บัญชา สุขแก้ว อธิบดีประมงชี้แจงสภาวการณ์สกัดกั้นการระบาดของปลาหมอคางดำสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ว่านี่เป็นวาระแห่งชาติ และมีคณะกรรมการตั้งขึ้นมาแก้ปัญหาแล้ว กรมประมงดำเนินมาตรการ ๗ อย่าง มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสินแล้ว
ในสมัยของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นี้ก็มีการจัดสรรงบประมาณ ๙๘,๔๕๗,๑๐๐ บาทให้กรมประมงอย่างเร่งด่วน และได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาชน จาก ๑๙ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ในข้อ ๒ และ ๓ แล้ว
ข้อสองนั้นได้ใช้งบประมาณ ๒๐๐ ล้านบาทจากกรอบวงเงิน ๔๕๐ ล้าน เพื่อการกำจัดปลาหมอคางดำให้หมด ใน ๑ ปี พร้อมกับฟื้นฟูระบบนิเวศ ส่วนข้อสาม “คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการร่างกรอบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาแล้ว”
สำหรับข้อเรียกร้องที่ ๑ และ ๔ อันเป็นการขอให้ตั้งกรรมการอิสระ “สอบสวนหาผู้กระทำผิด” ให้เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และขอให้ดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำผิดเหล่านั้นด้วย กรมประมงปัดไปว่า
“ขณะนี้กระบวนการทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแล้ว” ซึ่งต่างจากข้อกล่าวหาของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อยู่หน่อยที่ว่า รัฐบาลบอก “ปัญหานี้มันคลี่คลายแล้ว มาบอกว่าไปตรวจแล้วเจอปลาหมอคางดำแค่ตัวเดียว แบบนี้ทำร้ายใจประชาชน”
อย่างไรก็ดี ต้นตอปลาหมอคางดำมาอย่างไร Nithiwat Wannasiri เผยว่าพบความจริงบางอย่าง ว่าเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ “ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำได้นำเข้า ‘ลูกผสมรุ่นที่ ๕’ ของปลานิล (Nile Tilapia) กับหมอคางดำ (Blackchin Tilapia) มาจากฟิลิปินส์”
เพื่อมาพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา ให้มีศักยภาพ “ทนสภาพความเค็มของน้ำกร่อยได้มากขึ้น ตามแนวพระราชดำริห์ของ ร.๙” และสองสายพันธุ์นี้ “มันครอสบรีดกันมั่วซั่วอยู่ในแหล่งน้ำไทยในปัจจุบัน ตัวเล็กๆ ตกเกรดในคลองให้เรียกหมอสีคางดำ
ตัวโตๆ คัดพันธุ์ในระบบเป็นต้นสายนิลจิตรลดา ๓” ว่ากันมาประปรายแล้วด้วยว่า ผู้รับสนองฯ เรื่องนี้หนีไม่พ้นรายยักษ์บรรษัทเจ้าสัวไทยพัฒนาอาหารสัตว์ และพันธุ์สัตว์ นามว่า ‘ซีพี’ นั่นไง
(https://www.facebook.com/nithiwat.wannasiri/posts/gxKAmxrmz, https://www.facebook.com/nationweekend/posts/BfzCkHiVKea และ https://www.matichon.co.th/economy/news_5100522)
