วันอาทิตย์, มีนาคม 23, 2568

ต้องให้ความเป็นธรรมกับเค้าบ้าง ซินเจียงนี่มีพื้นตั้ง 1,664,897 ตร.กม. ไปไม่กี่วันจะให้ไปหาเจอเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ยังไง ขนาด พัทยาพื้นที่แค่ 53.4 ตร.กม ตำรวจไทยไปตรวจทีไร ยังไม่พบการขายบริการทางเพศเลยครับ


Te Neti
March 19
·
ผมว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับ รองนายก ภูมิธรรม กับ ท่าน ทวี สอดส่อง นะครับ ซินเจียงนี่มีพื้นตั้ง 1,664,897 ตร.กม. ไปไม่กี่วันจะให้ไปหาเจอเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ยังไง
ขนาด พัทยาพื้นที่แค่ 53.4 ตร.กม ตำรวจไทยไปตรวจทีไร ยังไม่พบการขายบริการทางเพศเลยครับ
.....

เทวฤทธิ์ มณีฉาย - Bus Tewarit Maneechai
3 hours ago
·
[ แกะรอยภารกิจพิสูจน์ชีวิต ‘อุยกูร์’ ข้อมูลด้านเดียวกับข้อจำกัดการทำงานของสื่อ ]
.
รองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชชยชัย เพิ่งเสร็จภารกิจนำคณะพร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังมณฑลซินเจียง เพื่อติดตามผลการส่งกลับชาวอุยกูร์ 40 คน ไปยังประเทศจีน
.
ทั้งนี้ก่อนการเดินทางมีข้อกังขาจากบรรดาสื่อมวลชนและสังคมว่า รัฐบาลใช้เกณฑ์ใดในการ “คัดเลือก” สื่อมวลชนเพื่อเดินทางไปกับคณะ โดยเฉพาะเมื่อไม่ปรากฏรายชื่อของสื่อมวลชนหลายรายที่ติดตามทำข่าวประเด็นชาวอุยกูร์มาตั้งแต่ต้น
.
ต่อประเด็นนี้ผมเคยให้ความเห็นไปในคราวอภิปรายญัตติเรื่องการส่งกลับชาวอุยกูร์ฯ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาว่ารัฐบาลควรให้สื่อที่ติดตามประเด็นนี้มาตั้งแต่ต้นได้ไปลงพื้นที่เพื่อความหลกหลายและความต่อเนื่องของประเด็น แทนที่จะให้โอกาสเพียงสื่อใหญ่ที่ไม่ได้เกาะติดเรื่องนี้ไปทำข่าวในระบบพูลเท่านั้น
.
แน่นอนว่าภาพที่ปรากฎต่อหน้าสื่อทุกสื่อเหมือน ๆ กันตลอด 3 วันที่คณะเดินทางเยือนซินเจียง คือภาพอันชื่นมื่นของคณะเดินทางที่พบปะกับชาวอุยกูร์ที่ถูกระบุว่าเป็นชาวอุยกูร์ซึ่งเคยถูกคุมตัวอยู่ในไทย และคำให้สัมภาษณ์จากรองนายกฯ ภูมิธรรมรวมถึง ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ยืนยันว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่มีจัดฉากใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมยืนยันว่าชาวอุยกูร์ที่ได้พบมีชีวิตที่ดีและรู้สึกขอบคุณไทยที่ส่งกลับบ้านเกิด
.
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังขาถึง “ข้อจำกัด” ในการทำข่าวของทีมข่าวที่ร่วมคณะครั้งนี้ เริ่มจากประณต วิเลปสุวรรณ ผอ. ข่าวจากไทยรัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ “ทริปอุยกูร์นักข่าวไทยที่ไปโดนหน่วยความมั่นคงจีนประกบ แถมขอสแกนภาพที่จะส่งกลับไทยด้วย”
.
สอดคล้องกับอัจฉรา โพธิ์ศรี ผู้สื่อข่าว Thai PBS หนึ่งในคณะเดินทางในครั้งนี้เปิดเผยผ่านรายการทาง Thai PBS ว่า ทีมข่าวถูกกำชับให้มีการเบลอหน้าเจ้าหน้าที่จีนและชาวอุยกูร์ รวมทั้งมีการมอนิเตอร์ภาพข่าวหลังการออกอากาศและสั่งให้ทีมข่าวแก้ไขภาพ นอกจากนี้ยังมีการ “ตรวจบทข่าว” ของผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเผยแพร่ด้วย ขณะที่ฝ่ายจีนก็มีส่วนคัดกรองผู้สื่อข่าวในขั้นตอนการทำวีซ่า
.
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม องค์กร Justice For All ยังออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไทยจากการมีส่วนร่วมในการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อฟอกขาวความเป็นจริงที่ชาวอุยกูร์ผู้ไทยส่งตัวกลับประเทศจีนต้องเผชิญ และความพยายามดังกล่าวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีจุดประสงค์เพื่อปิดบังข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชน โดยใช้การเล่าเรื่องตามสคริปต์และข้อมูลที่ถูกบิดเบือน
.
พร้อมชี้ว่ารัฐบาลไทยเลือกที่จะแพร่ขยายโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แทนที่จะยืนอยู่ในฝั่งเดียวกับความจริงและสิทธิมนุษยชน การเยือนของคณะผู้แทนของรัฐบาลไทยมีการให้สัมภาษณ์ที่ถูกจัดฉากขึ้นมาและคำให้การที่มีสคริปต์มาให้แล้ว และการให้ความมั่นใจที่ไม่เป็นจริงว่าชาวอุยกูร์เหล่านั้นจะไม่ได้รับอันตรายหลังถูกส่งตัวกลับไปจีน การสนทนาที่ถูกจัดฉากขึ้นในการเยือนครั้งนี้ ไม่สามารถเป็นหลักประกันที่น่าเชื่อถือว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับจะได้รับความปลอดภัยและเสรีภาพ คำให้การที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทางการจีนซึ่งถูกเผยแพร่โดยสื่อที่รัฐบาลอนุมัติแล้วไม่สามารถเชื่อถือได้ และเป็นส่วนหนึ่งของการบิดเบือนเรื่องราวในวงกว้าง และตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังมีส่วนร่วมในการปกปิดการกลั่นแกล้งชาวอุยกูร์อย่างเป็นระบบ
.
กรณีที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งทำให้ข้อกังขาถึงการที่จีนเผยแพร่ภาพในเชิงบวกเพียงด้านเดียวยังคงดังก้องอยู่ในสังคมเนื่องจากภาพและข้อมูลที่ปรากฏออกมาเป็นเพียงข้อมูลด้านเดียวภายใต้ข้อจำกัดในการทำงานของสื่อ และดูเหมือนว่าการเยือนซินเจียงในครั้งนี้ของคณะรัฐบาลไทยจะยังไม่สามารถลบข้อครหาเรื่องการส่งผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตรายได้ รวมถึงไทยยังได้รับข้อครหาเพิ่มเติมคือการมีส่วนร่วม “ปกปิด” อาชญากรรมต่อชาวอุยกูร์ปผ่านการเดินทางเยี่ยมเยือนชาวอุยกูร์ที่ถูกกำกับโดยรัฐบาลจีน
.
ผมเรียกร้องให้อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลไทยต้องพิสูจน์ว่าชาวอุยกูร์ทั้ง 40 รายที่ส่งกลับไปนั้น “สมัครใจ” กลับไปจริง เพราะการที่รัฐบาลไทยแอบส่งพวกเขากลับไปกลางดึกในรถตู้ปิดทึบ ไร้พยานรู้เห็น และปิดกั้นสื่อมวลชนและนักสิทธิมนุษยชนถูกไม่ให้รับทราบความจริงนั้น ทำให้ยากจะเชื่อคำกล่าวข้างต้น

https://www.facebook.com/photo/?fbid=122144133896437811&set=a.122097007064437811