
พรรคประชาชน - People's Party
16 hours ago
·
[ ดีลแลกชีวิตและอิสรภาพประชาชนกับผลประโยชน์ชินวัตร สร้างยุติธรรมสองมาตรฐาน ละทิ้งนักโทษการเมือง ]
.
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ - ทนายแจม - Sasinan Thamnithinan สส. กรุงเทพ เขต 11 พรรคประชาชน อภิปรายประเด็นหัวใจของ “ดีลแลกประเทศ” ว่าด้วยช้างสารที่ดีลกัน เหยียบย่ำประชาชนจนแหลกลาญ ด้วยข้อกล่าวหา “ดีลเอาพ่อกลับบ้าน” สร้างกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน ละทิ้งนักโทษการเมือง หลงลืมนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยเอง
.
.
“เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนทุกคน ต่างก็มีความหวังว่าจะเห็นสถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นของนักโทษการเมือง หลากหลายคดีที่เกิดขึ้นจากการใช้สิทธิเสรีภาพ สิ่งเหล่านี้คือความผิดปกติที่รัฐบาลเผด็จการทิ้งเอาไว้ ทำให้มีประชาชนถูกดำเนินคดีจำนวนมาก
.
แต่สิ่งที่ประชาชนได้รับกลับกลายเป็นถูกทิ้งไว้นอกกระดาน เพราะเกิดดีลล้มกระดาน รัฐบาลผสมพันธ์ข้ามขั้ว การจับมือกันตั้งรัฐบาลราวกับว่าไม่เคยมีการต่อสู่ของประชาชนมาก่อน ดังคำสุภาษิตที่ว่า “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ เมื่อผู้มีอำนาจดีลกัน ประชาชนก็ไม่อยู่ในสมการอีกต่อไป”
.
ท่านนายก เคยกล่าวไว้ว่า “ทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล จะขอความเมตตาจากศาลที่มีน้องๆไปติดคุก ขอให้ศาลปล่อยตัว และพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้กฏหมาย มาตรา112 เพราะว่าตอนนี้ถูกดึงมาใช้เป็นเกมการเมือง” หมายความว่าท่านเองก็รู้อยู่แล้วว่า มีการบังคับใช้กฏหมายที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชนโดยเอากฏหมายมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และสิ่งที่นักกิจกรรมทางการเมืองเหล่านั้นได้รับ เป็น “ความอยุติธรรม”
.
แล้วปัจจุบันสถานการณ์ของคดีความทางการเมืองของประชาชนที่หวังดีต่อประเทศเหล่านี้ เป็นอย่างไร ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลแพทองธาร?
.
.
รัฐบาลนี้ ยังคงมีการฟ้องคดีการเมืองจากเหตุการณ์ในอดีต เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ที่ศาลแขวงปทุมวัน พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีของ 8 นักกิจกรรม ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการชุมนุม #เพราะประเทศนี้เป็นของราษฎร เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 ที่แยกราชประสงค์ หลังเหตุชุมนุมผ่านมาเกือบ 4 ปี
.
และยังมีคดีการเมือง คดีใหม่ที่เกิดในรัฐบาลนี้ เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ฟ้องมาตรา 116 กรณีจัดงานเสวนาที่ มอ.ปัตตานี
.
และเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด ซึ่งไม่ควรจะเกิดในรัฐบาลนี้ นั่นคือ การที่มีนักกิจกรรม ที่มีความรู้ ความสามารถ ลี้ภัยทางการเมืองอีกเป็นจำนวนมาก ต่างเหลือเกินกับที่ท่านนายกเคยแถลงนโยบายว่า “จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาส เป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนมีความฝัน มีความคิดที่สร้างสรรค์และการกำหนดอนาคตของตนเอง”
.
หรือแม้แต่เรื่องง่ายที่สุด นั่นคือการรับเอาข้อเสนอแนะของรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการตรากฏหมายนิรโทษกรรม พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่กล้ารับ เพราะกลัวถูกผูกมัดให้ครม.ปฏิบัติตาม
.
ในข้อสังเกตนั้น มีข้อเสนอแนะที่ท่านนายกฯสามารถทำได้ทันที เช่น นโยบายคดีการเมืองที่ขึ้นตรงอยู่กับรัฐบาลในขณะนั้น นายกมีอำนาจสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชะลอคดีได้โดยไม่ต้องรอ พรบ.นิรโทษกรรมโดยอ้างเหตุผลเรื่องความปรองดอง หรือประโยชน์สาธารณะ รัฐบาลสามารถขออัยการใช้ดุลยพินิจไม่ส่งฟ้อง รัฐบาลสามารถเจรจากับศาลให้ผ่อนปรนคดี หรือการพิจารณาสิทธิในการประกันตัว ซึ่งวิธีการต่างๆเหล่านี้ ทั้งศาล และอัยการที่นั่งเป็นคณะกรรมาธิการต่างก็รับรองว่าสามารถกระทำได้
.
แม้จะมีหลักการแบ่งแย่งอำนาจและไม่ก้าวก่ายคำตัดสินของศาล แต่สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้เพราะเป็นการใช้อำนาจบริหารตั้งแต่ต้นทาง ก่อนจะมีการตัดสิน
.
แต่ท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยเองก็มีมติโหวตคว่ำข้อสังเกตที่จะช่วยลดอุณหภูมิทางการเมืองในระหว่างรอการนิรโทษกรรมประชาชนไปแบบน่าเสียดาย ซึ่งสิ่งที่ประชาชนสูญเสียโอกาสทั้งหมดนี้ ก็มาจากดีลแลกประเทศ
.
สรุปแล้ว การคืนความยุติธรรมให้ประชาชน เป็นสิ่งที่ท่านนายกฯและพรรคเพื่อไทยให้ความความสำคัญจริงๆรึเปล่า หรือเมื่อสำเร็จประโยชน์ในการต่อรองกับเจ้าของใบอนุญาตใบที่ 2 แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับเจ้าของใบอนุญาตใบที่ 1 อีกเลย
.
ดีลกันมาทั้งหมด คว่ำมันไปทุกอย่าง ก็เพื่อจะแลกกับพ่อตัวเองและครอบครัวทั้งสิ้น
.
กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน ยังคงเกิดขึ้นในรัฐบาลของนายกแพทองธาร และเกิดขึ้นกับคนที่ใช้คำว่าสองมาตรฐานมาก่อน เจ้าของวลีกลับเป็นคนได้รับอภิสิทธิ์นั้นเอง ส่วนท่านนายกฯก็ยังคงลอยตัวเหนือปัญหาอีกเช่นเคย ยังต้องถามอีกหรือไม่ว่า ชินวัตร ได้อะไร?
.
.
ดิฉันเติบโตมาสนใจการเมือง เพราะอดีตนายกที่ชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร ท่านจุดประกายทางความคิด ให้กับเด็กผู้หญิงคนนึง เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อท่านถูกรัฐประหาร ดิฉันก็ร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดง ด้วยความเชื่อเหลือเกินค่ะว่า ประเทศของเรานี้จะมีประชาธิปไตยจริงๆ เชื่อว่าจะนำไปสู่การหยุดวงจรกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน และหยุดวงจรการรัฐประหาร
.
ผ้าดาดสีแดงผืนนี้ ดิฉันเก็บไว้ตลอด หลายปีที่ผ่านมา ด้วยความภาคภูมิใจที่ครั้งนึงเคยร่วมต่อสู้กับพ่อของท่าน เจ็บแค้น เจ็บใจกับสิ่งที่ท่านและครอบครัวถูกกระทำ เจ็บปวดกับการสูญเสียวีรชนประชาธิปไตยไปศพแล้วศพเล่า
.
แต่สุดท้ายท่านก็ดีลกันบนความสูญเสียของประชาชน แลกทุกอย่าง แลกความยุติธรรมและสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อประโยชน์ของตัวเองและคนในครอบครัว
.
ทุกอย่างที่ต่อสู้กันมาถึงวันนี้ พวกท่านกลับทำให้ดิฉันรู้สึกว่า “สูญเปล่า” จริงๆ ความสูญเปล่าของประเทศ ที่เกิดจากการดีลเพื่อการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ความสูญเสีย ความตาย สิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ถูดริดรอนไป กลับไม่ได้อะไรกลับมา”
.
#ดีลแลกประเทศ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #พรรคประชาชน #คนเสื้อแดง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=122144846306480817&set=a.122093096804480817
.....
.jpg)
Yingcheep Atchanont
12 hours ago
·
สไลด์ของ สส. แจม มุมบนขวา #อภิปรายไม่ไว้วางใจ
แจมกล่าวถึงคดีการชุมนุม ที่ผมเองตกเป็นจำเลย เพิ่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ 24 มีนาคม 2564 เป็นเวลาเกือบสี่ปีเต็ม สาเหตุที่ฟ้องช้า ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ถ่วงเวลา แต่เป็นเพราะผมกับเพื่อนจำเลยยื่นขอความเป็นธรรมให้อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง หลายฉบับ ตอนแรกนึกว่าจะสั่งไม่ฟ้องได้ แต่สุดท้ายก็สั่งฟ้อง
ดีที่สส.แจมยังไม่ลืมคดีนี้ แต่มันไม่ได้มีแค่คดีนี้ มีอีกหลักหลายร้อยคดีต่อเนื่องมาจาการชุมนุมยุคโควิดที่ยังเดินหน้าไปในศาล จำเลยอีกหลายร้อยคนยังได้รับความเดือดร้อน ศาลก็ไม่ค่อยอยากจะทำ สืบพยานและพิพากษาเป็นรูทีนกันไป ที่คดีนี้เป็นข่าวเพราะมันเพิ่งฟ้องก่อนอภิปรายไม่กี่วัน แต่ยังมีคดีไม่เป็นข่าวอีกมากมาย อยากให้สส. ช่วยขยี้เพิ่มให้หน่อย
คดีเหล่านี้ เกิดจากการไปชุมนุมไล่ประยุทธ์
ตอนปี 63-64 มีการชุมนุมเยอะ และก็มีโรคโควิดด้วย
เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่ออกไปชุมนุม
แต่ยุคประยุทธ์ ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกมา ตั้งศบค. มาคุมโรค
หลังจากนั้นออกข้อกำหนด ออกประกาศเป็นชุดๆ ใครจะไปจำได้หมด
แต่ละฉบับมีเงื่อนไขห้ามชุมนุม กำหนดพื้นที่ จำนวนคนต่างกันไป
ชุมนุมไล่รัฐบาลสักครั้ง มันก็ต้องหาเรื่องผิดให้ได้สัก 2-3 ฉบับน่ะแหละ
https://www.ilaw.or.th/articles/18807
การจัดกิจกรรมรวมตัวที่รัฐบาลจัดเองยังจัดได้ ซึ่งผมเห็นว่าควรจัดได้
แต่พอเป็นชุมนุมไล่รัฐบาลจะตามมาด้วยข้อหา และไม่ว่าทำอะไรก็จะหาข้อหาให้จนได้ เพราะเป็นยุคสมัยของกฎหมายพิเศษ
คดีแบบนี้ตำรวจก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่นายสั่งมา
อัยการก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่นายสั่งมา
ศาลก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่ยื่นฟ้องมาก็ต้องทำ
จำเลยก็เบื่อ ไม่อยากไปศาล แต่กฎหมายบังคับต้องไป
ทนายก็เบื่อ ทำซ้ำๆ มาเป็นสิบเป็นร้อยคดี แต่ก็ต้องทำต่อ
ในความเป็นจริงคดีเหล่านี้ยกฟ้องไปเยอะ หรือลงโทษปรับ หรือรอลงอาญา แต่บางคดีแค่ข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอยู่ๆ ศาลก็สั่งลงโทษจำคุกขึ้นมาเหมือนกัน ทำให้คนอาจจะต้องติดคุกจริงๆกันไม่น้อย (คดีที่จำคุกก็ยังอุทธรณ์) เลยเป็นเรื่องที่จะเพิกเฉยหรือมองข้ามไปไม่ได้ แม้จะไม่เร่งด่วนซีเรียสเท่าคดี 112 แต่ด้วยจำนวนของมัน มันยังเป็นปัญหาใหญ่มากๆ อยู่
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกโดยมติครม. เป็นอำนาจครม.
หลังประยุทธ์เลิกใช้พ.ร.ก. ดันสั่งติดไว้ว่า ให้คดีทั้งหมดที่ดำเนินอยู่ดำเนินต่อไปได้ แทนที่สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นแล้ว เลิกใช้กฎหมายพิเศษแล้วกลับสู่บ้านเมืองปกติกันได้ คุมโควิดด้วยวัคซีนด้วยระบบปกติก็ได้ ส่วนไอ้ที่ผ่านมาก็จบๆ กันไป ก็สั่งให้ยุติการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่สั่ง
ถ้ารัฐบาลใหม่ อย่างน้อยออกมติครม. แสดงความเห็นว่า คดีเหล่านี้ถ้าไปต่อก็ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ ก็สามารถทำได้ ตำรวจ อัยการ จะได้เอาไปอ้างอิงแล้วสั่งไม่ฟ้องก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ หรือไม่พิจารณาที่จะทำ
ถ้ารัฐบาลใหม่ลงมติยอมรับการแก้ไขพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วออกกฎหมายใหม่มาใช้แทน คดีเหล่านี้ก็จะจบไปเช่นกัน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ทำเช่นเดียวกัน คือ รัฐบาลนี้ทำเป็นมองไม่เห็น คดีเกือบพันคดี และจำเลยมากกว่า 1,800 คนที่แสดงออกทางการเมือง แล้วถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายพิเศษจากรัฐบาลประยุทธ์ หรืออาจจะไม่ได้ทำเป็นมองไม่เห็น แต่มองไม่เห็นจริงๆเลย ไม่เคยสนใจและไม่เคยรับรู้เลย
จึงอยากให้นายกฯ แพทองธาร ได้ยินเรื่องนี้บ้าง ถ้าโดนถามสดเรื่องนี้ แล้วต้องตอบสดไม่มีเวลาเขียนสคริป รับรองว่าตอบไม่ได้ แจมพูดผ่านให้แวบๆ กลัวทีมงานนายกฯ ยังไม่ได้ยิน หรือกลัวจะข้ามประเด็นนี้ไปโดยไม่ได้ตอบแบบลงรายละเอียดมันทุกประเด็น เรื่องนี้มีโอกาสที่รัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาได้ถ้าอยากจะทำ โดยยังไม่ต้องออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่รัฐบาลดูลังเลหนักหนาก็ได้ และสามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องหรือแตะต้องกับ 112 ซึ่งจะช่วยผ่อนแรงทุกคนไปได้มาก ก่อนที่จะค่อยๆ คุยเรื่อง 112 กันในโอกาสต่อไป
https://www.facebook.com/photo?fbid=9702349566462282&set=a.164850830212251
สไลด์ของ สส. แจม มุมบนขวา #อภิปรายไม่ไว้วางใจ
แจมกล่าวถึงคดีการชุมนุม ที่ผมเองตกเป็นจำเลย เพิ่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ 24 มีนาคม 2564 เป็นเวลาเกือบสี่ปีเต็ม สาเหตุที่ฟ้องช้า ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ถ่วงเวลา แต่เป็นเพราะผมกับเพื่อนจำเลยยื่นขอความเป็นธรรมให้อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง หลายฉบับ ตอนแรกนึกว่าจะสั่งไม่ฟ้องได้ แต่สุดท้ายก็สั่งฟ้อง
ดีที่สส.แจมยังไม่ลืมคดีนี้ แต่มันไม่ได้มีแค่คดีนี้ มีอีกหลักหลายร้อยคดีต่อเนื่องมาจาการชุมนุมยุคโควิดที่ยังเดินหน้าไปในศาล จำเลยอีกหลายร้อยคนยังได้รับความเดือดร้อน ศาลก็ไม่ค่อยอยากจะทำ สืบพยานและพิพากษาเป็นรูทีนกันไป ที่คดีนี้เป็นข่าวเพราะมันเพิ่งฟ้องก่อนอภิปรายไม่กี่วัน แต่ยังมีคดีไม่เป็นข่าวอีกมากมาย อยากให้สส. ช่วยขยี้เพิ่มให้หน่อย
คดีเหล่านี้ เกิดจากการไปชุมนุมไล่ประยุทธ์
ตอนปี 63-64 มีการชุมนุมเยอะ และก็มีโรคโควิดด้วย
เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่ออกไปชุมนุม
แต่ยุคประยุทธ์ ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกมา ตั้งศบค. มาคุมโรค
หลังจากนั้นออกข้อกำหนด ออกประกาศเป็นชุดๆ ใครจะไปจำได้หมด
แต่ละฉบับมีเงื่อนไขห้ามชุมนุม กำหนดพื้นที่ จำนวนคนต่างกันไป
ชุมนุมไล่รัฐบาลสักครั้ง มันก็ต้องหาเรื่องผิดให้ได้สัก 2-3 ฉบับน่ะแหละ
https://www.ilaw.or.th/articles/18807
การจัดกิจกรรมรวมตัวที่รัฐบาลจัดเองยังจัดได้ ซึ่งผมเห็นว่าควรจัดได้
แต่พอเป็นชุมนุมไล่รัฐบาลจะตามมาด้วยข้อหา และไม่ว่าทำอะไรก็จะหาข้อหาให้จนได้ เพราะเป็นยุคสมัยของกฎหมายพิเศษ
คดีแบบนี้ตำรวจก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่นายสั่งมา
อัยการก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่นายสั่งมา
ศาลก็เบื่อ ไม่อยากทำ แต่ยื่นฟ้องมาก็ต้องทำ
จำเลยก็เบื่อ ไม่อยากไปศาล แต่กฎหมายบังคับต้องไป
ทนายก็เบื่อ ทำซ้ำๆ มาเป็นสิบเป็นร้อยคดี แต่ก็ต้องทำต่อ
ในความเป็นจริงคดีเหล่านี้ยกฟ้องไปเยอะ หรือลงโทษปรับ หรือรอลงอาญา แต่บางคดีแค่ข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอยู่ๆ ศาลก็สั่งลงโทษจำคุกขึ้นมาเหมือนกัน ทำให้คนอาจจะต้องติดคุกจริงๆกันไม่น้อย (คดีที่จำคุกก็ยังอุทธรณ์) เลยเป็นเรื่องที่จะเพิกเฉยหรือมองข้ามไปไม่ได้ แม้จะไม่เร่งด่วนซีเรียสเท่าคดี 112 แต่ด้วยจำนวนของมัน มันยังเป็นปัญหาใหญ่มากๆ อยู่
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกโดยมติครม. เป็นอำนาจครม.
หลังประยุทธ์เลิกใช้พ.ร.ก. ดันสั่งติดไว้ว่า ให้คดีทั้งหมดที่ดำเนินอยู่ดำเนินต่อไปได้ แทนที่สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นแล้ว เลิกใช้กฎหมายพิเศษแล้วกลับสู่บ้านเมืองปกติกันได้ คุมโควิดด้วยวัคซีนด้วยระบบปกติก็ได้ ส่วนไอ้ที่ผ่านมาก็จบๆ กันไป ก็สั่งให้ยุติการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่สั่ง
ถ้ารัฐบาลใหม่ อย่างน้อยออกมติครม. แสดงความเห็นว่า คดีเหล่านี้ถ้าไปต่อก็ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ ก็สามารถทำได้ ตำรวจ อัยการ จะได้เอาไปอ้างอิงแล้วสั่งไม่ฟ้องก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ หรือไม่พิจารณาที่จะทำ
ถ้ารัฐบาลใหม่ลงมติยอมรับการแก้ไขพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วออกกฎหมายใหม่มาใช้แทน คดีเหล่านี้ก็จะจบไปเช่นกัน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ทำเช่นเดียวกัน คือ รัฐบาลนี้ทำเป็นมองไม่เห็น คดีเกือบพันคดี และจำเลยมากกว่า 1,800 คนที่แสดงออกทางการเมือง แล้วถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายพิเศษจากรัฐบาลประยุทธ์ หรืออาจจะไม่ได้ทำเป็นมองไม่เห็น แต่มองไม่เห็นจริงๆเลย ไม่เคยสนใจและไม่เคยรับรู้เลย
จึงอยากให้นายกฯ แพทองธาร ได้ยินเรื่องนี้บ้าง ถ้าโดนถามสดเรื่องนี้ แล้วต้องตอบสดไม่มีเวลาเขียนสคริป รับรองว่าตอบไม่ได้ แจมพูดผ่านให้แวบๆ กลัวทีมงานนายกฯ ยังไม่ได้ยิน หรือกลัวจะข้ามประเด็นนี้ไปโดยไม่ได้ตอบแบบลงรายละเอียดมันทุกประเด็น เรื่องนี้มีโอกาสที่รัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาได้ถ้าอยากจะทำ โดยยังไม่ต้องออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่รัฐบาลดูลังเลหนักหนาก็ได้ และสามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องหรือแตะต้องกับ 112 ซึ่งจะช่วยผ่อนแรงทุกคนไปได้มาก ก่อนที่จะค่อยๆ คุยเรื่อง 112 กันในโอกาสต่อไป
https://www.facebook.com/photo?fbid=9702349566462282&set=a.164850830212251
https://www.facebook.com/photo/?fbid=122144846306480817&set=a.122093096804480817