้อยก็ช่วงนี้ ให้อยู่เป็นปกติเหมือนกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศยังทรงสถิตอยู่ อย่าให้เกิดความรู้สึกว่าแผ่นดินว่างเปล่า และทุกอย่างอย่าเพิ่งให้เป็นอดีตเร็วนัก เก็บมันไว้ให้เป็นปัจจุบันเพราะฉะนั้นเรื่องอย่างนี้เราเป็นลูก เราเป็นหลาน เราเป็นญาติ เราก็คงทำอย่างนี้กับพ่อเรา แม่เรา คู่สมรส คนรักของเราที่ตาย เราอาจจะเห็นว่าบางครั้ง เรากินข้าวเรายังตั้งเก้าอี้ไว้ และบอกแม่พ่อ"
ooo
'วิษณุ'ร่ำไห้ อย่าทำให้รู้สึกเหมือนแผ่นดินว่างเปล่า
https://www.youtube.com/watch?v=5yGURaksbKk