คงต้องบอกว่ากระบวนการ ‘แก้ขัด’ ก่อนจะนำไปสู่การ ‘แก้แค้น’ เริ่มแล้ว ต่อกรณีที่รัฐมนตรีของรัฐบาลอนุทินบางคนโดนตรวจสอบหนักจาก สส.พรรคประชาชน ในการที่บริษัท ซีโน-ไทย แจ้งความ ‘ศุภณัฐ-รักชนก’ ฐานหมิ่นประมาท
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เชื่อว่านี่เป็นการฟ้อง ‘ปิดปาก’ เนื่องจากสิ่งที่เขาโพสต์เกี่ยวกับแก๊งค์สแกมเมอร์ก็เพียงว่า มีที่ตั้งอยู่ในอาคารซีโน-ไทย “ทำไมไม่ฟ้อง (1) เฉิน จื้อ, (2) Prince Holding Group (3) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
และ (4) บริษัท Prince International ที่ระบุบนเว็บว่า ตั้งอยู่ที่ตึก Sino-Thai Tower หรือครับ” แน่ละย่อมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จาก อนุทิน ชาญวีรกูล เพราะเขาเคยตอบหลายหนแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทซีโน-ไทย มานานแล้ว
จะมีก็แต่ ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ตอบนักข่าวว่าเขาไม่เคยเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทา และ “มีเงิน (หรือร่ำรวยมา) ก่อนเล่นการเมือง” จากธุรกิจรถเมล์ สลากกินแบ่ง ตลาดสด และอสังหาริมทรัพย์” มิใยถูก Pavin Chachavalpongpun สัพยอก
“ถ้าธรรมนัสไม่ใช่มนุษย์สีเทา ดิชั้นก็ไม่ใช่มนุษย์สองเพศค่ะ” ส่วนประเด็นสนิทชิดเชื้อกับ กัน จอมพลัง ดังที่ สส.รักชนก ศรีนอก ตั้งข้อสงสัยว่ามีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน นั้นก็เพราะว่า “เคมีตรงกัน...เวลามีปัญหาก็ให้กำลังใจกัน...ไม่ได้คบกันไปสร้างความเสียหาย”
รัฐมนตรีอีกคน ที่ช่วยว่าการคลัง วรภัค ธันยาวงศ์ ซึ่งมาจากวงใน BIC Group เขมร ที่ CSI LA ชี้ว่าเป็น “คนที่เคยมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจากเขมร” บอกไว้เดี๋ยวจะแถลงต่อสื่อสาธารณะ แต่ตอนนี้ยังเงียบอยู่เพราะพอดีได้รับแต่งตั้งเป็นหัวงานสำคัญ
“เป็นประธานคณะตรวจสอบเส้นทางเงินเทา เพื่อปราบกลุ่มทุนสีเทาที่โยงกับขบวนการ scammer ข้ามชาติ” ซึ่งซีเอสไอ แอลเอ ตั้งแง่สงสัยอย่างยิ่ง “จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การตรวจสอบจะโปร่งใสจริง หรือเป็นเพียง ‘ฉากปาหี่’ ให้ประชาชนดู”
ฤๅ “นี่คือแผนตรวจสอบกันเอง” ซีเอสไอถาม “ความน่าเชื่อถือของไทยในสายตาประเทศเอเซียอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และจีน อาจพังยับ เพราะเขาเริ่มมองว่า ‘ไทย-พม่า-เขมร’ คือเครือข่ายเดียวกันในระบบ scam center...ถูกเหมารวมว่า เอี่ยวกับแก๊งเงินเทา”
ยิ่งตอนนี้ รังสิมันต์ โรม ซึ่งร่วมประชุม IPU สหภาพรัฐสภา อยู่ที่เจนีวา ถูกตัวแทนกัมพูชาขวางการเสนอวาระด่วนเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ อ้างว่า “ไม่สอดคล้องกับหัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งมุ่งในเรื่องรักษามาตรฐานมนุษยธรรม”
อย่างไรก็ดี ตามที่ข่าวช่อง ๓ รายงานว่า “หลังกล่าวจบประธานที่ประชุมจากจีน ได้เปิดโอกาสให้ชาติสมาชิกอื่น ๆ แสดงความเห็นซึ่งส่วนใหญ่เห็นพ้องกับไทย พร้อมตำหนิกัมพูชาไม่ควรปฏิเสธ เนื่องจากปัญหาสแกมเมอร์กระทบทั่วโลก”
(https://www.facebook.com/ThePoliticsByMatichon/posts/hjyXYMU3, https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/R2JFasv5LF และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5420757)