ถ้าทั้งงงและสงสัยว่า อ๊ะ วิวาทชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ยอมจบเสียที จากเรื่องนั้นไปโน่น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปใหญ่ ถ้าว่าตามที่ ณรรธราวุธ เมืองสุข บอก นอกจากเรื่องส่วยของคนใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นคนโตในมหาดไทยแล้ว
“ยังมีตัวเล็กๆ ที่กินยิบกินย่อย และมีบทบาทสำคัญในการหนุนมวลชน หาเครื่องเสียง หาเสบียง ไปหนุนม็อบชนม็อบที่ชายแดน เพื่อกลบเกลื่อนปัญหา และเบี่ยงให้คนไทยหลงประเด็น” จนคนไทยจำนวนมากได้แต่ก่นด่าสาปแช่งเขมรสถานเดียว
เขาเอาเนื้อหาจากรายการ 'ซีทรู' ของไทยรัฐทีวี มาย่อยให้อ่านจึงถึงบางอ้อว่า ปัญหามีต้นตอที่มา “เกี่ยวกับข้าราชการกังฉิน หากินผลประโยชน์จนไม่สนใจผลกระทบ อย่างส่วย ๑๕๐ ล้าน ชายแดนหนองจาน-โนนหมากมุ่น”
เริ่มจากเมื่อปี ๒๕๕๑ “รัฐบาลไทยและกัมพูชา มีแนวคิดเปิดจุดผ่อนปรนบ้านโนนหมากมุ่น-บ้านเปรยจัน (กัมพูชา)” พอถึงปี ๒๕๖๑ “มีการประโคมข่าวว่าจุดผ่อนปรนต้องเปิดให้ได้ ฝั่งไทย มีการสร้างถนนคอนกรีต ๕๙ ล้าน ไว้รองรับ
มีการสร้างจุดตรวจศุลกากร และมีนักธุรกิจไทยไปสร้างห้องแถวพาณิชย์ชั้นเดียวไว้ ๑๐๐ กว่าห้อง ส่วนฝั่งกัมพูชา ผู้ได้รับใบอนุญาตสร้างตลาด คือ บ.สัมพันนะฤทธิ์ ดีเวลล็อปเมนต์ ของออกญาสัมพันนะฤทธิ์ เรื่องราวการเรียกรับส่วยเริ่มจากตรงนี้”
โดยที่ นางสาวดารา เรียน ชาวกัมพูชา เลขานุการของออกญาสัมพันนะฤทธิ์ เป็นผู้เปิดโปง ให้ข้อมูลกับ วีระ สมความคิด ว่า “ผู้ว่าฯ สระแก้ว และนายอำเภอโคกสูง เมื่อตอนปี ๒๕๖๑ เรียกรับส่วยจากออกญาสัมพันนะฤทธิ์ นับร้อยล้านบาท”
เนื่องจากบริษัทสัมพันนะฤทธิ์วางแผนสร้างตลาดเกษตรในฝั่งกัมพูชาให้เหมือนตลาดฝั่งไทย แต่พื้นที่บริเวณที่จะสร้าง มีคนไทย ๗๒ คนลุกล้ำเข้าไปทำนา ๑,๐๓๙ ไร่ ผู้ว่าฯ กับนายอำเภอ จึงเสนอตัวจัดการปัญหาให้ เพียงขอค่าชดเชย
“ให้ชาวนาไร่ละ ๘ หมื่น และขอเงินใต้โต๊ะ หรือส่วยค่าดำเนินการ ๑๐๐ ล้านบาท” ก็มีการนัดหมายจ่ายเงินกันหลายครั้ง แต่ก็จ่ายนายอำเภอไปแค่ ๓๕ ล้านบาท ส่วนของผู้ว่า นส.ดาราขับรถจากปอยเป็ตไปมอบให้สดๆ ๑๐ ล้านบาทถึงศาลากลาง จ.สระแก้ว
แต่นายอำเภอพาพวกตามไปเอาเงินค่าเคลียร์ชาวบ้านต่อ ได้มาอีก ๗๕ ล้านบาท เพื่อจ่ายให้ชาวบ้าน ๖๘ ราย แต่ตรวจพบภายหลังว่าชาวบ้านได้ไปจริงๆ แค่ ๕ ล้านบาท และเงินที่จ่ายนายอำเภอไปครั้งแรก ๓๕ ล้านนั้นไม่ถึงมือชาวบ้านแม้แต่สตางค์เดียว
คิดสมการคณิตศาสตร์ได้คำตอบสุดท้ายว่า “แก๊งผู้ว่าฯ และนายอำเภอ รับเงินจากออกญาฯ ทั้งหมด ๑๕๕ ล้านบาท เงินถึงมือชาวนา ๕ ล้านบาท ที่เหลือ ๑๕๐ ล้าน เป็นส่วยและเงินค่าชดเชยที่อมไว้กินเอง”
(https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/oaqmijwsXtK8 และ https://youtu.be/4LU_pYogG0o?si=zbkPI88wSqYQjPy7)